ไม่รู้บาปมากไหม แต่พิมพ์จากคีย์บอร์ดบนหน้าตักนี่มันสนุกจริงๆ ชอบเลยอันนี้
ความดีที่กูไม่ได้ทำ
น่าดีใจที่เราเกิดมาบนโลกที่มีโอกาสทำความดีได้มากมายนัก
ดูสินั่น บิล เกตต์บริจาคเงินแทบหมด
ดูสินั่น ตระกูล Rockefeller บริจาคจนรพ. หลายแห่งในไทยก็ก่อตั้งได้อย่างแข็งแกร่ง
เศรษฐีมากมาย คนดังจำนวนมากออกมาช่วยกันสร้างสรรค์เรื่องดีๆ ให้สังคม
ดูสินั่น คนนั้นมีเงินมากมาย แต่กลับบริจาคเพียงเล็กน้อย เราต้องช่วยกันประณามมัน
มันต้องไม่มีที่ยืนในสังคมนี้ คนบริจาคเพียงเท่านี้ไม่ควรมีหน้าอยู่ในสังคม
ดูสินั่น มันไม่เคยแสดงหลักฐานว่ามันเคยได้ช่วยเหลือคนตกยากเสียเท่าใด
ดูสินั่น ครั้งนี้มันจำเป็นเห็นๆ มันกลับไม่ยอมช่วยเหลือใคร
ดูสินั่น เราลงแรงแบกของมากมาย มันมีเงินทำไม่ไม่ให้เงินมาสนับสนุนเรา
ดูสินั่น เราลงเงินและลงแรง มันเป็นคนดังทำไมไม่ช่วยโปรโมทเรา
ผมยังเชื่อในความดีของมนุษย์ ผมยังเชื่อว่าสังคมเราไม่จำเป็นต้องควบคุมด้วยกฏเกณฑ์ที่ตายตัวไปทั้งหมด แต่ความดีที่มีอยู่ในตัวแต่ละคน จะรวมกันสร้างสรรค์เรื่องดีๆ ในโลกได้มากมาย
แต่เมื่อเราเริ่มเอาความดีของเราเอง หรือแย่กว่านั้นคือเอาความดีของคนอื่น ไปเป็นไม้บรรทัดคาดคอคนอื่นว่านี่คือเส้นที่ไม่ควรทำเพราะมันจะกลายเป็นความ “ชั่ว” เรายังเรียกมันว่าความดีได้หรือ
ในแง่หนึ่ง เราเองก็ไม่อยากให้เส้นความดีความชั่วนั้นชัดเจน เพราะกลัวว่าวันหนึ่งเราจะรวย หรือมีอำนาจ หรือดังเท่านั้นแล้วต้องแบกรับแอกนั้นไว้เอง แต่ในแง่หนึ่งที่วันนั้นของเรายังมาไม่ถึง เรากลับเที่ยวเอามาตรฐานความดีที่เราคิดขึ้นไปวางใส่คนอื่นด้วยความสะใจ
นี่มันความชั่วช้าชัดๆ
ลด 50%
ensogo ด้วย
สำคัญ
ช่วงนี้เจอประโยคเด็ด “ขอโทษที่ให้รอนาน” แล้วติดหูเป็นพิเศษ (คำใบ้ เจ้าของคำพูดเป็น geek ที่กำลังจะแต่งงาน!)
มันไม่ยากนัก ที่คนๆ หนึ่งจะรู้ว่า คนสำคัญของเรา สำคัญแค่ไหน
แต่มันยากกว่ามาก ที่จะรู้ว่าสำหรับเขาเราเองสำคัญแค่ไหน
แม้เราจะรับรู้ แต่หลายครั้งเราเองก็ปฎิเสธมัน
แม้เราจะมองเห็น แต่หลายครั้งที่เราก็แค่มองข้ามมันไป
แล้วเราก็บอกกับตัวเอง ว่าเราไม่สำคัญขนาดนั้นหรอก
ถ้ามีใครคนหนึ่ง ที่เขาสำคัญสำหรับคุณ และคุณสำคัญสำหรับเขา
ยิ่งกว่านั้น คุณก็ตระหนักว่าคุณสำคัญสำหรับเขา และเขาก็ตระหนักว่าเขาสำคัญสำหรับคุณ
รักษากันและกันไว้ให้ดีเถิด…
แด่ทุกคนที่เห็นความสำคัญของกันและกัน