เคยอ่านเรื่องของความเท่าเทียมทางเพศด้วยเทคโนโลยีมาบ้าง คือเรื่องผ้าอนามัย (ใน In order to live) สัปดาห์ที่ผ่านมาอ่านเล่มนี้อีกรอบ ทำให้เห็นอีกมุมในประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นแดนเสรีอย่างสหรัฐฯ
- เอาเข้าจริงก็ไม่ได้แปลกใจมากนักเรื่องความอนุรักษ์นิยมในสหรัฐฯ (เคยอ่านเรื่องยุค prohibition) แต่ก็พบว่าเอาจริงๆ มันเปลี่ยนเร็วมากในแค่ 60 ปีที่ผ่านมา ปี 1960 กฎหมายห้ามสนับสนุนการ “คุมกำเนิด” (ไม่ใช่ทำแท้ง) ยังเต็มประเทศ
- ยุคนั้นการอนุมัติยาใช้ข้อมูลน้อยกว่าทุกวันนี้? ตัวยาคุมกำเนิดเปิดตัวมาใช้ n ไม่ถึง 50 เริ่ม 100 คนแต่กลุ่มตัวอย่างถอนตัวไปกลางทางเกินครึ่ง
- รายงานวิจัยอาศัยการขยายผลด้วยการบอกว่าไม่มีการท้องใน “รอบเดือน” ที่มีการกินยา เพื่อให้ตัวเลข n มันเยอะๆ เข้า
- ตัวยาผ่าน FDA ครั้งแรกด้วยการระบุข้อบ่งใช้เป็น “ยาควบคุมรอบเดือน” ให้มาตรง โดยมีผลข้างเคียงในคำเตือนคือทำให้ไม่ตกไข่
- การบิดคำพูดในการใช้งาน สร้างข้อถกเถียงใหม่หมู่คาธอลิกว่าการใช้ยายอมรับได้หรือไม่ ตัวศาสนจักรไม่ยอมรับการคุมกำเนิดมาตลอด แต่ก่อนหน้านี้ศาสนจักรเคยวินิจฉัยว่าการเป็นหมันหรือไม่มีลูกโดยธรรมชาติ (เช่นการนับวัน) ยอมรับได้ อีกทางคือการรักษาอย่างอื่นโดยไม่ตั้งใจแล้วทำให้เป็นหมันก็ถือว่าไม่ผิด ทีนี้พอผู้หญิงบอกว่าประจำเดือนมาไม่ปกติแล้วกินยามันทั้งปีทั้งชาตินี่จะยอมรับไหม?
- คนร่วมวิจัยและคนให้ทุนได้ผลประโยชน์ไม่มากนัก Katharine McCormick ที่เป็นนายทุนหลักแทบจะไม่ได้อะไรกลับมานอกจากการทำตามความเชื่อเรื่องสิทธิสตรีของตัวเอง