่OLPC ตอนที่ 2: ความเปลี่ยนแปลง

ถ้าใครเป็นนักฟังเพลงมาเป็นเวลานานๆ หน่อยคงจะรู้ได้ว่าช่วงเวลาไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา โลกแห่งเสียงเพลงก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ นับแต่เอดิสันได้ประดิษฐ์แผ่นเสียงขึ้นมา ปฏิวัติขีดจำกัดที่ว่าการฟังเพลงคือการแสดงสดให้กลายเป็นความบันเทิงในบ้าน โลกก้าวหน้าไปอีกขึ้นด้วยเทปคาสเซ็ทที่สร้างนวัตกรรมใหม่ให้กับโลกในชื่อว่า Walkman แต่ทุกอย่างก็ถูกพลักผันไปอีกครั้ง ด้วยการเข้ามาของโลกดิจิตอล สื่อดิจิตอลคุณภาพสูงที่แทบจะไม่มีความแจกต่างจากต้นฉบับสามารถถูกทำซ้ำได้ในปริมาณเท่าที่ต้องการ โดยต้นทุนเฉลี่ยต่อชิ้นที่ต่ำสนิท เทคโนโลยี MP3 ถูกสร้างขึ้นมาตอกย้ำเส้นทางความเปลี่ยนแปลงนี้อีกครั้ง ด้วยเทคโนโลยีที่แต่เดิมถูกสร้างขึ้นมาเพื่องานภาพยนตร์ แต่ด้วยคุณภาพที่ยอมรับได้และขนาดไฟล์ที่เล็กอย่างไม่น่าเชื่อ ทำให้เทคโนโลยีเอ็มพีสามเร่งความเร็วโลกดนตรีดิจิตอลไปด้วยความเร็วเกินกว่าคนเมื่อสิบห้าปีก่อนจะฝันถึง

โลกการศึกษานั้นก็ไม่ต่างกัน เมื่อในสมัยหนึ่งเราเคยให้นักเรียนถือกระดานชนวนคนละแผ่นไปเรียนหนังสือกัน แม้กระดานชนวนนั้นจะมีประสิทธิภาพที่ค่อนข้างดี ราคาถูก และทนทาน แต่เมื่อเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่นสมุดเรียนถูกพัฒนาขึ้นให้ถูกพอที่จะนำมาใช้งาน ในวันนี้คงไม่มีใครถือกระดานชนวนไปเรียนหนังสือกันอีกต่อไป น่าแปลกที่กระดานชนวนในยุคนี้นั้นกลายเป็นของสะสมและของที่ระลึกที่ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประโยชน์ใช้สอย ไม่ต่างจากราคาแผ่นเสียงในสมัยนี้

คอมพิวเตอร์ถูกนำเข้ามาใช้ในการศึกษาอย่างรวดเร็วในช่วงห้าปีที่ผ่านมา นับแต่ผมเรียนในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มา ทางมหาวิทยาลัยได้เปิดให้มีงานใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่ววิทยาเขตบางเขนฟรี และผมก็เป็นคนแรกๆ ที่วิ่งไปซื้อการ์ด WiFi มาใช้งานกับมัน ในช่วงเวลาสามปีต่อมา จำนวนคอมพิวเตอร์ที่ถูกใช้งานในพื้นที่มหาวิทยาลัยเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด พร้อมๆ กับสัดส่วนงานที่ต้องส่งเป็นกระดาษที่น้อยลงอย่างรวดเร็ว

โลโก้โครงการ One Laptop Per Child

โครงการ OLPC จึงเป็นหนึ่งในความพยายามที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลง ด้วยการให้เด็กทุกคนเข้าถึงโน้ตบุ๊กเป็นส่วนตัวแบบหนึ่งคนต่อหนึ่งเครื่อง โครงการที่มีการทำทดลองก่อนหน้านี้เช่นโครงการ CREATE ในประเทศคอสตาริกา ที่ทาง Media Lab ก็เป็นผู้เข้าไปบุกเบิกโครงการนี้เช่นกัน ผลที่ได้จากโครงการนี้นอกจากเด็กในโครงการจะสามารถเรียนรู้จากเนื้อหาที่เกินกว่าหลักสูตรกำหนดไว้ได้แล้ว ยังมีผลให้เด็กสามารถเรียนรู้ที่จะดูแลรักษาเครื่องคอมพิวเตอร์ของเขาเอง


