Blognone Upgrade

PENELOPE CRUZ GREYISH BLUE OFF-THE-SHOULDER CELEBRITY BALL GOWN

ผมพยายามอัพเกรด Blognone มาหลายครั้งก่อนหน้านี้ ด้วยข้อจำกัดหลายอย่างก็มาอัพเกรดเอาในนาทีสุดท้าย

  • แพตช์สุดท้ายออกเมื่อสิ้นเดือนกพ. ที่ผ่านมา สถานะ D6 ตอนนี้คือไม่ซัพพอร์ตอย่างสมบูรณ์
  • การอัพเกรดก่อนหน้านี้ล้มเหลวไปแล้วหลายรอบ ติดบั๊กเยอะมาก
  • การอัพเกรดนาทีสุดท้าย “ลื่น” กว่าที่เคยทำมาก่อนหน้านี้มาก เข้าใจว่าบั๊กตัวอัพเกรดหลายตัวถูกแก้ไปหมดแล้ว
  • อันนี้เผื่อใครสนใจเลือก CMS ใช้งานต้องเข้าใจว่า Drupal กับ WordPress มีแนวทางต่างกันสิ้นเชิง Drupal จะมาแนวคิด Enterprise กว่ามาก เช่น ต้องซัพพอร์ต PHP รุ่นที่ระบุไว้ตั้งแต่แรกแม้ผ่านมานานหลายปี ตามกำหนดการถ้าไม่เลื่อน Drupal 7 จะใช้งานได้อีกประมาณสี่ปี
  • ข้อเสียสำคัญของ Drupal คือ API แต่ละรอบ break หนักมาก โมดูลมักขาดไปหลายปี Drupal 7 ออกมาตั้งแต่ปี 2011 กว่าจะใช้งานได้จริงๆ โมดูลครบถ้วนก็ประมาณ 2013
  • ถ้ามีเงินหน่อย ทางออกสำคัญคือไปจ้างคนทำโมดูลไปรอไว้ซะ โครงการใน Drupal จะเห็นบริษัทสปอนเซอร์กันมากมาย ขาดอันไหนก็ไปสปอนเซอร์คนทำเดิมให้มาอัพเวอร์ชั่น
  • คนรอใช้ฟรีชีวิตก็จะลำบากหน่อย กว่าจะรอโมดูลครบ หลายครั้งโมดูลเดิมคนทำหายตัวต้องเปลี่ยนแนวทางเพื่อทำฟังก์ชั่นเดิม ข้อเสียคือกว่าจะไปเวอร์ชั่นใหม่ได้ก็ รุ่นปัจจุบันก็จะหมดอายุในไม่กี่ปีแล้ว
  • แต่ถ้าไม่ลำบากมาก ภายใน 1-2 ปีควรไป Drupal 8x (ช่วงก่อนเข้า LTS) โมดูลจะเริ่มครบ และได้ใช้ระบบนิ่งๆ ยาวพอสมควร
  • การอัพเกรดมีเหตุผลหลักคือ security patch เพราะรอบของ Drupal จะเป็น ฟีเจอร์สลับกับ security ตอนนี้ถ้าใครยังใช้อยู่ รอบแพตช์ security รอบต่อไปจะมาปลายเมษา (ถ้าไม่มีออกนอกรอบซึ่งเดาไม่ได้)
  • ถ้าใครกังวลเรื่องแพตช์ก็จะมีเวลาอีกเดือนกว่าๆ ถ้าใครไม่เคยอัพเลยก็ไม่ต้องกังวล รูโหว่น่าจะเพิ่มอีกไม่มากแล้ว (ถ้าไม่นับว่ารูเดิมน่าจะเยอะแล้ว)
  • เตรียมการมานาน แต่จริงจังเมื่อเดือนที่แล้ว
  • วางแผนสุดท้ายคือ ฟังก์ชั่นทุกอย่างเท่าเดิม ย้าย Engine อย่างเดียวก่อน
  • ต้องตัด taxonomy_image ออกหลังพยายามพอร์ตมาแล้วไม่สำเร็จ เดี๋ยวจะทำใหม่
  • สัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นสัปดาห์นรก กลับบ้านมาต้องมาซ้อมย้ายทุกวันว่าจะติดอะไรไหม (และก็ติดได้ทุกวัน) นับเฉพาะติดใหญ่ๆ เช่นเว็บไม่ขึ้น กระบวนการ upgrade db ไม่ผ่านเลย
  • ซ้อมอัพรอบสุดท้ายเมื่อวันเสาร์กลางวัน ตกลงใจว่าจะเริ่มตอนตีหนึ่ง พอตีหนึ่งก็ปรับเว็บเข้า read only mode
  • แผนการคือมี migrate environment ไว้ในโน้ตบุ๊ก ย้ายข้อมูลลงมาแล้ว migrate ซ่อม แล้วอัพกลับขึ้นเซิร์ฟเวอร์ (ระหว่างสัปดาห์พยายาม migrate บนเซิร์ฟเวอร์สองวันแล้วติดปัญหา)
  • migrate เสร็จประมาณตีสี่กว่า อัพกลับขึ้นไปเทส
  • เบลอและเมา อัพไฟล์ SQL ผิดไฟล์ เป็นไฟล์ snapshot ระหว่างกระบวนการ ต้องอัพใหม่
  • ตีห้ากว่า
  • ซ่อมโน่นนี่ ติดคอนฟิกเซิร์ฟเวอร์บางอย่าถึง 7 โมง
  • 7 โมงถึง 9 โมง สลับ reverse proxy ให้ไปเครื่องใหม่ แล้วทิ้งให้ D6 เข้าถึงไม่ได้ไว้อย่างนั้น
  • นอน
  • นอนไม่หลับ เที่ยงนิดๆ ตื่น
 

