เหงาๆ เปลี่ยวๆ อาการคล้ายอกหัก ว่าแล้วเลยมานั่งจินตนาการถึง Blognone 3.0 กันดีกว่า
Blognone 3.0 ควรแบ่งบทความออกเป็น 3 แบบ
แบบแรก เป็นหัวข้อข่าวสั้นไม่มีเนื้อหา อย่างเช่น “Redhat ซื้อ JBoss” จบในตัว มีลิงก์ไปยังที่มาข่าวแค่นั้น ตรงนี้จะเปิดโอกาสให้สมาชิกที่กลัวว่าตัวเองเขียนไม่เก่ง มีส่วนร่วมได้มาก
แบบที่สองคือข่าวแบบในปัจจุบันมีเนื้อเรื่องไม่ยาวมาก
แบบที่สามคือบทความ จะเป็นข่าวหรือบทความ Indepth ก็ตาม ควรจะถูกเรียกกว่าบทความให้หมด ลักษณะคือบทความขนาดยาว ต้องใช้เวลาอ่านสักหน่อย
อีกส่วนที่ไม่เกี่ยวเลยคือ Forum ควรจะ integrate ในตัวเองเพื่อความสะดวกในการใช้งาน
ฟีเจอร์ที่ควรมี
“เกี่ยวข้องกัน” ในกรณีที่บทความมีความเกี่ยวข้องกันเช่นข่าวสั้นถูกขยายเป็นข่าวเต็มในเวลาต่อมา ก็สามารถลิงก์ถึงกันได้ด้วยปุ่มเกี่ยวข้องกัน หรือจะเป็นข่าวเก่าก็ใส่ได้ด้วยฟีเจอร์เกี่ยวข้องกัน สิ่งที่ควรมีอีกอย่างคือ เมื่อข่าวใหม่เกี่ยวข้องกับข่าวเก่าแล้ว หน้าข่าวเก่าควรมีลิงก์มาข่าวใหม่ด้วย เวลาคนเข้ามาจากกูเกิลจะได้อ่านต่อได้เลย
“วิกิ” บทความทั้งหมด ควรเป็นไปในลักษณะวิกิ จะมีคนที่มีสิทธิแก้ไขโหนดที่ไม่ใช่ของตนเองเสมอๆ ที่ต้องมีอีกอย่างคือปุ่ม Credit Me เป็นในลักษณะที่ว่าถ้าคุณคิดว่าการแก้ไขนี้มีผลพอ สามารถขอเครดิตได้ โดยชื่อคน Submit จะถูกต่อท้ายจากคนโพสไป และมีหน้า diff ให้ดูสมาชิกที่มีสิทธิ เข้าดูได้ทุกๆ หน้า
“Moderate” สมาชิกชิกทุกคนจะโพสบทความได้ทุกรูปแบบในทันที แต่หากไม่ได้กำหนดไว้เป็นพิเศษ บทความของสมาชิกท่านนั้นจะถูกเข้าคิว Moderate ซึ่งจะมองเห็นเฉพาะสมาชิกด้วยกันเท่านั้น และมีสีแตกต่างจากบทความทั่วไป เพื่อให้รู้ว่าบทความนี้รอการลงมติเห็นชอบอยู่ สำหรับคนที่มีสิทธิในการ Moderate ก็จะมีปุ่ม Moderate/Delete เอาไว้ท้ายชื่อบทความ การที่ให้สมาชิกมองเห็นบทความได้ทุกคนก็เพื่อที่จะเปิดโอกาสให้มีการช่วยกันแก้ไขก่อนเอาบทความขึ้นหน้าแรกได้ เมื่อคุณภาพได้ระดับแล้วคนที่มีสิทธิ Moderate ก็มีกดเอาขึ้นไปเอง
“เอาไปใช้” ปุ่มพิเศษที่เป็น Javascript กดแล้วเกิด Textbox ให้ก๊อปเนื้อข่าวไปวางในเว็บได้ทันที โดยมีการฟอร์แมตทั้งการลิงก์กลับมายัง Blognone และการให้เครดิตคนเขียนอย่างสำเร็จรูป ไม่ต้องคิดมาก อาจจะต้องรองรับ BB Code ด้วย เพราะคนเอาไปโพสตามเว็บบอร์ดเยอะ
ที่เหลือก็จะเป็นสิ่งที่ควรมีทั่วๆ ไป เช่น เมลเตือนว่ามีคน reply หรือมีคนมาแก้บทความของเรา, Private Message, Comment อะไรพวกนั้น
ก็เห็นด้วยทั้งหมด เพียงแต่ engine drupal คงไม่พอใช้อย่างแรง
ที่พอไปวัดไปวาได้คือ slash ของ /. แต่คงต้องทำอีกเยอะเหมือนกัน
รอมีนายทุนก่อน
mk – มีทางเลือกสองทางคือคงกับ Drupal ต่อไป หรือจะพัฒเองใหม่ทั้งหมด
จริงๆ แล้วเท่าที่ใช้มา ตัว Drupal เองรองรับความต้องการทั้งหมดที่ว่ามาได้พอตัว อาจจะต้องพัฒนาเพิ่มสักหน่อย ปัญหาหลักที่กังวลคือ api ข้างในมันเปลี่ยนโดยที่เราควบคุมไม่ได้ อาจจะต้องพัฒนาไล่หลัง Drupal อย่างทุกวันนี้ไปเรื่อยๆ ซึ่งเปลืองแรงมาก
เอาแนว digg.com ด้วยไหมครับ
ให้สมาชิกให้คะแนน และลงความเห็น นำเสนอหัวข้อที่น่าสนใจ
koh – แบบ digg นี่อันตรายครับถ้าไม่ีมีใครเล่นด้วยเยอะพอ มันแป๊กเอาง่้ายๆ เลย
อืมม เพิ่ม feature เยอะๆก็ดีนะครับ อยากให้ระวังหน่อยนึง เรื่อง ease of use หวังว่ามันจะใช้ง่าย ชนิดที่ don’t make me think :-)