Engineering does suck in Thailand

From the Slashdot’s article about engineering education. I would like to share some aspect about engineering education from my experience.

The main cause of bad feeling to be Thai engineering student is most of your friend applied to this faculty just for money. More than half of your friend would be know next to nothing about engineering. They just know that to get some good grade they have to be good at Physics and Mathematics and they applied to this faculty simply because they will get a good-payment job when they earn the degree.

Things get worse with under-waged professors. Most Thai professors have do so many sideline jobs to pay their bills. While I think its okay to do some sideline jobs, most of them has so little time to spent with their student. There are two different outcomes for this situation. First, the professors just order you so many homework and give so little advice, little clue. They tended to grading those homework so lately most homework won’t give any grade or solutions to the students at all. Another is, the professor just do nothing. They just lecture and don’t give any homework. All you have to do in the class is listen and then you do the exam, that’s all.

Thai education system need to be revamped. (In fact, it need an overhaul)

 

lewcpe

CTO at MFEC PLC. Chief Editor at Blognone.com

 

4 thoughts on “Engineering does suck in Thailand

  1. ขอตอบเป็นภาษาไทยนะครับ

    ผมเป็นคนนึงที่เรียนวิศวะฯเพราะอยากเรียนอยากทำงานด้านนี้จริงๆครับ และตอนเข้ามาเรียนแรกๆผมก็คิดเหมือนคุณเรื่องนักศึกษาวิศวะฯที่เรียนเพราะอยากไ้ด้เงินเดือนดีๆ ตอนนั้นผมก็คิดเหมือนครับว่าความคิดแบบนี้เป็นเรื่องที่ผิด เพราะความคิดแบบนี้ทำให้ชาติไม่พัฒนา(ไม่รู้เกี่ยวกันปล่าว แต่ตอนนั้นคิดแบบนี้จริงๆ)

    แต่หลังจากที่เรียนไปได้ซักพักผมก็เปลี่ยนความคิดใหม่ครับ ตอนนี้ผมไม่คิดว่าความคิดแบบนั้นเป็นความคิดที่ผิดนะ คนเราก็น่าจะมีสิทธิ์ที่จะคิดแบบนั้นได้นะครับ เหมือนกับว่ามันเป็นความต้องการขั้นพื้นฐานของคน ที่ต้องทำให้ตัวเองอยู่รอดก่อน(หมายถึงการได้เงินเดือนดีๆ) ก็ลองคิดในมุมของคนนั้นดูสิครับเค้าก็ต้องใช้เงินเหมือนกัน แล้วบังเอิญว่าความสามารถในการหาเงินที่ดีที่สุดของเค้าคือวิชาฟิสิกส์กับเลข เค้าก็เลยเลือกเรียนวิศวะฯ

    ไม่ได้จะขวางโลกนะครับ แต่ผมคิดอย่างนี้จริงๆ คนเรามีสิทธิ์ที่จะเอาตัวเองให้รอดก่อน

    ส่วนเรื่องอาจารย์ในมหาวิทยาลัยไม่ขอพูดถึงครับ ไม่มีความรู้

  2. เพิ่งเห็น Feed ก็เลยเข้ามาแสดงความคิดเห็นหน่อย

    ผมว่าจริงๆ แล้ว ไม่ใช่เพราะเด็กหรอกครับที่เห็นว่าเงินเป็นปัจจัยหลัก ต้องมองที่ครอบครัวและสังคมมากว่า ทำไมเมืองไทยถึงนิยมเรียนวิศวะ…. ก็เพราะบ้านเราให้ค่านิยมไงครับว่า วิศวะเงินเดือนสูงกว่า โอกาสก้าวหน้าสูงกว่า (แล้วมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ) ทำให้เด็กที่จะเข้ามมหาลัยถูกหล่อหลอมด้วยค่านิยมแบบนี้เสมอมา บางคนในตอนเด็กๆ อาจจะไฝ่ฝันที่จะเรียนอย่างอื่น แต่ยิ่งโตขึ้นๆ ก็ถูกหล่อหลอม, ถูกโฆษณาชวนเชื่อ จนในที่สุดก็เป็นค่านิยมที่ว่า เก่งฟิสิกส์ เก่งเลข ต้องไปเรียนวิศวะ เก่งหลายๆอย่าง เน้นชีวะ ต้องเรียนหมอ เภสัช ทั้งที่จริงๆ มันไม่ใช่

    สำหรับตัวผมตอนนี้ก็เรียนวิศวะอยู่เหมือนกัน ที่จริงตอนอยู่ ม.ปลาย ก็ลังเลระหว่างวิทยาศาสตร์กับวิศวะ แต่เลือกเรียนวิศวะ เพราะผมคิดต่างจากคนอื่น ว่าวิทยาศาสตร์ต้องเก่งกว่า ตัวผมเก่งไม่พอที่จะเรียนวิทยาศาสตร์ ก็เลยมาขอเรียนวิศวะเแทนละกัน เพราะผมคิดว่าถ้าจบออกมาแล้วเรียนวิศวะ ก็สามารถ เปลี่ยนสังคมได้เหมือนเรียน วิทยาศาสตร์นั่นแหละ

    เรื่องอาจารย์ในมหาลัย บางคนก็เป็นแบบที่ว่าครับ แต่บางคนก็ทุ่มเทให้กับลูกศิษย์จริงๆ อันนี้ก็แล้วแต่คน

Comments are closed.