Digital TV

โน้ตความคิดไว้เสียหน่อย

  • การประมูลทีวีดิจิตอลเป็นหมายสำคัญอีกอย่าง ว่าอนาคตไม่ว่าธุรกิจอะไรก็มีคลื่นให้ประมูล ทั้ง telecom/broadcast (ที่หวังอีกอย่างคงเป็น “วิทยุ”)
  • ราคาแพงเกินไปตามมุมมองของผมเอง แต่ตามผู้ประมูลคงแล้วแต่
  • ไม่ว่าแพงไปหรือไม่ ผมมองว่ามันประสบความสำเร็จดี วงการทีวีมีการแข่งขัน บ้านผมดูช่อง Workpoint, Mono, ไปดู NOW บ้าง ทางเลือกเพิ่มขึ้น นี่คือความดีของการแข่งขัน
  • มันมีประเด็นการเมือง อันนี้เป็นอีกประเด็น ช่องข่าวซวยหน่อย แต่ก็เป็นความเสี่ยง คนทำธุรกิจวงการไหนก็มีความเสี่ยงภายนอกกันได้
  • มีเจ๊งบ้างก็เป็นเพราะการแข่งขัน การที่มีคนเจ๊งไม่ใช่ความผิดของกสทช. โดยตัวเอง
  • ที่แย่คือไม่ออกแบบเผื่อมีคนเจ๊งแต่แรก ผู้เข้าร่วมประมูลควรรู้ก่อนว่า “ถ้า” มีคนถอนตัวจะเกิดอะไรขึ้น จะมีประมูลรอบใหม่หรือไม่ หรือจะต้องเว้นช่วงนานแค่ไหน หรือหากไม่เว้นจะตั้งราคาอย่างไร บอกก่อนกันตรงๆ เผื่อใครอยากรอคนอื่นเจ๊งก็รอกันไปได้ ตามแต่ใจ
  • วันนี้คนจำนวนมากคงมองว่าช่องน่าจะเหลือ ผม “เดา” อาการแล้วสุดท้ายเมืองไทยอาจจะไม่ได้เปิด MUX ที่ 6 คลืนน่าจะ refarm ใหม่จนเอามาทำมือถือได้ อันนี้เป็นเรื่องแย่ที่ไม่คิดถึงกรณีมีคนเจ๊งเผื่อไว้ แต่การที่ประมูลช่องเยอะๆ แต่แรกไม่ใช่ความผิดของคนประมูล (รู้อะไรไม่สู้รู้งี้ มามองตอนนี้แล้วกลับไปด่าว่าทำไมตอนนั้นประมูลเยอะน่ะมันทำได้ทุกคน)
  • ความกังวลหลังจากนี้คงเป็นเรื่องคลื่นที่ (น่าจะ) ว่างๆ อยู่ในย่านนี้ในอนาคต
 

