คำเตือน: อาจจะ spoil หนังเรื่อง Taking Woodstock
อาจารย์ผมท่านหนึ่งว่าเอาไว้ “ในโลกนี้ไม่มีอะไรเป็นสีขาวหรือดำ ทุกอย่างเป็นเทาๆ” คงเป็นความจริงที่เรารับรู้กันได้ ในสิ่งที่ดูเลวร้าย เรายังคงมักจะหาสิ่งดีๆ ได้เสมอๆ
ผมเคยคิดว่าคนเราทุกคน มีเส้นขีดอยู่ในสมองของเราเอง ว่าระดับใดกันที่เป็นความเลวร้าย ระดับใดที่เรารู้สึกแย่ และระดับใดที่เรายอมรับไม่ได้
น่าสนใจคือระดับที่รับไม่ได้นั้นบางคนกลับสูงจนหาไม่เจอ
คู่รักคู่หนึ่งที่ดูจะไม่มีความสุขนัก ฝ่ายหญิงทำทุกอย่างด้วยความเห็นแก่ตัว อีกฝ่ายก็ต้องทนอยู่เรื่อยมา นับสิบปี ครอบครัวมีฐานะที่ไม่ดีนัก หนี้สินอยู่ในระดับล้นพ้นตัว ทุกคนทำงานหนักเพื่อแก้ปัญหา
วันหนึ่ง ความเห็นแก่ตัวที่ทุกคนในครอบครัวรับรู้ก็เพิ่มเข้ามา เมื่อทุกคนพบว่าฝ่ายหญิงมีเงินที่แอบเก็บเอาไว้นับสิบปีเป็นจำนวนมหาศาลโดยไม่มีใครรู้กระทั่งสามี
สามีไม่พูดอะไรเมื่อพบความจริงนี้ มีคนถามว่าเขาทนได้อย่างไรกันกับเรื่องทั้งหมดที่ผ่านมา เขาตอบสั้นๆ
“ฉันรักเธอ…”
พูดถึงหนังเรื่อง Taking Woodstock เสียหน่อย จริงๆ แล้วหนังเรื่องนี้เป็นหนังเจ๊งอีกเรื่องในปีนี้ (งบ 30 ล้าน ทำเงินได้ 8 ล้าน) แต่ดูเนื้อเรื่องแล้วก็ไม่น่าแปลกใจนัก ด้วยการเดินเรื่องเนิบๆ แปลกๆ แถมตัวหนังที่ขึ้นชื่อด้วยเทศกาล Woodstock แต่ดันแทบไม่ได้เห็นบรรยากาศใดๆ เลย แต่โดยรวมแล้วกลับน่าสนใจ โดยเฉพาะในเรื่องของเศรษฐกิจ จากเมืองที่กำลังจะตาย การเข้ามาของมหาชนจะช่วยได้ เงินมหาศาลจะหลั่งไหลเข้าม แต่ก็พร้อมกับความวุ่นวาย และขยะมหาศาล เราจะเลือกอะไรกัน? ถ้าเราไม่เห็นด้วย เราพร้อมจะไม่หาผลประโยชน์จากมันหรือไม่
ปล. หนังเรื่องนี้ติดเรต ฉ. มากๆ ทั้งเรื่องเพศและยาเสพติด (อันหลังนี่ผมดูเองยังตะหงิดๆ ว่ามันดูส่งเสริมยาเสพติด) ถ้าไม่สะดุดกับอะไรพวกนี้แลว มันจะเป็นหนังตลก….