โครงการ CREATE

โครงการ CREATE เป็นแสดงถึงศักยภาพในการพัฒนาการเรียนรู้ที่เด็กรุ่นต่อไปจะได้รับผ่านทางเทคโนโลยีไอซีที และด้วยราคาที่ลดลงอย่างรวดเร็ว การนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้อย่างทั่วถึงในระดับชาติไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้อีกต่อไป แต่การนำคอมพิวเตอร์ในท้องตลาดไปใช้งานเพื่อการศึกษาอย่างกว้างขวางนั้นยังไม่สามารถทำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เนื่องจากข้อจำกัดในหลายๆ ประเด็นเช่น การใช้งานคอมพิวเตอร์ในห้องเรียนหมายถึงการเดินสายไฟที่มีค่าใช้จ่ายสูง แม้จะมีแบตเตอรี่ในตัวโน้ตบุ๊กเองก็มักจะไม่สามารถทำได้ได้นานเกิน 4 ชั่วโมงซึ่งไม่เพียงพอต่อการใช้งานในการเรียนตลอดวัน


Mary Lou Japsen หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยี โครงการ OLPC

เครื่อง CM ที่ทางโครงการ OLPC จึงมุ่งออกแบบเพื่อสร้างเครื่องโน้ตบุ๊กที่ตรงกับความต้องการกับการใช้งานเพื่อการศึกษาโดยเฉพาะ ความต้องการนี้ถูกตีกรอบอย่างกว้างๆ โดย Mary Lou Japsen หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีของโครงการ OLPC ถึงคอมพิวเตอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานเพื่อการศึกษาไว้ 5 ข้อดังนี้

  1. คอมพิวเตอร์นั้นต้องใช้พลังงานให้น้อยที่สุด โดยมีเป้าหมายที่ระดับ 2 – 3 วัตต์ (เทียบกับโน้ตบุ๊กทั่วไปที่ต้องการพลังงาน มากกว่า 60 วัตต์)
  2. ค่าใช้จ่ายในการผลิตถูกที่สุด เป้าหมายอยู่ 100 ดอลลาร์ต่อเครื่อง เมื่อสั่งครั้งละหนึ่งล้านเครื่อง (
  3. สวยงาม ดึงดูดความสนใจของผู้ใช้
  4. อ่านหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ได้โดยกินพลังงานต่ำมาก
  5. ติดตั้งซอฟต์แวร์พื้นฐานเป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส และซอฟต์แวร์เสรี

ผลจากการออกแบบเพื่อให้บรรลุเป้าหมายเหล่านั้นทำให้โครงการ OLPC ได้เครื่อง CM1 ออกมา ซึ่งแม้ในหลายส่วนจะยังไม่ถึงเป้าหมายที่วางไว้ แต่ก็นับว่าใกล้เคียง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมองแนวทางการพัฒนาเครื่องโน้ตบุ๊กเพื่องานธุรกิจโดยทั่วไป ที่มีแนวทางการพัฒนาที่ต่างออกไปเช่น จอกระจกที่ไม่เหมาะกับการอ่านหนังสือ หรือการ์ดจอความแรงสูงที่ไม่จำเป็นต่อการเรียน ตลอดจนระบบไร้สายความเร็วสูงที่กินพลังงงานเป็นอย่างมาก คอมพิวเตอร์ที่โครงการ OLPC พยายามนำเสนอจึงไม่ใช่คอมพิวเตอร์ทั่วไป แต่เป็นคอมพิวเตอร์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการใช้เพื่อการศึกษา

The Children’s Machine
Manufacturer Quanta Computers
Type Laptop
Connectivity 802.11b wireless LAN
Operating System Fedora Core-based
Camera built-in video camera (640×480; 30 FPS)
Media 512 MiB – 1 GiB flash memory
Input Keyboard

Touchpad

microphone

Power NiMH battery pack
CPU AMD Geode [email protected] + 5536
Memory 128 MiB DRAM
Display dual-mode 19.3 cm diagonal TFT LCD 1200×900

