กินเนสบุ๊กต้องบันทึก ว่าเมืองไทยมีรัฐมนตรีที่สร้างชื่อเสียงในระดับนานาชาติได้เร็วที่สุดในโลก
สามวันก่อนเค้าเป็นใครผมยังไม่รู้จักเลย….
กินเนสบุ๊กต้องบันทึก ว่าเมืองไทยมีรัฐมนตรีที่สร้างชื่อเสียงในระดับนานาชาติได้เร็วที่สุดในโลก
สามวันก่อนเค้าเป็นใครผมยังไม่รู้จักเลย….
ถ้าใครเป็นนักฟังเพลงมาเป็นเวลานานๆ หน่อยคงจะรู้ได้ว่าช่วงเวลาไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา โลกแห่งเสียงเพลงก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ นับแต่เอดิสันได้ประดิษฐ์แผ่นเสียงขึ้นมา ปฏิวัติขีดจำกัดที่ว่าการฟังเพลงคือการแสดงสดให้กลายเป็นความบันเทิงในบ้าน โลกก้าวหน้าไปอีกขึ้นด้วยเทปคาสเซ็ทที่สร้างนวัตกรรมใหม่ให้กับโลกในชื่อว่า Walkman แต่ทุกอย่างก็ถูกพลักผันไปอีกครั้ง ด้วยการเข้ามาของโลกดิจิตอล สื่อดิจิตอลคุณภาพสูงที่แทบจะไม่มีความแจกต่างจากต้นฉบับสามารถถูกทำซ้ำได้ในปริมาณเท่าที่ต้องการ โดยต้นทุนเฉลี่ยต่อชิ้นที่ต่ำสนิท เทคโนโลยี MP3 ถูกสร้างขึ้นมาตอกย้ำเส้นทางความเปลี่ยนแปลงนี้อีกครั้ง ด้วยเทคโนโลยีที่แต่เดิมถูกสร้างขึ้นมาเพื่องานภาพยนตร์ แต่ด้วยคุณภาพที่ยอมรับได้และขนาดไฟล์ที่เล็กอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้เทคโนโลยีเอ็มพีสามเร่งความเร็วโลกดนตรีดิจิตอลไปด้วยความเร็วเกินกว่าคนเมื่อสิบห้าปีก่อนจะฝันถึง
โลกการศึกษานั้นก็ไม่ต่างกัน เมื่อในสมัยหนึ่งเราเคยให้นักเรียนถือกระดานชนวนคนละแผ่นไปเรียนหนังสือกัน แม้กระดานชนวนนั้นจะมีประสิทธิภาพที่ค่อนข้างดี ราคาถูก และทนทาน แต่เมื่อเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่นสมุดเรียนถูกพัฒนาขึ้นให้ถูกพอที่จะนำมาใช้งาน ในวันนี้คงไม่มีใครถือกระดานชนวนไปเรียนหนังสือกันอีกต่อไป น่าแปลกที่กระดานชนวนในยุคนี้นั้นกลายเป็นของสะสมและของที่ระลึกที่ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประโยชน์ใช้สอย ไม่ต่างจากราคาแผ่นเสียงในสมัยนี้
คอมพิวเตอร์ถูกนำเข้ามาใช้ในการศึกษาอย่างรวดเร็วในช่วงห้าปีที่ผ่านมา นับแต่ผมเรียนในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มา ทางมหาวิทยาลัยได้เปิดให้มีงานใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่ววิทยาเขตบางเขนฟรี และผมก็เป็นคนแรกๆ ที่วิ่งไปซื้อการ์ด WiFi มาใช้งานกับมัน ในช่วงเวลาสามปีต่อมา จำนวนคอมพิวเตอร์ที่ถูกใช้งานในพื้นที่มหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พร้อมๆ กับสัดส่วนงานที่ต้องส่งเป็นกระดาษที่น้อยลงอย่างรวดเร็ว
โลโก้โครงการ One Laptop Per Child
โครงการ OLPC จึงเป็นหนึ่งในความพยายามที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง ด้วยการให้เด็กทุกคนเข้าถึงโน้ตบุ๊กเป็นส่วนตัวแบบหนึ่งคนต่อหนึ่งเครื่อง โครงการที่มีการทำทดลองก่อนหน้านี้เช่นโครงการ CREATE ในประเทศคอสตาริกา ที่ทาง Media Lab ก็เป็นผู้เข้าไปบุกเบิกโครงการนี้เช่นกัน ผลที่ได้จากโครงการนี้นอกจากเด็กในโครงการจะสามารถเรียนรู้จากเนื้อหาที่เกินกว่าหลักสูตรกำหนดไว้ได้แล้ว ยังมีผลให้เด็กสามารถเรียนรู้ที่จะดูแลรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ของเขาเอง

