ทำไมจึงควรเขียนที่ Blognone

นั่งมองหาจุดขายของ Blognone เล่นๆ สิ่งสำคัญนอกจากการที่จะมีคนเข้ามาอ่านมากๆ แล้ว คนเขียนก็สำคัญ ขณะที่เราเป็นเพียงเว็บเล็กๆ ที่ครองสัดส่วนตลาดคนอ่านเพียงเท่ามด แต่ผมกลับมองตลาดคนเขียนเป็นหลัก ผมหวังว่า Blognone จะซื้อใจคนเขียนจำนวนมากได้ โดยในมุมหนึ่งแล้วมันอาจจะสำคัญกว่าการที่ผมครองตลาดคนอ่านได้เยอะๆ เสียอีก

เรื่องหนึ่งที่ผมเคยเป็นคือการไปนั่งเขียนเรื่องที่ตัวเองสนใจอยู่เล็กๆ เงียบๆ คนเดียวสมัยที่เขียนอยู่ที่ Blogger สิ่งที่เกิดขึ้นคือพลังงานจำนวนมากที่ทุ่มลงไปมีผู้ได้รับประโยชน์จากมันเพียงหลักสิบ ขณะเดียวกันเมื่อผมหมดแรงเขียน เว็บที่ทำมาแรมเดือนก็จะสูญไปกับตา

เพราะฉะนั้นผมจึงมอง Blognone เป็นเหมือนตลาดนัดที่ทุกคนจะเอาเวลาบางส่วนมาแบ่งปันร่วมกัน ขณะที่คุณอาจจะมีแรงเขียนข่าวเพียงเดือนละข่าว แต่ข่าวนั้นของคุณจะมีคนอ่านนับร้อย โดยไม่ต้องมานั่งทำให้เว็บตัวเองดัง ขณะที่คุณอาจจะหมดอารมณ์เขียน คุณก็เพียงหยุดไป สังคม Blognone จะเดินต่อไปโดยมีคนอีกนับสิบช่วยให้มันขับเคลื่อนต่อไป

มันคือแนวคิดของการทำงานเป็นทีม ที่ให้ผลในระยะยาว มันอาจจะไม่ทำให้คุณดังขึ้นมาในช่วงข้ามคืน เพราะคุณจะถูกมองเป็นส่วนหนึ่งของ Blognone มากกว่าที่จะได้รับเครดิตไปเต็มๆ เพียงคนเดียว แต่ที่ Blognone ผมวางรากฐานการให้เครดิตไว้อย่างเต็มที่

ผมไม่หวังให้มีนักเขียนประจำมาร่วมกับผมและไอ้มาร์คเท่าใหร่ การมีคนเขียนประจำเ็ป็นเหมือนของแถมมากกว่าจะเป็นอะไรที่หวัง แนวคิดคือมีคนเขียนสักสามร้อยคนเขียนกันเดือนละข่าว เราก็ได้วันละสิบข่าวแล้วขณะที่บางคนอาจจะเขียนสามเดือนข่าว คนหนึ่งอาจจะบ้าพลังเขียนวันละแปดข่าว แต่โดยรวมแล้วทุกคนกำลังขับเคลื่อนให้เว็บมันไปข้างหน้า และสังคมภายนอกได้รับประโยชน์สูงสุดจากแรงงานที่แต่ละคนสละมาให้

ผมเสียดายบล็อกดีๆ จำนวนมากที่คนเขียนสามารถเขียนได้น่าสนใจ แต่การเขียนอยู่เงียบๆ คนเดียวพร้อมกับการเลิกเขียนในสองเดือนต่อมา มันสร้างคุณค่าให้กับงานเขียนของเขาน้อยกว่าคุณค่าที่ผมมองเห็นหลายเท่านัก

เราจะรวมนักเขียนเหล่านี้ยังไงดี อาจจะทำ Badge แบบ Write at Blognone รึเปล่าหว่า?

 

lewcpe

CTO at MFEC PLC. Chief Editor at Blognone.com