Love Forecast

Love Forecast หนังเกาหลีเมื่อต้นปี เรื่องราวของชายซื่อๆ ที่ดันเป็น “เพื่อนสนิท” กับผู้ประกาศข่าวพยากรณ์อากาศคนดัง (และสวย)

โทนเรื่องยังเป็นไปตามครรลองหนังรักแบบสูตรสำเร็จ คือ คนธรรมดาจะเป็นแฟนกับคนที่หล่อ/สวยมากๆ ได้หรือไม่ แนวหนังเกาหลีคงเล่นแนวนี้กันมานาน ตั้งแต่แบบหลุดๆ จากความจริงไปเลยอย่าง My Sassy Girl ที่สาวมาจากไหนไม่รู้แล้วอยู่ๆ จะได้คบกัน

Love Forecast ดึงอารมณ์ร่วมคนกลุ่มใหญ่ขึ้นมาหน่อยด้วยการเล่นกับความเป็นเพื่อนกับคนสวยมากๆ แถมดัง ในโลกความเป็นจริงผู้ชายที่มีเพื่อน “ป็อบ” สักหน่อย เป็นเรื่องปกติ (ส่วนจะเคยแอบชอบหรือไม่ก็คงตัวใครตัวมัน) ดันเรื่องให้หลุดจากความเป็นจริงไปอีกหน่อยด้วยการที่ฝ่ายหญิงเป็นผู้ประกาศข่าว แล้วไปเล่นกับกิมมิคของลมฟ้าอากาศตามอาชีพของฝ่ายหญิง

ตัวหนังดูได้เรื่อยๆ ตามแบบฉบับหนังรักตลกเกาหลี แต่โดยรวมไม่ได้โดดเด่นมากจนถึงกับไม่ได้ดูจะเสียดายอะไรแบบนั้น

เจอว่าพระเอกกับนางเอกไปออก Running Man ก่อนหนังเข้าสองตอน ตามไปดูเล่นๆ พบว่าไม่สนุกเท่าไหร่ แต่น่าสนใจว่าตัวรายการช่วยโปรโมทหนังถึงกับทำธีมรายการเป็นฤดูกาลเลย ช่วยกันทำมาหากินดีเหมือนกัน

 

Endless Nights in Aurora

Endless Nights in Aurora เป็นหนังรักไต้หวัน (ถ้าไม่ได้บิน China Airlines คงไม่มีโอกาสได้ดู) เนื้อเรื่อเล่นกับโควทที่บอกว่า “รักแรกมีไว้เพื่อเจ็บปวด”

เนื้อเรื่องสลับแทรคไปมาระหว่างอดีตและปัจจุบัน ไปจนถึงคู่และเหตุผลที่แต่ละคนว่าทำไมถึงตัดสินใจตามในเรื่อง ทำให้ครึ่งเรื่องแรกจะงงมาก เพราะต่อกันไม่ติด แต่พอเริ่มจับเรื่องราวได้แล้วครึ่งเรื่องหลังก็ดูสนุกดี

ตัวบทเล่นกับอารมณ์ของเรื่องมากกว่าเหตุผลจากเนื้อเรื่อง เข้าใจว่าได้อิทธิพลมาจากบทละครที่ไปดัดแปลงมาเยอะพอสมควร แต่อารมณ์ของหนังก็ไม่ได้เน้นประเภทขับน้ำตาท่วมจออะไรขนาดนั้น

ชอบเป็นพิเศษในส่วนบทหนังที่แม้จะแปลกๆ แต่ก็ค่อนข้างไม่ซ้ำใคร

 

Mission Impossible 5 (Spoil)

  • Dell, Tissot, และ BMW
  • Dell แย่สุด จงใจค้างมุมกล้องอย่างน่าเกลียด Tissot รองลงมา BMW ได้เปรียบเพราะมันเป็นฉากไล่ล่า
  • ไฟล์เข้ารหัส แต่ถอดรหัสด้วย voice recognition? แสดงว่า key มันก็อยู่ในไฟล์นั่นล่ะ
  • recognize ด้วยท่าเดิน? เทคโนโลยีทุกวันนี้ถ้าเอาไปใช้จริงแบบนั้น agent เมิงน่วมหมดทุกคนอ่ะ
  • จะเอาดิสก์ไปแช่น้ำทำแมวอะไร
  • ซับแปลประหลาดหลายจุด ดีใจที่ฟัง audiobook จะไม่ต้องอ่านซับ อ่านทีไรแล้วหงุดหงิด
  • มึงขัดคำสั่งนายกโดยตรง ตั้งหน่วยงานทั้งที่ถูกสั่งห้ามตั้งแต่ตอนวางแผน ทำกระบวนการทั้งหมดอย่างเงียบเชียบ เพื่อที่สุดท้ายจะเอาเงินทั้งหมดไปบอกให้นายกปลด มึงเมายารึเปล่า
 