โครงการ CREATE เป็นแสดงถึงศักยภาพในการพัฒนาการเรียนรู้ที่เด็กรุ่นต่อไปจะได้รับผ่านทางเทคโนโลยีไอซีที และด้วยราคาที่ลดลงอย่างรวดเร็ว การนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้อย่างทั่วถึงในระดับชาติไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป แต่การนำคอมพิวเตอร์ในท้องตลาดไปใช้งานเพื่อการศึกษาอย่างกว้างขวางนั้นยังไม่สามารถทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากข้อจำกัดในหลายๆ ประเด็นเช่น การใช้งานคอมพิวเตอร์ในห้องเรียนหมายถึงการเดินสายไฟที่มีค่าใช้จ่ายสูง แม้จะมีแบตเตอรี่ในตัวโน้ตบุ๊กเองก็มักจะไม่สามารถทำได้ได้นานเกิน 4 ชั่วโมงซึ่งไม่เพียงพอต่อการใช้งานในการเรียนตลอดวัน
เครื่อง CM ที่ทางโครงการ OLPC จึงมุ่งออกแบบเพื่อสร้างเครื่องโน้ตบุ๊กที่ตรงกับความต้องการกับการใช้งานเพื่อการศึกษาโดยเฉพาะ ความต้องการนี้ถูกตีกรอบอย่างกว้างๆ โดย Mary Lou Japsen หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของโครงการ OLPC ถึงคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานเพื่อการศึกษาไว้ 5 ข้อดังนี้
ผลจากการออกแบบเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหล่านั้นทำให้โครงการ OLPC ได้เครื่อง CM1 ออกมา ซึ่งแม้ในหลายส่วนจะยังไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ แต่ก็นับว่าใกล้เคียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมองแนวทางการพัฒนาเครื่องโน้ตบุ๊กเพื่องานธุรกิจโดยทั่วไป ที่มีแนวทางการพัฒนาที่ต่างออกไปเช่น จอกระจกที่ไม่เหมาะกับการอ่านหนังสือ หรือการ์ดจอความแรงสูงที่ไม่จำเป็นต่อการเรียน ตลอดจนระบบไร้สายความเร็วสูงที่กินพลังงงานเป็นอย่างมาก คอมพิวเตอร์ที่โครงการ OLPC พยายามนำเสนอจึงไม่ใช่คอมพิวเตอร์ทั่วไป แต่เป็นคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการใช้เพื่อการศึกษา
| The Children’s Machine | |
| Manufacturer | Quanta Computers |
|---|---|
| Type | Laptop |
| Connectivity | 802.11b wireless LAN |
| Operating System | Fedora Core-based |
| Camera | built-in video camera (640×480; 30 FPS) |
| Media | 512 MiB – 1 GiB flash memory |
| Input | Keyboard
microphone |
| Power | NiMH battery pack |
| CPU | AMD Geode [email protected] + 5536 |
| Memory | 128 MiB DRAM |
| Display | dual-mode 19.3 cm diagonal TFT LCD 1200×900 |
เสปคเครื่อง CM1
นอกจากจะเป็นการรวมตัวของการออกแบบที่เหมาะกับการศึกษาเป็นพิเศษแล้ว โครงการ OLPC ยังตัดสินใจว่าซอฟต์แวร์เกือบทั้งหมดในเครื่อง CM1 จะเป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส เพื่อให้ค่าใช้จ่ายลดลงในระยะยาว เช่นตัวระบบปฎิบัติการเองนั้นเป็นลินุกซ์จากทางค่าย Redhat หนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของโครงการ ภาษาหลักที่ใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์คือภาษา Python ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูงจากโลกโอเพนซอร์ส และความที่โครงการนี้ใช้ซอฟต์แวร์ ทำให้ระหว่างการพัฒนา เราสามารถนำระบบปฎิบัติการ และซอฟต์แวร์ใน OLPC นี้มาลองเล่น และพัฒนาเพิ่มเติมได้เอง
