หรือจะใช่ ก็ช่างมันเถอะ
เรื่องจริงคือเราต้องกลับมามองว่า “กีฬา” ทุกวันนี้มันคืออะไร เราสนับสนุนมันเป็นบ้าเป็นหลัง เพราะมันทำให้คนออกกำลังกายแล้วสุขภาพดีจริงๆ น่ะเหรอ? หรือมันเป็นธุรกิจที่เราอยากแข่งขัน เราเห็นฟุตบอลอังกฤษ, เยอรมัน, สเปน ทำแล้วดัง แล้วอยากได้อย่างเขาบ้าง
ย้อนกลับมาใหม่ เราควรยอมรับว่า กีฬาจำนวนมาก มันเป็นรายการบันเทิง คนดูมหาศาลสักกี่คนจะกลับบ้านมาแล้วจับกลุ่มเล่นกีฬาที่พวกเขาดู บาส, บอล, มวยปล้ำ
คนไทยนิยมวิ่งขึ้นมากในช่วงหลัง แต่กีฬาวิ่งก็ไม่เห็นคนนิยมดูมากขึ้น ช่วงหลังๆ มหกรรมกีฬาดูจะน่าสนใจน้อยลงด้วยซ้ำ
eSports เป็นกีฬาไหม คงเถียงกันได้ไม่จบ แต่โลกความเป็นจริงคือเวลามองจอ (screen time) ของเด็กรุ่นต่อไป จะถูกรายการพวกนี้กลืนกินไปเรื่อยๆ เด็กรุ่นต่อไปดู live การแข่งพวกนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เบียดเบียนรายการบันเทิงแบบอื่นไปทีละน้อย การจัดแข่งสดจะมีคนไปดูในสนามมากขึ้นเรื่อยๆ มากกว่ากีฬานานาชาติรายการเล็กๆ หลายรายการ
ในโลกที่มีความเปลี่ยนแปลงเร็วสูง สุดท้ายมันคือเวลารับชม
คนเราอาจจะไปดูการแสดงคอนเสิร์ตหรือกีฬาที่สนามได้สัก 2 รอบต่อเดือนเท่านั้น คนทั่วไปมองจออาจจะ ดูละครสักเรื่องสองเรื่อง 5 วันต่อสัปดาห์ ดูบอลสักสองคู่
แต่ถ้าคนรุ่นต่อไปไป ดูละครเหลือเรื่องเดียว (แถมอาจจะไม่ดูละครไทย) ดูบอลคู่เดียว ดู eSport รอบสำคัญสัปดาห์ละแมตช์ ดูแคสเกมอีกสัปดาห์ละสองชั่วโมง
จะกีฬาหรือไม่ แต่สุดท้ายก็อยู่บนสนามแย่งชิงความสนใจของคนเหมือนกัน เช่นเดียวกับแพลตฟอร์ม ที่ทีวีกำลังพ่ายแพ้ เมื่อคนรุ่นต่อไปดูทีวีน้อยลงเรื่อยๆ