มีแนวคิดเกี่ยวกับหนังสือที่สะสมมาจากการดองหนังสือและอ่านหนังสือในช่วงหลายปีที่ผ่านมา คือ “หนังสือมีไว้อ่าน” และไม่ได้มีไว้เก็บ
ไม่ใช่ว่าผมจะเลิกซื้อหนังสือเร็วกว่าที่อ่านหมด ช่วงหลัง Kindle + Audible ยิ่งซื้อเยอะ อ่านไม่ทัน (แต่โดยรวมใช้เงินกับหน้งสือน้อยลง)
แต่หมายถึงว่าเป้าหมายของหนังสือควรอยู่ที่ว่ามันถูกอ่านไปแล้วกี่ครั้ง หลังจากมีความคิดแบบนี้ ก็เริ่มนโยบายใหม่กับหนังสือที่อ่านจบแล้วของตัวเอง หนังสือที่อ่านจบแล้วจะถูกป่าวประกาศว่ามีใครอยากได้ต่อบ้างไหมเสมอๆ เพื่อให้มันทำหน้าที่ของมันได้ต่อ
หนังสือที่ไม่มีใครรับจะถูกเอาไปขาย
ตลาดหนังสือมือสองภาษาอังกฤษบ้านเราขายหนังสือประมาณหนึ่งในสามถึงครึ่งหนึ่งของราคามือหนึ่ง แต่ราคารับซื้อหนังสือมือสองตามร้านส่วนใหญ่อยู่ที่ 20-50 บาทเท่านั้น
แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร เพราะประเด็นผมไม่ใช่การได้เงิน ผมขายหนังสือไปเพราะให้ร้านทำหน้าที่หาคนที่อยากอ่านหนังสือของผมมารับหนังสือต่อไป
ให้มันได้ทำหน้าที่ของมันอีกครั้ง
บางครั้งที่ไปขายหนังสือ ผมมักจะหยิบหนังสือกลับมาเล่มสองเล่ม ให้พอดีกับค่าหนังสือที่ขายได้
หลังขายก็มองหนังสือจากไป แล้วหวังว่ามันจะได้ทำหน้าที่ของมันอีกครั้งในเร็ววัน