ผมยังจำได้ถึงยุคเริ่มต้นของฟอร์แมต mp3 ว่ามันช่างลำบาก ด้วยเครื่อง 486SX ในบ่้านในตอนนั้น แค่จะลุ้นว่าให้ตลอดเพลงสามารถฟังได้โดยไม่มีกระตุก ก็ต้องพยายามปิดโปรแกรมที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปให้หมด พร้อมคอนฟิกโน่นนี่อีกสารพัด อีกทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์สเปคนั้นก็มีราคาสูงจนไม่ใช่ทางเลือกสำหรับความบันเทิงในบ้าน แต่ในวันนี้เอง พี่น้องผมทุกคนล้วนมีเครื่องเล่น mp3 ประจำตัว ทุกคนใช้งานเป็นของพื้นฐานที่เข้าถึงได้โดยง่าย ราคาเครื่องไม่แพงเกินไป มีความตรงไปตรงมาในการใช้งานเพียงพอที่จะไม่ต้องการการเรียนรู้เพิ่มเติมแต่อย่างใด
ผมมองว่าเครื่อง CM1 กับโน๊ตบุ๊กทั่วไป ก้เหมือนกับสมัยที่ผมใช้คอมพิวเตอร์เพื่อฟังเพลง แม้คอมพิวเตอร์ทั่วไปจะตอบสนองความต้องการด้านการศึกษาได้ แต่โดยความเป็นจริงแล้วการบำรุงรักษาที่ลำบาก การใช้งานที่ซับซ้อน ตลอดจนการใช้งานในบางส่วนเช่นอายุแบตเตอรี่ที่ต่ำ ทำให้มีความไม่เหมาะสมหลายประการ ขณะที่เครื่องคอมพิวเตอร์โดยทั่วไปนั้นถูกออกแบบมาให้ทำงานได้ทุกอย่าง แต่เคร่ื่องเล่น mp3 นั้นถูกออกแบบมาเพื่อความบันเทิงโดยเฉพาะ เช่นเดียวกับเครื่อง CM1 ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการศึกษาโดยเฉพาะ
powered by performancing firefox
โลกพัฒนาและก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีสมัยใหม่เกิดขึ้นและเติบโตไปมาก มีการพัฒนาการรูปแบบที่หลากหลาย การพัฒนาการเรียนรู้ของคนไทย และการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ จึงจำเป็นต้องนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อความเสมอภาคและพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน รวมทั้งเป็นเครื่องมือในการกระจายความรู้สู่สถานศึกษา ชุมชน และสังคมไทย ให้คนไทยสามารถเข้าถึงความรู้ได้อย่างสะดวก ง่าย และรวดเร็ว ในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป ปัจจุบันการสร้างเนื้อหาหรือความรู้ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสมัยใหม่เพื่อการแพร่กระจายได้อย่างทั่วถึงยังทำได้ไม่มาก เนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ โครงสร้างพื้นฐาน ความรู้ ความสามารถและความเข้าใจของครูและบุคคลากรที่เกี่ยวข้อง
แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๔๕ – ๒๕๕๙)
เมื่อสามสี่เดือนก่อน หลายๆ คนคงได้ยินข่าวเรื่องทักษิณจะแจกโน้ตบุ๊กเด็กทั่วประเทศไปแล้ว ด้วยสถานะการณ์ตอนนั้นคนส่วนมากในประเทศคงแบ่งออกเป็นสองกลุ่ม คือคนรักก็เห็นด้วย คนเกลียดก็บอกว่าเป็นอีกหนึ่งโครงการเอื้ออาทรที่เอาไปแจกรากหญ้าโดยไม่ดูความจำเป็น พอดีช่วงนี้ Blognone กำลังพูดถึงกันเยอะ เลยเอามาเขียนในนี้กันหน่อยดีกว่า
