เลือกหูฟัง

เนื่องจากเป็นคนชอบฟังเพลงพอสมควร (แต่เล่นไม่ได้เลย) และมีโอกาสได้จับเครื่องเสียงแพงๆ มาบ้าง แต่พอจะซื้อเองก็เลือกซื้อหูฟังเสมอ เพราะสะดวกกว่า

สิ่งที่เจอถามเสมอคือ “จะดูยังไง” เขียนรวมไว้ทีเดียว แล้วกัน

  1. เสียงดีไม่ดีขึ้นกับคนฟังเป็นหลังดังนั้นไม่ต้องพยายามฟังหูฟังดีๆ แล้วคิดว่ามันดี ไม่ต้องเรียนรู้ว่าซื้อของดีมาแล้วจะฟังยังไงให้รู้ว่าดี
  2. ร้านหูฟังที่ดีคือร้านที่มีให้ลองเยอะๆ ไม่ใช่ร้านที่ถูกที่สุด ไม่มีประโยชน์อะไรถ้าคุณจะได้หูฟังราคาถูกที่สุด (ในรุ่นนั้นๆ) แต่คุณกลับชอบรุ่นที่ราคาถูกกว่า
  3. ถามตัวเองว่าใช้อะไรฟังเพลงมากที่สุด แล้วพยายามพกของชิ้นนั้นไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊ก เครื่องเล่น MP3 หรือโทรศัพท์มือถือ ร้านที่มีให้ลองจะไม่รังเกียจที่คุณจะใช้เครื่องของคุณลองเอง
  4. เลือกเพลงที่คุณฟังบ่อยที่สุดไปลอง พยายามใช้เพลงนั้นเป็นตัวเทียบ
  5. อย่าใช้เครื่องเล่นของร้าน (ยกเว้นคุณจะไปซื้อเครื่องเล่นพร้อมกันอยู่แล้ว)
  6. อย่าใช้เพลงของร้าน เหตุผลสำคัญคือร้านมักเลือกเพลงที่อัดมาดีมากๆ หรือเพลงค่อนข้างดีมากอยู่แล้ว ทำให้ความรู้สึกว่าหูฟังดีถูกบิดเบี้ยวจากเพลงมันดี
  7. เวลาเลือก ให้เลือกโดยไม่สนใจราคาก่อนเสมอ ขอลองไปเรื่อยๆ ใช้เวลากับมัน ไม่อย่างนั้นความคิดจะถูกครอบงำด้วยราคาแล้วคิดไปเองได้ว่าของแพงต้องดีกว่า เลือกกลุ่มที่ถูกใจค่อยถามราคาหลังจำกัดกลุ่มที่ถูกใจได้แล้ว
  8. ร้านอาจจะเสนอทางเลือกเพิ่มเติม เช่น DAC (ซาวการ์ดเพิ่มเติม), หรือแอมป์ ถ้าใช้ในบ้านคงไม่มีปัญหา เลือกลองตามงบประมาณ ถ้าใช้นอกบ้านคิดด้วยว่าจริงๆ แล้วพร้อมจะแบกรึเปล่า
  9. ถ้าไม่พร้อมจะแบกเพิ่ม ก็ดื้อลองด้วยของที่ใช้จริงไป
  10. ถ้ารู้สึกว่าไม่ต่างกัน ซื้อรุ่นถูกก่อน
 

SSH multi port

มีหลายครั้งที่เราต้องการ ssh หลายชุดที่ไม่เกี่ยวกันไว้บนเครื่องเดียวกัน บาง app อาจจะไม่เป็น sshd ปกติแต่เปิด ssh เพื่อความปลอดภัยเฉยๆ

ปัญหาชีวิตคือพอเข้าเครื่องเดิม แล้วไปเจอ ssh คนละชุด ssh client จะร้องโหวกเหวกโวยวายว่าเรากำลังเจอเครื่องปลอม

ทางออกของเรื่องนี้คือบางครั้งก็ของ่ายๆ ให้มันยกเลิกการตรวจสอบไปก่อน ใน ssh มีตัวเลือก StrictHostKeyChecking ที่จะไม่เตือนผู้ใช้แม้จะเจอเครื่องที่ไม่รู้จัก และ UserKnownHostFile ที่ใช้เปลี่ยนไฟล์รายชื่อเครื่องที่เราเคยเข้า

