เพ้อ

เสียงเพลงแจ๊สถูกขับออกมาจากลำโพงคู่หนึ่งที่ไม่ได้ถูกใช้งานมานาน… อย่างน้อยก็ตามหน้าที่ของมันเอง

เสียงเพลงแจ๊สยามเที่ยงคืน ในห้องนอนที่ไม่มีใคร เสียงเพลงที่สดใสก็กลายเป็นความเงียบงันได้อย่างน่าประหลาด

นี่ล่ะมั๊ง เสียงแห่งความเงียบ

ห้องรกๆ ก็ดูอ้างว้างไปถนัดตา

งานที่กองสุมเป็นพะเนิน แต่ดูไร้จุดหมาย

ชีวิตยังเดินต่อไปข้างหน้า…

 

ถูกต้องและเที่ยงธรรม

ประเด็นที่คุยกันมากในสังคมไทยช่วงก่อนหน้านี้คือประเด็นเรื่องของความถูกต้อง ก่อนหน้านี้เราอาจจะพูดถึงความถูกต้องในเชิงกฏหมายเสียเป็นส่วนมาก

วันนี้ผมขับรถกลับบ้าน แถวบ้านผมมีไฟแดงที่ไม่ค่อยสมเหตุผลนักอยู่อันหนึ่ง มันไฟแดงเปิดทางให้ทางรองที่ไม่ค่อยมีใครใช้อยู่หนึ่งนาที ปล่อยให้รถทางเอกจำนวนมากต้องหยุดรอกัน รถจำนวนมากเลือกที่จะฝ่าไฟแดงนั้น หลายคันเลือกจากเลี้ยวเข้าช่องซ้าย แม้มันจะไม่ได้ผ่านตลอด แต่คงช่วยให้ความรู้สึกผิดในการฝ่าไฟแดงลดลงไปบ้าง

เด็กแว๊นสองคนซ้อนท้ายกันมา ไม่ใส่หมวกกันน๊อก ทั้งคู่ขับฉวัดเฉวียนมาระยะหนึ่ง แล้วจอดรอไฟแดงข้างๆ ผม…

คนเลวคือใครกัน ระหว่างคนขับรถน่าเสียวไส้ ไม่ใส่หมวกกันน็อก กับคนขับรถชิดซ้ายแล้วฝ่าไฟแดง

สำหรับผมแล้ว ความเลวไม่มีอันดับสอง ไม่มีรองชนะเลิศ ความเลวและความชั่ว ยังคงเป็นความเลวและความชั่วอย่างเปลี่ยนแปลงไม่ได้ อีกอย่างที่ผมเชื่อคือการทำความเลวมูลค่า หรือปริมาณน้อยๆ ไม่ได้บ่งบอกว่าความแลวและความชั่วนั้นน้อยกว่าการทำในมูลค่ามากๆ แต่อย่างใด

เรื่องนี้อาจจะเนื่องจากผมเป็นคริสต์ ที่มีระบุไว้อย่างชัดเจนว่า “ผู้ซื่อสัตย์ในของเล็กน้อยจะซื่อสัตย์ในของมาก” และในบางกรณี “ความคิดก็ผิดไม่ต่างไปจากการลงมือทำ”

ความเลวร้ายในสังคมทุกวันนี้จึงไม่ใช่เรื่องของการที่มีคนเลวอยู่ในสังคม ธรรมชาติของมนุษย์นั้นมีความเห็นแก่ตัวมาโดยกำเนิด คงไม่แปลกอะไรที่เราจะทำในสิ่งเลวร้ายกันอยู่เป็นประจำในชีวิต แต่สิ่งที่เลวร้ายกว่านั้นคือการที่เราพยายาม “แบ่งเกรด” ความชั่วร้ายนั้นออกเป็นลำดับขั้น แล้วจัดตัวเองอยู่ในลำดับที่เลวร้ายกว่าสักหน่อย ขณะเดียวกันก็ชี้มือไปยังคนอีกกลุ่มใหญ่ แล้วพยายามบอกกับตัวเองว่าคนเหล่านั้นเลวร้ายกว่าเราเพียงใดกัน

ผมไม่เชื่อว่าความชั่วและความเลว มีขั้น “กว่า” ไม่ว่าจะมากกว่าหรือน้อยกว่า ขั้นกว่านั้นมีในกฏหมายเพื่อให้จัดการให้สังคมอยู่ร่วมกันได้ หลายๆ ครั้งขั้นกว่ามีไว้เพื่อสมดุลแห่งอำนาจ กฏหมายไม่ได้มีไว้วัดคุณธรรม

แต่ถ้าเราคิดว่าอะไรเป็นความชั่ว มันคงต้องเริ่มที่ตัวเองที่จะเปลี่ยน ละ เลิก จากสิ่งเหล่านั้นเพื่อไปยังทางที่ถูกต้อง

ไม่ใช่ชี้ไปที่คนอื่นแล้วบอกว่าคนนั้นทำมากกว่าต้องจัดการก่อน

 

VPS over Physical Disk?