เล่าย่อๆ OLPC เป็นโครงการที่ออกมาจาก Media Lab ของทาง MIT โดยมีหัวหอกคือ Nicholas Negroponte ผู้ก่อตั้ง Media Lab เอง Media Lab นี้เป็นห้องวิจัยที่ยิ่งใหญ่เอามากๆ จนมีฐานะเทียบเท่าคณะหนึ่งของทาง MIT กันเลยทีเดียว โดยมีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับกันอย่างกว้างขวาง และที่สำคัญคือห้องแลปนี้เป็นผู้วิจัยอุปกรณ์เพื่อช่วยการเรียนรู้ผ่านทางการใช้คอมพิวเตอร์มายาวนาน บ้านเราอาจจะเคยเห็นโปรแกรมที่ไว้เขียนโปรแกรมควบคุมหุ่นยนต์ที่เป็นบล็อกๆ ให้เด็กลากมาต่อๆ กันมาแล้ว นั่นก็เป็นผลงานวิจัยของทางแลปนี้เหมือนกัน
หรูๆ อย่างนี้นี่ล่ะ ตึก Media Lab
เรื่องมันเกิดขึ้นเมื่อวันหนึ่งตัว Negroponte เองออกมาแสดงวิสัยทัศน์ว่าการสร้างคอมพิวเตอร์ราคาถูกมากๆ ไม่เกิน 100 ดอลลาร์สหรัฐ จะช่วยให้เด็กในโลกที่สาม สามารถเข้าถึงโอกาสในการเรียนรู้ได้มหาศาล การแสดงวิสัยทัศน์นั้นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากบริษัทเอกชนที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีเช่น Google และ AMD และบริษัทอื่นๆ รวมหกบริษัท ซึ่งการตอบรับในครั้งนั้นหมายถึงการบริจาคเงินบริษัทละ 2 ล้านดอลลาร์เพื่อเริ่มวิจัยและพัฒนาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ว่ากันทันที ส่วนตัว Negroponte ก็ลาออกมาจาก Media Lab เพื่อต่อตั้งโครงการ OLPC ที่เป็นหน่วยงานไม่แสวงหากำไรเพื่อพัฒนาเครื่องนี้
คนนี้ล่ะ Nicholas Negroponte
เครื่องคอมพิวเตอร์ที่เกิดขึ้นจากโครงการ OLPC นี้ได้ชื่อว่าเครื่อง Children’s Machine (CM) มีโดยทางเทคนิคแล้วมันคือแลปทอปเครื่องหนึ่งที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้ไม่ว่าจะอยู่ในพื้นที่แบบใดๆ ไม่ว่าจะมีไฟฟ้าหรือไม่ โดยตัวเครื่อง CM นี้ได้รับการออกแบบมาให้แทนที่ทั้งหนังสือและสมุด โดยตัว TouchPad นั้นจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าปรกติ และจอภาพที่ออกแบบมาเฉพาะทำให้อ่านหนังสือในโหมดการแสดงภาพแบบขาวดำได้ชัดเจนกว่าปรกติ
เครื่อง Children’s Machine รุ่นมีเขา
หลังจากเปิดตัวโครงการนี้โครงการก็ได้รับความสนใจจากทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อได้มีการเปิดตัวเครื่องต้นแบบที่สามารถทำงานได้จริงในงาน World Submit on the Information Society (WSIS) ที่งานเปิดตัวนั้นนายโคฟี่ อันนัน เลขธิการสหประชาชาติก็ได้ร่วมงานนั้นด้วยเช่นกัน รัฐบาลไทยในการนำของอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ก็ออกมาแสดงความสนใจในโครงการนี้แทบจะทันทีหลังจากนั้น ต่อมาโครงการ United Nation Development ได้แสดงท่าทีสนับสนุนโครงการนี้ในงาน World Economic Forum ในปีนี้เอง
เมื่อมีการออกแบบเป็นรูปเป็นร่าง ขั้นตอนต่อมานั้นคือการผลิต หลังจากถูกจับตามองกันมานาน บริษัท Quanta Computing ก็ได้รับผลิตเครื่องรุ่นนี้ในตอนปลายปี 2005 และคาดว่าจะมีการผลิตจริงในช่วงปลายปี 2006 ถึงต้นปี 2007 แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าราคา 100 ดอลลาร์นั้นไม่สามารถทำได้จริงในการผลิตช่วงแรก ราคาจึงถีบตัวขึ้นไปเป็น 135-140 ดอลลาร์ และคาดว่าจะมีการขายในราคา 100 ดอลลาร์เมื่อเข้าปี 2008 และคาดว่าราคาจะลงไปเรื่อยๆ ตามปริมาณการผลิต