ลิ่ว – สงสัยว่ะ
น้อง – อะไรพี่
ลิ่ว – ถ้าเกิดพวกนี้แม่ง สอบตกกันหมดขึ้นมา มันจะเรียกร้องใครรับผิดชอบว่ะ ระหว่างรัฐบาล กับพันธมิตร
น้อง – โอ้ย จะให้ใครรับผิดชอบพี่ พวกมันนั่นแหละที่ต้องรับผิดชอบกันเอง
ลิ่ว – เออ จริง
ลิ่ว – สงสัยว่ะ
น้อง – อะไรพี่
ลิ่ว – ถ้าเกิดพวกนี้แม่ง สอบตกกันหมดขึ้นมา มันจะเรียกร้องใครรับผิดชอบว่ะ ระหว่างรัฐบาล กับพันธมิตร
น้อง – โอ้ย จะให้ใครรับผิดชอบพี่ พวกมันนั่นแหละที่ต้องรับผิดชอบกันเอง
ลิ่ว – เออ จริง
นานมาแล้วผมเคยไปยืนอ่านหนังสือฟรีในร้านหนังสือแถวโบสถ์
หนังสือเล่มนั้นเป็นรวมเรื่องสั้นที่เนื้อหาค่อนข้างหนัก ผมอ่านไปได้แค่เรื่องเดียวแล้วก็พบว่าตัวเองคงไม่อยากอ่านหนังสือแนวนี้เท่าใหร่เลยหยุดอ่านไว้แค่เรื่องเดียวที่ลองอ่านนั่นล่ะ
เนื้อเรื่องของเรื่องสั้นเรื่องนั้นพูดถึงครอบครัวหนึ่งที่มีโอกาสได้ไปช่วยเหลือหญิงท้องแก่ที่ขาดที่พึ่งด้วยการรับมาอยู่ในบ้าน
เวลาผ่านไป หญิงสาวคนนั้นดูเหมือนจะมีชีวิตที่สบายเกินไปในสายตาของสมาชิกครอบครัว ทุกคนเริ่มอึดอัดใจที่ต้องช่วยเหลือหญิงคนนี้ พวกเขาเริ่มกดดันให้หญิงคนนี้ต้องทำงาน และกดดันจากสายตาและความรู้สึก
เรื่องราวจบลงที่หญิงคนนั้นทำงานจนกระทั่งลูกคลอดออกมาระหว่างทำงาน และครอบครัวก็ตาสว่างขึ้นมาว่าพวกเขาไม่ได้อยากช่วยให้หญิงคนนี้มีชีวิตที่ดีกว่าเดิมเลย
พวกเขาแค่อยากให้มีคนที่อยู่ในระดับที่ต่ำกว่ามาอยู่ในบ้านเพื่อให้รู้สึกว่าตัวเองนั้นสูงขึ้นสักหน่อย และพวกเขาอยากให้มันเป็นอย่างนั้นตลอดไป
ผมนึกถึงสังคมไทยในตอนนี้แล้วสังเวชกับความคิดของชนชั้น “ปัญญาชน” จำนวนมาก นานมาแล้วที่เรามองภาพว่าคนต่างจังหวัดขาดโอกาส เราสร้างภาพว่าเราอยากช่วยเหลือเขา ด้วยการออกไปสอนหนังสือเด็กกันปีละสามสี่วัน กับสร้างศาลาที่ไม่รู้จะเอาไปทำอะไรให้หมู่บ้านละหลัง
แล้วเราก็รู้สึกภูมิใจในตัวเองว่าเรานี่ช่างสูงส่งเสียจริงที่เราได้ช่วยเขาถึงเพียงนี้
มาวันนี้คนต่างจังหวัดเหล่านี้แหละ ที่เราบอกนักหนาว่าเขาควรได้รับโอกาสต่างๆ นาๆ เริ่มมีเสียงในสังคม
เรากลับลำกันทุกอย่าง ด้วยการดูถูกพวกเขาว่าโง่ และควรถูกกดให้อยู่ในระดับต่ำกว่าเช่นนั้นต่อไป พวกเขาไม่ควรมีสิทธิ์มีเสียงอะไร
เราอยากให้พวกเขารับการ “บริจาค” จากเราตลอดไป
แล้วเราก็รู้สึกว่าเราเป็นคนดีเสียจริง
คนดีคนที่หนึ่ง เป็นคนเห็นแก่ตัวในสายตาคนรอบข้าง เขาทำงานเพื่อเงิน เขาไม่ยอมทำงานล่วงเวลา แต่เขามีเวลาให้ครอบครัว เพื่อนฝูง
คนดีคนที่สองเป็นคนดีให้สายตาคนรอบข้าง เขาทำงานเพื่อคนอื่น เพื่อนร่วมงานรักเขา แต่ครอบครัวของเขาต้องทนทุกข์กับเวลาที่มีน้อยนิด
ไม่มีอะไรมากครับ แต่อยากจะบอกพวกอ้างสิทธิในการกระทืบว่าจ่ายค่าธรรมเนียมเป็นการติดคุกสักสามสี่ปีนี่ มันแสดงความไร้อารยธรรมอย่างเหลือเชื่อ
ไม่มีกฏหมายข้อไหนระบุให้การไปกระทืบคนอื่นเป็นสิทธิพึงมีของคนไทยคนใดๆ การกระทำผิดคือการกระทำผิด และโทษไม่ใช่ค่าธรรมเนียม คนที่บอกว่าสามารถกระทืบคนอื่นได้เพราะยินดีจะติดคุกไม่ต่างอะไรจากพวกคนรวยเลวๆ ที่ฝ่าไฟแดงแล้วยอมจ่ายค่าปรับ
ความชั่วคือความชั่ว การชดใช้ไม่ได้ทำให้ความชั่วมันหายชั่วแม้แต่น้อย