เสปคเครื่อง CM1

นอกจากจะเป็นการรวมตัวของการออกแบบที่เหมาะกับการศึกษาเป็นพิเศษแล้ว โครงการ OLPC ยังตัดสินใจว่าซอฟต์แวร์เกือบทั้งหมดในเครื่อง CM1 จะเป็นซอฟต์แวร์โอเพนซอร์ส เพื่อให้ค่าใช้จ่ายลดลงในระยะยาว เช่นตัวระบบปฎิบัติการเองนั้นเป็นลินุกซ์จากทางค่าย Redhat หนึ่งในผู้สนับสนุนหลักของโครงการ  ภาษาหลักที่ใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์คือภาษา Python ที่ได้รับความนิยมค่อนข้างสูงจากโลกโอเพนซอร์ส และความที่โครงการนี้ใช้ซอฟต์แวร์ ทำให้ระหว่างการพัฒนา เราสามารถนำระบบปฎิบัติการ และซอฟต์แวร์ใน OLPC นี้มาลองเล่น และพัฒนาเพิ่มเติมได้เอง

ผมยังจำได้ถึงยุคเริ่มต้นของฟอร์แมต mp3 ว่ามันช่างลำบาก ด้วยเครื่อง 486SX ในบ่้านในตอนนั้น แค่จะลุ้นว่าให้ตลอดเพลงสามารถฟังได้โดยไม่มีกระตุก ก็ต้องพยายามปิดโปรแกรมที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปให้หมด พร้อมคอนฟิกโน่นนี่อีกสารพัด อีกทั้งเครื่องคอมพิวเตอร์สเปคนั้นก็มีราคาสูงจนไม่ใช่ทางเลือกสำหรับความบันเทิงในบ้าน แต่ในวันนี้เอง พี่น้องผมทุกคนล้วนมีเครื่องเล่น mp3 ประจำตัว ทุกคนใช้งานเป็นของพื้นฐานที่เข้าถึงได้โดยง่าย ราคาเครื่องไม่แพงเกินไป มีความตรงไปตรงมาในการใช้งานเพียงพอที่จะไม่ต้องการการเรียนรู้เพิ่มเติมแต่อย่างใด
ผมมองว่าเครื่อง CM1 กับโน๊ตบุ๊กทั่วไป ก้เหมือนกับสมัยที่ผมใช้คอมพิวเตอร์เพื่อฟังเพลง แม้คอมพิวเตอร์ทั่วไปจะตอบสนองความต้องการด้านการศึกษาได้ แต่โดยความเป็นจริงแล้วการบำรุงรักษาที่ลำบาก การใช้งานที่ซับซ้อน ตลอดจนการใช้งานในบางส่วนเช่นอายุแบตเตอรี่ที่ต่ำ ทำให้มีความไม่เหมาะสมหลายประการ ขณะที่เครื่องคอมพิวเตอร์โดยทั่วไปนั้นถูกออกแบบมาให้ทำงานได้ทุกอย่าง แต่เคร่ื่องเล่น mp3 นั้นถูกออกแบบมาเพื่อความบันเทิงโดยเฉพาะ เช่นเดียวกับเครื่อง CM1 ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการศึกษาโดยเฉพาะ

powered by performancing firefox

 

เทคโนโลยี – ความจำเป็น

โลกพัฒนาและก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เทคโนโลยีสมัยใหม่เกิดขึ้นและเติบโตไปมาก มีการพัฒนาการรูปแบบที่หลากหลาย การพัฒนาการเรียนรู้ของคนไทย และการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ จึงจำเป็นต้องนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อความเสมอภาคและพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอน รวมทั้งเป็นเครื่องมือในการกระจายความรู้สู่สถานศึกษา ชุมชน และสังคมไทย ให้คนไทยสามารถเข้าถึงความรู้ได้อย่างสะดวก ง่าย และรวดเร็ว ในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป ปัจจุบันการสร้างเนื้อหาหรือความรู้ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสมัยใหม่เพื่อการแพร่กระจายได้อย่างทั่วถึงยังทำได้ไม่มาก เนื่องจากข้อจำกัดด้านงบประมาณ โครงสร้างพื้นฐาน ความรู้ ความสามารถและความเข้าใจของครูและบุคคลากรที่เกี่ยวข้อง

แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๔๕ – ๒๕๕๙)

 

OLPC ตอนที่ 1:จุดเริ่มต้น

เมื่อ​สาม​สี่​เดือน​ก่อน หลายๆ คน​คง​ได้​ยิน​ข่าว​เรื่อง​ทักษิณ​จะ​แจก​โน้ตบุ๊ก​เด็ก​ทั่ว​ประเทศ​ไป​แล้ว ด้วย​สถานะ​การณ์​ตอน​นั้น​คน​ส่วน​มาก​ใน​ประเทศ​คง​แบ่ง​ออก​เป็น​สอง​กลุ่ม คือ​คน​รัก​ก็​เห็น​ด้วย คน​เกลียด​ก็​บอก​ว่า​เป็น​อีก​หนึ่ง​โครงการ​เอื้อ​อาทร​ที่​เอา​ไป​แจก​ราก​หญ้า​โดย​ไม่​ดู​ความ​จำ​เป็น พอ​ดี​ช่วง​นี้ Blognone กำลัง​พูด​ถึง​กัน​เยอะ เลย​เอา​มา​เขียน​ใน​นี้​กัน​หน่อย​ดี​กว่า

เล่า​ย่อๆ OLPC เป็น​โครงการ​ที่​ออก​มา​จาก Media Lab ของ​ทาง MIT โดย​มี​หัวหอก​คือ Nicholas Negroponte ผู้​ก่อ​ตั้ง Media Lab เอง Media Lab นี้​เป็น​ห้อง​วิจัย​ที่​ยิ่ง​ใหญ่​เอา​มากๆ จน​มี​ฐานะ​เทียบ​เท่า​คณะ​หนึ่ง​ของ​ทาง MIT กัน​เลย​ที​เดียว โดย​มี​งาน​วิจัย​ที่​ได้​รับ​การ​ยอม​รับ​กัน​อย่าง​กว้าง​ขวาง และ​ที่​สำคัญ​คือ​ห้อง​แล​ปนี้เป็น​ผู้​วิจัย​อุปกรณ์​เพื่อ​ช่วย​การ​เรียน​รู้​ผ่าน​ทาง​การ​ใช้​คอมพิวเตอร์​มา​ยาว​นาน บ้าน​เรา​อาจ​จะ​เคย​เห็น​โปรแกรม​ที่​ไว้​เขียน​โปรแกรม​ควบ​คุม​หุ่น​ยนต์​ที่​เป็น​บล็อกๆ ให้​เด็ก​ลาก​มา​ต่อๆ กัน​มา​แล้ว นั่น​ก็​เป็น​ผล​งาน​วิจัย​ของ​ทาง​แล​ปนี้เหมือน​กัน

Media Lab

หรูๆ อย่าง​นี้​นี่​ล่ะ ตึก Media Lab

เรื่อง​มัน​เกิด​ขึ้น​เมื่อ​วัน​หนึ่ง​ตัว Negroponte เอง​ออก​มาแสดง​วิสัย​ทัศน์ว่า​การ​สร้าง​คอมพิวเตอร์​ราคา​ถูก​มากๆ ไม่​เกิน 100 ดอลลาร์​สหรัฐ จะ​ช่วย​ให้​เด็ก​ใน​โลก​ที่​สาม สามารถ​เข้า​ถึง​โอกาส​ใน​การ​เรียน​รู้​ได้​มหาศาล การ​แสดง​วิสัย​ทัศน์​นั้น​ได้​รับ​การ​ตอบ​รับ​เป็น​อย่าง​ดี​จาก​บริษัท​เอกชน​ที่​เรา​รู้จัก​กัน​เป็น​อย่าง​ดี​เช่น Google และ AMD และ​บริษัท​อื่นๆ รวม​หก​บริษัท ซึ่ง​การ​ตอบ​รับ​ใน​ครั้ง​นั้น​หมาย​ถึง​การ​บริจาค​เงิน​บริษัท​ละ 2 ล้าน​ดอลลาร์​เพื่อ​เริ่ม​วิจัย​และ​พัฒนา​เครื่อง​คอมพิวเตอร์​ที่​ว่า​กัน​ทันที ส่วน​ตัว Negroponte ก็​ลา​ออก​มา​จาก Media Lab เพื่อ​ต่อ​ตั้งโครงการ OLPC ที่​เป็น​หน่วย​งาน​ไม่​แสวง​หา​กำไร​เพื่อ​พัฒนา​เครื่อง​นี้