ช่วงนี้กำลังคิดมากเรื่อง manageability ของเซิร์ฟเวอร์

ประเด็นหนึ่งที่น่าจะทำให้คือการอาศัย Virtual Machine เข้ามาแทนที่ IP KVM ด้วยการใช้ลินุกซ์ตัวเล็กๆ เข้าไปในเครื่องก่อน แล้วให้ตัว Virtual Machine ครอบครองทุกอย่าง นับแต่ HDD, GPU, CPU, LAN ฯลฯ โดยตัว Host ซึ่งเป็นเพียง OS เล็กๆ อาจจะเป็นลินุกซ์แบบย่อส่วนนั้น ฝังตัวอยู่ภายใน ทำหน้าที่คอยดูแลระบบว่าอยู่ดีหรือไม่

ข้อดีของเรื่องนี้ประการหลักเลยคือ IP KVM นั้นราคาแพงมาก การใช้ระบบอย่างนี้จะช่วยให้เราสามารถดึงหน้าจอ, mouse และ keyboard กลับมาได้ในเวลาที่เราต้องการ แถมสั่ง reboot เครื่องได้อีก

ข้อเสียหลักๆ คือเรื่องของ Performance ที่แรมจะถูกกันไปส่วนหนึ่งเพื่อจ่ายให้กับ host (คล้ายการ์ดจอแบบแชร์แรม) รวมซีพียู

คำถามหลักเลยคือการทำเช่นนี้เรากำลังจ่ายประสิทธิภาพออกไปแค่ไหนกัน ส่วนตัวซีพียูนั้นไม่ค่อยมีปัญหาเท่าใหร่ แต่จะมีประเด็นเรื่องของดิสก์ที่มีปัญหากันมานานแล้วว่า ดิสก์ใน VM นั้นทำงานช้ากว่าอย่างมีนัยสำคัญ

ถ้าใช้ Physical Disk แล้วมันเนียน นี่อาจจะเป็นคำตอบของหลายๆ คำถาม

 

Dedicated Virtual

ช่วงนี้ทำ Linux เยอะ เลยอยากเปิด Hosting ของตัวเอง แน่นอนว่าถ้าจะเปิดจริงๆ ต้องไม่ใช่โฮสต์แบบที่มีจนเต็มบ้านเต็มเมืองแล้วตอนนี้

ผมนึกถึง Blade Server ที่กำลังได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ ในโลกของระบบไอทีระบบองค์กรณ์ แต่อยากได้อะไรที่ง่ายกว่านั้น ลองนึกถึงบอร์ด Atom 20-30 บอร์ด ถูกอัดเข้าไปในเคสแบบ Tower เพียงตัวเดียว มันกินไฟแค่ 1,000 watt

ความสวยงามของมันคือเราสามารถขาย Dedicated Server ได้ในราคาที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อน ราคาอาจจะใกล้เคียงกับเครื่องที่เป็น VPS แต่ทุกคนได้ Dedicate จริงๆ และแน่นอนว่าปัญหาที่เคยเกิดขึ้นใน VPS เช่น Disk Access ช้า อะไรอย่างนั้น จะไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

แน่นอน โลกมันไม่สวยงามขนาดนั้น ประเด็นหลักที่เราต้องแก้ไขในเรื่องนี้คือ Manageability ของระบบ เราไม่สามารถยัดเครื่อง 20 เครื่องลงไปในกล่องๆ เดียวแล้วขายๆ ไปโดยที่ใครอยากจะลง OS อะไรให้ไปลงกันเอาเองโดยเดินทางไปศูนย์ข้อมูลได้

ฟีเจอร์ที่เราต้องการ

– รีเซ็ตเครื่องได้จาก remote (อาจจะรวมถึงสั่งปิดเปิดได้) อันนี้จะมีประเด็นเรื่องระบบจ่ายไฟด้วย ATX Supply แบบปรกติใช้ไม่ได้แหงๆ
– mount iso ได้ ไว้ลงซอฟต์แวร์
– เข้าไปดูหน้าจอเครื่องผ่าน remote ได้ตลอดเวลา อันนี้เป็นความท้าทายมาก ถ้าใช้ IP KVM ก็ไม่ยากมาก แต่จะแพงจัด

จริงๆ ก็มีเท่านี้นี่หว่า

Atom 1 บอร์ด ประมาณ 3,500 บาท รวมแรมและฮาร์ดดิสก์แล้วประมาณ 7,000 บาท โดยประมาณ ค่าเช่าเดือนละ 2,000 บาท (ดีกว่า VPS ทั้งแรมและพื้นที่แน่นอน) หักค่าใช้จ่ายรายเดือนไปแล้วระยะคืนทุนน่าจะอยู่ที่ครึ่งปี

น่าสนแฮะ