เพ้อ

เสียงเพลงแจ๊สถูกขับออกมาจากลำโพงคู่หนึ่งที่ไม่ได้ถูกใช้งานมานาน… อย่างน้อยก็ตามหน้าที่ของมันเอง

เสียงเพลงแจ๊สยามเที่ยงคืน ในห้องนอนที่ไม่มีใคร เสียงเพลงที่สดใสก็กลายเป็นความเงียบงันได้อย่างน่าประหลาด

นี่ล่ะมั๊ง เสียงแห่งความเงียบ

ห้องรกๆ ก็ดูอ้างว้างไปถนัดตา

งานที่กองสุมเป็นพะเนิน แต่ดูไร้จุดหมาย

ชีวิตยังเดินต่อไปข้างหน้า…

 

จอใหม่

คุณคิดว่าถ้าคนอย่างลิ่วเพิ่งได้จอ 21.5 นิ้วที่ความละเอียด full HD มาใช้ที่บ้านแล้วมันจะทำอะไรเป็นอย่างแรก? ดูหนัง? เขียนโปรแกรม?

[คำตอบคือ….](http://picasaweb.google.com/lewcpe/Blognone#5270429107744213794)

ภาพชัด สีสดใส คุ้มเงินเป็นที่สุด

 

Traditional Media is outdated

ผมเข้าไปอยู่วงการสื่อบ้านเราเยอะขึ้นเรื่อยๆ จากการที่ Blognone เป็นที่รู้จักมากขึ้น เริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าทำไม Blognone มันถึงเกิด

กระบวนการทำข่าว “ไอที” ในบ้านเรา

– บริษัทเตรียมการเปิดตัวสินค้า ไปจ้างเอเจนซี่มาจัดงานอีเวนต์
– เอเจนซี่ส่งข่าว (โทรศัพท์, SMS, อีเมล ฯลฯ) ไปตามนักข่าว
– บก. ข่าวได้หัวข้อข่าวคร่าวๆ แล้วตัดสินใจว่าจะส่งนักข่าวไปงานไหนดี
– วันรุ่งขึ้นนักข่าวไปงาน กลับสำนักงานมาเขียนข่าว
– ทีม บก. นั่งแก้ไขข่าวกันไป
– ดีพิมพ์ในวันรุ่งขึ้น

ส่วนของ Blognone

– ข่าวต่างประเทศออก
– เขียนลง Blognone

กระบวนการเช่นนี้สร้างความต่างในแง่ของเวลาประมาณ 50-100 ชั่วโมง เพราะช่วงเตรียมงานนั้นส่วนมากในต่างประเทศก็ยังไม่มีข่าวถ้าไม่โดนมือดีฉกข่าวหลุดออกมาซะก่อน แต่ในโลกอินเทอร์เน็ต แค่ 24 ชั่วโมงทุกอย่างก็หมดความหมายไปแล้ว ทำไมผมถึงอยากอ่านข่าวของเมื่อวานนี้กันเล่า?

เรื่องที่น่าสนใจเรื่องต่อไปคือ เอเจนซี่, กับนักข่าวเองควรทำตัวอย่างไรในยุคที่หนึ่งวันในโลกไซเบอร์นั้นเหลือแค่ไม่ถึงสิบชั่วโมงอย่างทุกวันนี้

ไว้คิดออกแล้วมาเขียนต่อ

 

เหยีบตีน

หัวข้อกวนๆ แต่บล็อคนี้เทคนิคมาก ถ้าใครหวังอ่านบล็อคความรักโปรดข้ามไปก่อน…

ยังไม่ข้าม? งั้นลุยเลย

ลองคิดดูเล่นๆ ถ้าวันนี้เราไปจีบสาวสักคน กำลังเดินควงๆ อยู่แล้วไปรู้เอาทีหลังว่าเธอเป็นกิ๊กกับผู้บริหารกู… สักคน (เอาว่าชื่อนาย ซ. แล้วกัน) ในตอนนี้

งานเข้าทันทีครับพี่น้อง…

มีใครสักคนถ่ายรูปเราตอนกำลังควงสาวคนนั้นอยู่ เว็บแอพลิเคชั่นจะจับใบหน้าของเราละสาวคนนั้นไว้ พร้อมแยกแยะหน้าของเราและเธอคนนั้นออกมาในทันที

เราไม่มีวันรู้ว่าใครสักคนจะเขียนโปรแกรมดักไว้รึเปล่า อาจจะมีใครสักคนเขียนโปรแกรมแบบเดียวกับ Google Alert เอาไว้ให้เตือนทุกครั้งที่มีภาพของใครสักคนที่เราต้องการเข้ามาในระบบ

ภาพนั้นถูกอัพโหลดขึ้นระบบเบื้องหลังถูกเตือนขึ้นมาเพราะภาพสาวไปโผล่ในระบบ นายซ. สั่งค้นหาภาพทั้งหมดของเราทันที

แน่นอนว่าภาพของเราจะถูกดึงขึ้นมา ส่วนมากแล้วอยู่ในบัญชีเพื่อนๆ เราจำนวนมาก ทันทีที่การค้นหาภาพของเราเริ่มต้นขึ้น ความสัมพันธ์ของเรากับคนจำนวนมากถูกฟอร์มออกมาเป็นข้อมูลสรุปในทันที

เพื่อนคนหนึ่งในนั้น ใส่ข้อมูลอีเมลของเราประกอบภาพเอาไว้เพื่อความง่าย ข้อมูลที่หลุดเป็นอย่างที่สองคืออีเมลของเรา

ข่าวร้ายคือ อีเมลของเราก็ใช้ของบริษัทที่นาย ซ. ทำงานอยู่นี่ล่ะ!!!

อีเมลหลุดไป ข้อมูลจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นสถานะทางการเงินที่ K-Bank เพิ่งอัพเดตให้เมื่อวันเสาร์ หรือจะเป็นนัดไปเที่ยวอาทิตย์หน้า ตลอดจนตารางเวลาชีวิตของเราก็หลุดไป

ยังมีอีกหน่อย Chat Log ที่เราไปคุยกับกิ๊กของนายซ. ไว้ เพียงการค้นหาชั่วเสี้ยววินาที นาย ซ. รู้ได้ทันทีว่าเราเริ่มคุยกับกิ๊กของเขาอย่างไรกัน

เมื่อตรวจ log ที่เข้าใช้เว็บเมลแล้ว นาย ซ. จะสามารถบอกได้ว่าเราเข้าใช้อินเทอร์เน็ตจากไอพีหมายเลขใดเวลาใดบ้าง

ข่าวดีคือ เว็บจำนวนมากในโลก มีโค้ดของบริษัท กู… นี่ฝังอยู่ ไม่ว่าจะอยู่ในรูปของโฆษณาหรือระบบวิเคราะห์ข้อมูลผู้เข้าชมเว็บต่างๆ ทั่วโลก

พฤติกรรมเราจะถูกวิเคราะห์จากเว็บที่เราเข้าชม เวลาที่ใช้ในแต่ละเว็บ ความสนใจอของเราจะถูกวิเคราะห์จากคำค้นหาทุกคำเท่าที่เราเคยค้น เรื่องทุกเรื่องที่เราสนใจไม่ว่าจะ share หรือ star ไว้จะบอกได้ว่าเราสนใจอะไรบ้าง

โอ้ว ไม่…

พอดีกว่า