We Met

แค่คิดถึงความเป็นไปได้แบบหนึ่งขึ้นมาในโลก Social Network คือการ “เจอ” กันของคนกลุ่มต่างๆ แล้ว add social network เข้าหากัน

ปัญหาคือพอเราเจอหน้ากัน คุยกันครั้งเดียวถูกคอ อาจจะอยากกด add โดยง่าย แต่พอตามกันไป เรื่องราวไม่ตรงกัน กลายเป็น list ที่ leak ไม่อยากให้คนเหล่านี้มาเห็นข้อมูลของเรามากเกินไป

มันน่าจะมี API อะไรบางอย่างที่บอกได้ว่าเรา Add ใครใน Social Network เพราะเหตุการณ์แบบนี้ และเมือมันเป็นเหตุการณ์แบบนี้ โปรแกรมที่ิติดตามจะดูว่าเรามีปฏิสัมพันธ์กับคนนั้นจริงหรือไม่ ถ้าไม่มีให้ถอดออกเมื่อเลยเวลาที่กำหนด

แล้วเราก็จากกันไป

 

กี่นาที

เรื่องที่บ้านเราทำกันไม่ค่อยได้คือการไปให้ตรงนัดแบบพอดีเป๊ะๆ สมัยก่อนนั้นเราคงอ้างได้ว่ากรุงเทพฯ รถมันติด แต่สมัยนี้แม้จะทำงานในกรุงเทพฯ ที่เป็นแนวรถไฟฟ้า เราก็ยังคงเห็นการไม่ตรงเวลาอยู่นั่นเอง

เรื่องระเบียบคนก็ต้องสร้างกันไป แต่เรื่องหนึ่งที่บ้านเราไม่มีคือข้อมูลพื้นฐานประกอบการวางแผน เรามีโฆษณา BTS ที่โฆษณาว่าเร็วสารพัด หรือโฆษณา MRT ว่ามาตรงเวลาถึง  95% แต่เราไม่สามารถบอกได้ว่าถ้าเราไปถึงประตูรถไฟฟ้าแล้วเราจะถึงปลายทางในกี่นาที และเราต้องเผื่อเวลาไว้เท่าใหร่

เมื่อวานเลยลองจับเวลาแต่ละสถานีเล่นๆ จากหมอชิตไปอโศก

  1. หมอชิต (0.00) จุดเริ่มต้น
  2. สะพานควาย (+2.11)
  3. อารีย์ (+2.09)
  4. สนามเป้า (+1.43)
  5. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (+2.34)
  6. พญาไท (+1.47)
  7. ราชเทวี (+1.36)
  8. สยาม (+2.08)
  9. ชิดลม (+2.31)
  10. เพลินจิต (+1.33)
  11. นานา (+1.44)
  12. อโศก (+1.31)

ถ้ามีแผนผังทั้งระบบรถไฟอีกหน่อยเวลาใครโทรตามเราจะได้ไม่ต้องบอกส่งเดชว่า “อีก 5 นาที” แค่ดูจำนวนป้ายแล้วบวกเวลากันประมาณไปได้เลย

 

ด้วยความกรุณา

ช่วงหลังๆ นี้มีเรื่องต้องเขียนเกี่ยวกับสิทธิพื้นฐานหลายๆ อย่าง และต้องถกกับหลายๆ คนในเรื่องนี้ ผมพบว่าคนไทย แม้จะเป็นคนมีความรู้เอง ยังมองไม่ออกในเรื่องของสิทธิพื้นฐาน

เรายังอยู่กับความคิดของบุญกรรม เรายังไม่รู้สึกรับผิดชอบอะไรที่มีใครบางคนในสังคมเดียวกับเราไม่ได้รับสิทธิอะไรบางอย่าง

คนเหล่านั้นไม่ใช่คนชั่วร้ายอะไร คนจำนวนมากเป็นคนดีที่ผมคงบอกได้ว่าเป็นคนดีมากกว่าผม เขาพร้อมจะสละหลายๆ อย่างเพื่อแสดงความ “กรุณา” แก่ผู้ด้อยโอกาสที่เขาเห็นว่าสมควรจะได้รับ

แต่สิทธิไม่ใช่เรื่องการควรได้หรือไม่ควรได้ สิทธิพื้นฐานมันคือเรื่องของสิ่งที่คุณจะได้เองทันที เมื่อคุณเป็นส่วนหนึ่งของสังคมที่รับรองสิทธิพื้นฐานเหล่านั้น ไม่ว่าคุณจะยากดีมีจน ไม่ว่าคุณจะน่าสงสารหรือสมประกอบ