ทางเลือกที่ง่ายที่สุดแต่ไม่ปลอดภัย คือ

ssh -oStrictHostKeyChecking=no -oUserKnownHostFile=/dev/null user@server -p 12345

พอใช้ ssh คนละตัวในเครื่องเดียวกัน ก็จะไหลเข้าไปเลย ไม่มีเตือนอีก

ท่านี้ไม่ดีนัก ถ้าเจอ MITM ขึ้นมาจริงๆ ก็ควรสร้าง UserKnownHostFile แยกออกไปต่างหากให้เรียบร้อย

 

Les Misérables

ในช่วงปีที่ผ่านมาแนวทางการฟังเพลงผมเปลี่ยนไปมาก จากการฟังเพลงของดีสนีย์ และพบว่าเพลงหลักของเรื่องมู่หลานคือเพลง Reflection และพบว่าคนร้องเพลงนี้คือ Lea Salonga เมื่อตาม YouTube ไปเรื่อยๆ จึงพบว่าเธอดังมาจากวงการละครเวทีมาก่อน เรื่องแรกที่เธอเล่นคือ Miss Saigon โดยมันเลิกเล่นไปแล้ว แต่อีกเรื่องที่ดังระดับตำนานคือ Les Miserables ผมฟังเพลงจากเรื่องนี้ไม่หยุด จนจับพลัดจับผลูได้ไปลอนดอนเข้าจริงๆ แล้วหาโอกาสไปดูมันจนได้
ฉากหลักของ Les Misérables นั้นเป็นคือกบฎเดือนมิถุนายน เป็นกบฎเล็กๆ ที่มีคนเข้าร่วมเพียงสามพันคนเพื่อเรียกร้องให้เปลี่ยนการปกครองกลับไปเป็นสาธารณรัฐอีกครั้ง หลังจากที่ฝรั่งเศสถูกปกครองด้วยระบบสมบูรณาญาสิทธิราชแบบเสรีนิยม
ความเข้าใจคนไทยจำนวนมากคงเข้าใจกันผิดๆ ว่าประเทศที่ “เปลี่ยนเมื่อพร้อม” นั้นจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้ในทันที ในความเป็นจริงแล้วแม้แต่ฝรั่งเศสเองทุกวันนี้ก็เป็นสาธารณรัฐที่ 5 การต่อสู้กันระหว่างฝ่ายนิยมกษัตริย์กับฝ่ายต้องการประชาธิปไตยในฝรั่งเศสนั้นต่างกันมากจนหาจุดร่วมไม่ได้ ผลกลายเป็นการสู้รบนองเลือด
ในเรื่อง Les Misérables นั้นด้วยกำลังคนที่ต่างจากฝ่ายรัฐบาลถึงสิบเท่าตัว เพียงสามวันกบฎก็ถูกปราบจนราบคาบ จำนวนผู้เสียชีวิตนั้นต่างกันไป บางแหล่งระบุว่าประชาชนตายไปถึง 800 คนในครั้งนั้น
ตัวนิยายเรื่องนี้เขียนโดย Victor Hugo ที่เป็นรอยัลลิสต์ และเปลี่ยนมุมมองทางการเมืองมาเป็นฝ่ายสาธารณรัฐในภายหลัง โดยมุมมองของเขาสะท้อนออกมาจากนิยยายที่เขาเขียน
เรื่องนี้กำลังเข้าเป็นหนังเพลงปลายปีนี้ ก็รอดูกันได้ เพลงทำใหม่น่าจะฟังง่ายกว่าในละครเวทีด้วย
 

Lonely Chat

คิดเล่นๆ ว่าถ้ามีโปรแกรมแชต ที่ไม่ใช้ข้อมูลของเราเลย

เปิดมาแล้วมีปุ่มเดียวคือ “เหงา” กดแล้วเซิร์ฟเวอร์จะจับคู่คนอื่นๆ ให้คุยกัน

ถ้าคุยแล้วถูกคอ ก็คุยกันไป ไม่มี profile ไม่มี contact มีแต่แชต ถ้าปิดแชตก็จบไป หรือถ้าคุยไม่มากพอก็กดปุ่มเหงาซ้ำไปเพื่อหาคนคุยเพิ่ม

ไม่มีใครรู้ว่าเราเป็นใคร และเราก็ไม่รู้ว่าเราจะคุยกับใคร

ก็แค่มีคนมาคุยกัน