บล็อกนี้ตอบคุณ tanakorn ในบล็อกก่อนหน้านี้ว่าเด็กน่าจะมีสิทธิ์จะเอาตัวรอดด้วยการมุ่งไปที่เงิน
คำตอบผมง่ายๆ ครับ
ผมเชื่อว่าเด็กคิดถูกแล้วครับ ที่ทำอย่างนั้น ผมมีลูกแล้วลูกเลือกเรียนคณะที่จบมาแล้วจนผมคงคิดมากจนหัวหงอกเอาเหมือนกัน
สิ่งที่ทำให้การเรียนวิศวกรรมคือการที่มีแต่เด็กที่คิดแต่เรื่องเงินมาเรียนเต็มคณะ
ง่ายๆ คือผมไม่ได้โทษเด็ก…..
สิ่งที่แย่ไม่ใช่การที่เด็กคนหนึ่งจะคิดแต่เรื่องเงินแล้วเข้ามาเรียนวิศวฯ แต่สิ่งที่แย่คือคณะที่เต็มไปด้วยแต่เด็กที่คิดแต่เรื่องเงิน
ทุกคนคิดเรื่องเงินแน่ๆ ครับ ผมก็คิด และทุกคนก็ควรคิด บางคนอาจจะเป็นเหตุผลเดียวของการเรียน บางคนอาจจะเป็นเหตุผลที่สาม สี่ ห้า มันไม่ใช่เรื่องผิด และไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้าค่อนคณะเต็มไปด้วยความคิดแบบนี้ ก็น่าสนใจว่าเกิดอะไรขึ้น
ผมลองไล่ๆ ดู
- ระบบการแนะแนวที่อ่อนด้อยของบ้านเรา ไม่สามารถชี้นำเด็กและผู้ปกครองให้ส่งเด็กไปยังสายการเรียนที่เหมาะสมได้
- แนวทางการศึกษาประหลาดๆ ที่จำกัดสิทธิ์เด็กสายศิลป์ไม่ให้เข้าคณะสายวิทย์ จำกัดปริญญาตรีไม่ให้ต่อปริญญาโท บ้านเราเลือกผิดตอน ม. สามนี่ชีวิตจะไม่มีโอกาสแก้ไขกันเลยครับ
- การศึกษาสายอาชีพที่ภาพรวมยังอ่อนแอ วิศวกรคอมพิวเตอร์กว่าครึ่งจบมาก็ไปเป็นโปรแกรมเมอร์ ไม่ได้ออกแบบหรือใช้ความรู้ทางวิศวกรรมใดๆ ถ้าระบบการเรียนสายอาชีพ ถ้าจบปวศ. พร้อม SCJP ได้ ได้เงินเดือนสัก 25k แล้วจะเสียเวลาเรียนนานๆ ทำปริญญาไปทำไมกัน?
- สังคมที่บีบบังคับเด็ก โดยเฉพาะพ่อแม่
ข้อเสียที่เกิดขึ้นเพราะการที่เด็กคิดแต่เรื่องเงินมีเยอะมาก หลักๆ คือเสียบรรยากาศในการเรียน เด็กหลายคน ที่อยากเป็นโปรแกรมเมอร์แต่ต้องมาเรียนวิศวะ พอเจอวิชายากๆ และอาจจะไม่ได้ใช้เพราะจะเป็นโปรแกรมเมอร์ไม่ได้อยากเป็นวิศวกร ก็พาลไม่อยากเรียน แย่ลงไปอีกก็ซิกแซกหาทางให้ได้เกรดมาให้ได้ ความรู้ไม่ต้องสนใจเพราะไม่ได้ใช้อยู่แล้ว