เด็กทุกคนต้องได้รับการศึกษาที่ดี ไม่ว่าจะมีคุณย่าป่วยต้องหาเลี้ยงอยู่ที่บ้านหรือไม่ คนไทยทุกคนต้องเข้าถึงการปัจจัยพื้นฐานได้แม้เขาจะเป็นนักโทษฉกรรจ์ในเรือนจำก็ต้องได้รับการรักษาโรค สิทธิผู้บริโภคไม่ใช่สิทธิตามแต่ผู้ให้บริการจะทำให้ได้เมื่อสะดวก แต่เป็นสิ่งที่ผู้ให้บริการต้องจัดหาให้พร้อมก่อนจะให้บริการ

การมองสิทธิว่าทุกคนต้องได้รับจึงไม่ใช่เรื่องของความกรุณา มันเป็นเรื่องของการเชื่อว่าทุกคนควรได้รับเท่าๆ กันจริงๆ ไม่ว่าจะน่ารังเกียจ หรือไม่สมควรได้เพียงใด

วันหนึ่งสังคมเราคงมองมันออก และเปลี่ยนความคิดไป

 

พื้นที่เปิดโล่ง

หนึงในนโยบายทางการศึกษาที่ผมเห็นการเริ่มต้นของมันด้วยตา และมองว่ามันเส็งเคร็งที่สุดคือนโยบายทรานสคริปต์กิจกรรม

กิจกรรมเป็นสิ่งที่ดีแน่นอน ผมเองสนับสนุนให้น้องๆ ทำกิจกรรมเรื่อยมา แต่มันไม่ใช่มันดีเพราะมันเป็นกิจกรรม กิจกรรมไม่ใช่สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งการศึกษา

กิจกรรมคือการสร้างพื้นที่ “เปิดโล่ง” ให้กับสถานศึกษา มันคือสิ่งที่ใช้เรียกการกระทำ “อะไรก็ได้” ตามแต่ที่ตัวคนเรียนจะเห็นสมควร ภายใต้กรอบที่กว้างที่สุดเท่าที่สถานศึกษาจะเปิดพืนที่ให้ได้

การศึกษาที่เคารพผู้เรียนว่าไม่โง่งี่เง่าจนคิดอะไรไม่ออก ควรเปิดพื้นที่ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ วิชาเลือกต่างๆ ควรมีความหลากหลายและเพียงพอที่คนเรียนจะเลือกเส้นทางของตัวเองได้อย่างกว้างขวาง แต่กระนั้นแม้การสร้างทางเลือกให้มากมายแล้วก็ยังมีบางอย่างที่เกินกว่าจะสร้างทางเลือกในฐานะ “วิชา” ในสถานศึกษาไปได้

นั่นคือต้องมีกิจกรรม

ในภาวะที่หน่วยงานการศึกษาไทยจำนวนมากมีทรัพยากรจำกัดจำเขี่ย ผู้บริหารไร้ศักยภาพแม้แต่จะจัดสรรวิชา “บังคับ” ให้มีเพียงพอต่อการเรียน กลับเกิดภาวะแย่งกันเรียนจนแทบจราจลทุุกปี เราจะเชื่ออะไรกับคนกลุ่มนี้ที่มาพูดเรื่องความหลากหลาย

สิ่งที่พวกเขาทำไม่ใช่ความหลากหลาย สิ่งที่พวกเขาทำคือการสร้างสิ่งศักดิ์สิทธิขึ้นมาให้คนกราบไหว้

พวกเขาเลือกกิจกรรมขึ้นมาเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาสร้างภาพสิ่งที่เรียกว่าเป็นกิจกรรมให้สำเร็จรูป ตามภาพความเชื่อของพวกเขา กิจกรรมถูกบีบให้กลายเป็นสิ่งที่พวกเขามองว่าเป็นกิจกรรม สิ่งอื่นๆ นอกจากนั้นกลายเป็นสิ่งที่ไม่มีที่ยืน

ทุกอย่างมันย้อนกลับไปที่คำถามเริ่มต้น คุณเชื่อในคนเรียนแค่ไหน หรือคุณเห็นเขาเป็นแค่กระดาษที่รอการพิมพ์เนื้อความลงไป