Wearable Computing

ได้ลองใช้ Pebble Time มาพักใหญ่ๆ จดโน้ตความคิดเกี่ยวกับมันสักหน่อย

  • ปัญหาของ Wearables โดยรวมคือไม่มี killer app ใหม่ๆ ผ่านมาสามปี การใช้งานที่คิดออกตอนนั้น ตอนนี้ก็เท่าเดิม
  • การใช้งานที่ใช้ได้จริงของ Wearable ถูกจำกัดอยู่ที่ นับก้าว, ดู notification, และตอบข้อความแบบง่ายๆ
  • ผ่านไปหลายปี สิ่งที่เพิ่มขึ้นมาคือความเนียนในการใช้งาน ไม่มีการใช้งานใหม่ๆ เพิ่มเติม อาจจะขยายไปบ้าง นับก้าวอาจจะจับการเต้นหัวใจได้ด้วย, การดู noti อาจจะทำได้หลากหลายแอพขึ้น, การตอบข้อความอาจจะดีขึ้นหน่อย แอปเปิลใช้มือวาด Pebble ตอบด้วยเสียง
  • ต่างจากในสมัยของโทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ต เราเห็นแนวทางการใช้งานใหม่ๆ ที่ฉีกออกไปเกิดขึ้นเรื่อยๆ โทรศัพท์เอามา เล่น social, chat, video call, เกมรูปแบบใหม่ๆ ฯลฯ แนวทางการใช้งานที่แปลกออกไปเกิดขึ้นแทบทุกปีอย่างต่อเนื่อง อย่างหลังๆ ก็นับก้าวได้แล้วด้วย
  • Wearable เลยเกิดได้ในวงจำกัดในฐานะ Wearable (ไม่ใช่ในฐานะเครื่องประดับ) น่าสนใจว่าถ้ามีสถิติการใช้งาน ปริมาณการใช้งานจริงก็น่าจะยิ่งต่ำลงไปอีกเพราะคนซื้อไปเป็นเครื่องประดับกันส่วนหนึ่ง ใส่แล้วได้ watch face แปลกๆ ทุกวันก็เป็นเรื่องน่าสนุกดีสำหรับหลายๆ คน
  • ลองใช้งานดูพบว่าโทรศัพท์เป็นคู่แข่งสำคัญ ระยะเวลาหยิบโทรศัพท์มาทำ operation ที่ซับซ้อน เช่น ตอบอีเมล ไม่ได้นานขนาดนั้น อาจจะปลดล็อก 5-10 วินาที wearable ต้องแข่งกับระยะเวลานี้ ต่างจากโทรศัพท์และแท็บเล็ตที่แข่งกับเวลาเปิดคอมที่อาจจะหลายนาที
  • การดู noti แบบชายตามองว่าใครส่งข้อความมาเป็นการใช้งานที่มีประโยชน์จริง แต่พอจะเริ่ม reply ก็เริ่มตั้งคำถามทันทีว่าคุ้มไหม Pebble Time กว่าจะส่งหน้ายิ้มไปได้ใช้การกด 3-5 ครั้ง
  • แอพที่จะเกิดได้จริง คือแอพที่ไม่คุ้มที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา การ interact ต้องใช้เวลาสั้นมากๆ สั้นกว่าการปลดล็อกโทรศัพท์
  • UI อาจจะต้องเปลี่ยนไปอีกจากนี้ เราอาจจะต้องทำ operation ที่ซับซ้อนขึ้นแต่ใช้เวลา interact สั้นลง เช่นเราอาจจะส่งข้อความไปหาเพื่อโดยรู้ว่าเพื่อนใช้ wearable แล้วสามารถสร้างตัวเลือกที่ตอบได้ในคลิกเดียวได้เลย (ไปไหม Y/N อะไรแบบน้น)
  • แอพพลิเคชั่นใหมๆ จะอยู่บนแนวทาง แปลกใหม่แต่ใช้เวลานิดเดียว มันมีอะไรที่ทุกคนน่าจะต้องใช้และทำได้ภายใต้เงื่อนไขนั้นไหม?
  • การจะทำได้ บริการจะต้องเดาใจผู้ใช้ให้แม่นกว่าทุกวันนี้อย่างมากๆ 4sq เดินเข้าร้านต้องแสดงร้านได้อย่างแม่นยำ กดหน้าจอแล้ว checkin ได้เลย เพราะผู้ใช้ไม่ต้องการมากดเลือกๆ อีก (ไม่คุ้ม เปิดมือถือเอาง่ายกว่า)