ช่วงนี้มีประเด็นเรื่องวัฒนธรรมในองค์กรเข้ามาให้รับฟังเยอะ พบว่ามันเป็นเรื่องที่สำคัญมากที่สุดเรื่องหนึ่งในการบริหารงาน (อ่านเพิ่มเติมได้ที่[บล็อก iPatt](http://www.ipattt.com/2009/wellnet-project/))
ผมไม่ได้เรียนสายบริหาร แต่การดูแล Blognone ก็พบอะไรแนวนี้ได้อย่างน่าประหลาดเหมือนกัน เพราะ Blognone เองนั้นเติบโตมาจากคนกลุ่มเล็กๆ ที่ค่อนข้างมีแนวทางคล้ายคลึงกันอย่างน่าประหลาด จนผมไม่แน่ใจว่าเราเป็นที่ที่รวมคนแนวเดียวกัน หรือเราเข้มแข็งพอที่จะโน้มน้าวให้คนเปลี่ยนมาทำตัวในแบบเดียวๆ กัน จนผมคิดว่าเราน่าจะอ้างได้ว่า Blognone เป็นเว็บที่มีวัฒนธรรมของสมาชิกที่เข้มแข็งในระดับหนึ่ง
อย่างน้อยที่สุด เราก็สร้างแนวทางที่บอกว่าการแบ่งปันคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ขอบคุณสมาชิกทุกท่านที่ช่วยกันพูดถึงเรา ที่ช่วยกันบล็อกในเว็บส่วนตัวว่าท่านได้เขียนลง Blognone แล้ว จนวันนี้บทความมากกว่าครึ่งไม่ได้มาจากผมกับ mk อีกต่อไป!
แต่ยังมีอะไรที่ผมคิดว่าเราต้องสร้างกันเพิ่มอยู่ ผมลองไล่รายการสิ่งที่ผมอยากได้ออกมาคร่าวๆ ดังนี้
– __สังคมแห่งความรู้__ น่าแปลกที่เมืองไทยนั้นอยู่กันด้วยความเชื่ออย่างหนักมาก และเราไม่อยากเป็นเช่นนั้น เราให้คุณค่ากับข้อมูล โดยเฉพาะข้อมูลที่น่าเชื่อถือสูงเราจะให้ความสำคัญมาก เราอิงกับข้อเท็จจริงเป็นหลัก
– __พร้อมถูกตั้งคำถาม__ ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ทุกข้อมูลที่คุณใส่เข้ามาต้องพร้อมจะถูกตั้งคำถาม ต้องพร้อมที่จะถูกยันด้วยข้อมูลที่น่าเชื่อถือกว่า
– __ทนทาน__ ขณะที่ Blognone มีประเด็นหลักคือความสนุก (จริงๆ นะ) สนุกที่จะได้รับการแบ่งปัน และสนุกที่จะรับรู้เรื่องที่น่าตื่นเต้น สองข้อข้างบนจะเป็นไปได้ เราคงอยากได้สังคมที่ทนทานต่อคำวิจารณ์ ทนทานเมื่อมีคนอื่นเข้ามาชี้ว่าข้อมูลที่เรานำเสนอไปนั้นมันผิด ผมไม่เชื่อว่าคุณค่ากับการเรียกร้องขี้น้อยใจสารพัด และการบ่นกระปอดกระแปด ไม่อย่างนั้นแล้วเราจะไม่กล้าตั้งคำถามกับสิ่งต่างๆ ที่เกิดขึ้น และลงท้ายด้วยการอยู่ด้วยความเชื่อกันนั่นเอง
ผมไม่รู้ว่ามันจะเป็นไปได้ไหมกับสังคมไทยที่อลุ้มอล่วย และเต็มไปด้วยความเชื่อที่บางครั้งดูไร้หลักการไปสักหน่อยในสายตาของผม แต่อย่างที่เขียนไปข้างบนๆ ครับ วัฒนธรรมมันไม่ได้สร้างโดยผม แต่มันสร้างโดยทุกคนที่อยู่ในชุมชนต่างหาก
เขียนมาขอให้ช่วยกันทำให้มันเกิดขึ้นดื้อๆ อย่างนี้แหละ