แม้ผมจะเขียนบล็อกมานับพันบทความ เล่น IM มานานหลายปี แต่ความจริงข้อหนึ่งที่ปฎิเสธไม่ได้คือสื่อที่ดูมีคุณค่าที่สุดยังคงเป็นไปรษณีย์กระดาษที่เดินทางมาถึงบ้านผ่านบุรุษไปรษณีย์
ไม่รู้ว่าจำกันได้รึเปล่า แต่สมัยประมาณสิบกว่าปีก่อนนี้ Pen Friend ดูเป็นคำฮิตอยู่มาก แต่ด้วยสังคมที่ดูน่ากลัวขึ้นทุกวัน การบอกที่อยู่บ้านอาจจะเป็นเรื่องอันตรายสำหรับหลายๆ คน
มันจะเป็นไปได้ไหม ที่เราจะสร้างเครือข่ายเพื่อติดต่อกันผ่านไปรษณีย์กระดาษ อาจจะมีกติกาให้ทุกคนมีตู้ ปณ. เป็นของตัวเอง อาจจะใช้ร่วมกันหลายๆ คน เพื่อส่งข้อความถึงกันผ่านทางลายมือ
มันดูอบอุ่นกว่าคุยผ่านอีเมลนะ
ทุกวันนี้ถึงแม้จะติดต่อกันทาง email เป็นหลัก
แต่ผมก็ยังชอบได้รับจดหมายกระดาษอยู่นะ เพราะมันสามารถอ่านได้โดยไม่ต้องเปิดคอม ^^
จดหมายหรือโปสการ์ดมันอบอุ่นกว่าจริงๆ
แถมสนุกกว่าส่งเมลอีก
กว่าจะเลือกโปสการ์ดสักอัน คิดแล้วคิดอีก
ตั้งใจเขียนบรรยายความรู้สึก
หาแสตมป์สวยๆให้เข้ากับโปสการ์ด
หย่อนลงตู้ไปรษณีย์พร้อมกับความสงสัยว่าบุรุษไปรษณีย์จะมาเปิดตู้เมื่อไหร่
ลุ้นว่าเมื่อไหร่ปลายทางจะได้รับ
พอปลายทางได้รับมันก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
พี่ชอบส่งโปสการ์ดนะ ถึงบางครั้งจะไม่ค่อยได้รับตอบกลับ
เพราะปลายทางมักจะโทรกลับมาแทน
เพราะมันไม่สะดวกสบายเหมือนอีเมล
มันทำให้คนส่งใส่ใจกับการส่งจดหมายแต่ล่ะครั้ง
จดหมายหรือโปสการ์ดยังทำให้นัทตื่นเต้นได้อยู่เสมอ
e-mail: เร็ว ง่าย สะดวก และดูเป็นพิธีการน้อยกว่า (มันง่ายกว่าที่จะขอe-mail หรือ m มากกว่า ที่อยู่, เบอร์โทร)
แต่โปสการ์ดหรือจดหมาย สามารถตกแต่งได้ ใส่ลูกเล่นได้ สามารถเก็บได้ ไม่ถูกลบไป และมันทำให้นึกถึงความทรงจำเก่าๆได้มากมาย (เช่น ลายมือไม่สวยเลย, แสตมป์ 1 บาท, 2 บาท, กระดาษเหลืองๆเก่าๆ และจดหมายโต้ตอบ ที่ใครบางคนที่เคยติดต่อกันนานแสนนาน)
สรุป ต่างจุดประสงค์และการใช้งาน