คน​นี้​ล่ะ Nicholas Negroponte

เครื่อง​คอมพิวเตอร์​ที่​เกิด​ขึ้น​จาก​โครงการ OLPC นี้​ได้​ชื่อ​ว่า​เครื่อง Children’s Machine (CM) มี​โดย​ทาง​เทคนิค​แล้ว​มัน​คือ​แลปทอป​เครื่อง​หนึ่ง​ที่​ถูก​ออก​แบบ​มา​เพื่อ​ให้​ใช้​งาน​ได้​ไม่​ว่า​จะ​อยู่​ใน​พื้นที่​แบบ​ใดๆ ไม่​ว่า​จะ​มี​ไฟ​ฟ้า​หรือ​ไม่ โดย​ตัว​เครื่อง CM นี้​ได้​รับ​การ​ออก​แบบ​มา​ให้​แทน​ที่​ทั้ง​หนังสือ​และ​สมุด โดย​ตัว TouchPad นั้น​จะ​มี​ขนาด​ที่​ใหญ่​กว่า​ปรกติ และ​จอ​ภาพ​ที่​ออก​แบบ​มา​เฉพาะ​ทำ​ให้​อ่าน​หนังสือ​ใน​โหมด​การ​แสดง​ภาพ​แบบ​ขาว​ดำ​ได้​ชัดเจน​กว่า​ปรกติ

เครื่อง Children’s Machine รุ่น​มี​เขา

หลัง​จาก​เปิด​ตัว​โครงการ​นี้​โครงการ​ก็​ได้​รับ​ความ​สนใจ​จาก​ทั่ว​โลก โดย​เฉพาะ​อย่าง​ยิ่ง​เมื่อ​ได้​มี​การ​เปิด​ตัว​เครื่อง​ต้น​แบบ​ที่​สามารถ​ทำ​งาน​ได้​จริง​ใน​งาน World Submit on the Information Society (WSIS) ที่​งาน​เปิด​ตัว​นั้น​นาย​โค​ฟี่ อันนัน เลข​ธิการส​หประ​ชา​ชาติ​ก็​ได้​ร่วม​งาน​นั้น​ด้วย​เช่น​กัน รัฐบาล​ไทย​ใน​การ​นำ​ของ​อดีต​นายก​รัฐมนตรี​ทักษิณ ชิน​วัตร ก็​ออก​มา​แสดง​ความ​สนใจ​ใน​โครงการ​นี้​แทบ​จะ​ทันที​หลัง​จาก​นั้น ต่อ​มา​โครงการ United Nation Development ได้​แสดง​ท่า​ที​สนับสนุน​โครงการ​นี้​ใน​งาน World Economic Forum ใน​ปี​นี้​เอง

เมื่อ​มี​การ​ออก​แบบ​เป็น​รูป​เป็น​ร่าง ขั้น​ตอน​ต่อ​มา​นั้น​คือ​การ​ผลิต หลัง​จาก​ถูก​จับ​ตา​มอง​กัน​มา​นาน บริษัท Quanta Computing ก็​ได้​รับ​ผลิต​เครื่อง​รุ่น​นี้​ใน​ตอน​ปลาย​ปี 2005 และ​คาด​ว่า​จะ​มี​การ​ผลิต​จริง​ใน​ช่วง​ปลาย​ปี 2006 ถึง​ต้น​ปี 2007 แต่​เป็น​ที่​น่า​เสีย​ดาย​ว่า​ราคา 100 ดอลลาร์​นั้น​ไม่​สามารถ​ทำ​ได้​จริง​ใน​การ​ผลิต​ช่วง​แรก ราคา​จึง​ถีบ​ตัว​ขึ้น​ไป​เป็น 135-140 ดอลลาร์ และ​คาด​ว่า​จะ​มี​การ​ขาย​ใน​ราคา 100 ดอลลาร์​เมื่อ​เข้า​ปี 2008 และ​คาด​ว่า​ราคา​จะ​ลง​ไป​เรื่อยๆ ตาม​ปริมาณ​การ​ผลิต