Flower Boys Next Door

blush pink long evening formal dress

กดมาดูจาก iflix อีกเรื่อง คิดว่าน่าสนใจดี คิดว่าไม่ใช่ pattern หนังรักที่เจอเท่าไหร่

  • นางเอกเป็นพวกเก็บตัวอยู่ในห้องไม่ไปไหน โทนครึ่งแรกมันเลยอึดอัดหน่อยๆ
  • พระเอกเป็น geek เกม ส่วนนางเอกเป็นบก. จีบกันด้วยการให้เป็นบก. หนังสือ
  • จริงๆ พล็อตเรื่องน่าจะทำให้ดาร์คกว่านี้ได้ วางปมมาหมดแล้ว แต่พอเป็นหนังรักเอเชียคนเขียนบทก็คงไม่กล้าทำแบบนั้น ไม่งั้นโดนด่าตาย
  • เนื้อเรื่องมีความเป็นการ์ตูนมาเรื่อยๆ คงไม่อยากให้อึดอัดเกินไป แต่ความเป็นการ์ตูนหลายจุดก็น่ารำคาญ
  • พล็อตรวมๆ ประมาณ John Green น่าจะได้ เรื่องราวของคนเข้าถึงยากเพราะมีปมในชีวิต กับอีกสองคนที่พยายามเข้าไปในชีวิต
  • Park Shin-hye (เลิกพยายามถอดเสียงภาษาเกาหลีแล้ว เดี๋ยวมีติ่งบ่น) สวยแบบ “เรียบ” ดี เข้ากับบทว่าจนๆ หน่อย ให้แบบไอดอลจ๋ามาเลยคงไม่ไหว
  • แต่พอท้ายๆ เรื่องปมที่วางไว้หมดก็ไม่มีอะไรแล้ว เป็นบทพ่อแง่แม่งอนกันไปตามประสา
  • ตอนจบแบบเป็น essay พูดบรรยายถึงความคิดตัวละคร ณ ตอนจบนี่น่าสนใจ คือเออจบแค่นี้ล่ะ ที่เหลือเล่าความคิดของตัวละครเลย ไม่บอกว่าหลังจากจบเป็นยังไง ไม่รู้ว่าเรื่องอื่นเป็นแบบนี้กันเยอะไหม ละครไทยนี่จบต้องมีบทสรุป งานแต่ง มีลูกหลานวิ่งไปมา ตัวร้ายตาย บ้านไฟไหม้ เข้าโรงพยาบาล
 

Off the Record

คิดเรื่องการแชตแบบไม่บันทึก (off-the-record) โปรแกรมแชตจำนวนมากมีฟีเจอร์นี้กัน แต่เอาเข้าจริงก็มีคำถามว่าสุดท้ายแล้วโปรแกรมพวกนี้มันมีผลจริงแค่ไหน เคยคิดๆ เรื่องนี้ไว้ว่า OTR จริงๆ ควรจะ

  • เป็นฮาร์ดแวร์แยก มีโค้ดขนาดเล็กมาก (audit โค้ดง่ายมาก) กระบวนการตรงไปตรงมา สามารถสร้าง HW/SW ได้เอง
  • มีทางเข้าออกข้อมูลชัดเจน เช่น serial link เส้นเดียวเป็น UART
  • กุญแจอยู่ใน HW ไม่สามารถเอาออกได้ เช่นตัด fuse ใน MCU หรือหล่อเรซินวงจรไปเลย
  • มีจอ/คีย์บอร์ดในตัว
  • enforce policy จากในตัวบอร์ด เช่นว่าแสดงข้อความ 1 นาทีแล้วทำลาย key จะ rotate ทันทีแล้วย้อนไม่ได้ ฯลฯ ยังมีข้อจำกัดบ้างคือเอากล้องมาถ่ายรูปหน้าจอแต่โดยทั่วไปน่าจะโอเค
  • โทรศัพท์เป็นเพียงช่องทางเชื่อมต่อ อาจจะมีแอปในโทรศัพท์เพื่อต่อกับเครื่องแชตนี้ แต่การที่โทรศัพท์โดน compromise ไม่มีผลอะไรในแง่ของเนื้อหา ข้อมูลถอดรหัสในเครื่องแชตอย่างเดียว