ผมเข้าไปอยู่วงการสื่อบ้านเราเยอะขึ้นเรื่อยๆ จากการที่ Blognone เป็นที่รู้จักมากขึ้น เริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าทำไม Blognone มันถึงเกิด
กระบวนการทำข่าว “ไอที” ในบ้านเรา
– บริษัทเตรียมการเปิดตัวสินค้า ไปจ้างเอเจนซี่มาจัดงานอีเวนต์
– เอเจนซี่ส่งข่าว (โทรศัพท์, SMS, อีเมล ฯลฯ) ไปตามนักข่าว
– บก. ข่าวได้หัวข้อข่าวคร่าวๆ แล้วตัดสินใจว่าจะส่งนักข่าวไปงานไหนดี
– วันรุ่งขึ้นนักข่าวไปงาน กลับสำนักงานมาเขียนข่าว
– ทีม บก. นั่งแก้ไขข่าวกันไป
– ดีพิมพ์ในวันรุ่งขึ้น
ส่วนของ Blognone
– ข่าวต่างประเทศออก
– เขียนลง Blognone
กระบวนการเช่นนี้สร้างความต่างในแง่ของเวลาประมาณ 50-100 ชั่วโมง เพราะช่วงเตรียมงานนั้นส่วนมากในต่างประเทศก็ยังไม่มีข่าวถ้าไม่โดนมือดีฉกข่าวหลุดออกมาซะก่อน แต่ในโลกอินเทอร์เน็ต แค่ 24 ชั่วโมงทุกอย่างก็หมดความหมายไปแล้ว ทำไมผมถึงอยากอ่านข่าวของเมื่อวานนี้กันเล่า?
เรื่องที่น่าสนใจเรื่องต่อไปคือ เอเจนซี่, กับนักข่าวเองควรทำตัวอย่างไรในยุคที่หนึ่งวันในโลกไซเบอร์นั้นเหลือแค่ไม่ถึงสิบชั่วโมงอย่างทุกวันนี้
ไว้คิดออกแล้วมาเขียนต่อ
1 – สำนักข่าวยังรู้ล่วงหน้าว่าข่าว IT จะเกิดขึ้น “ที่ไหน” และพร้อมไปดูก่อนคนทั่วไปเสมอ (รวมทั้งการเป็นสำนักข่าวใหญ่อย่างเป็นรูปธรรม เป็นที่ต้อนรับ)
2 – สำนักข่าวจะทำตัวเหมือนกลุ่มข่าวอย่าง Blognone ทีมทำข่าว ต้องมีคุณภาพเพิ่มขึ้น มีความฉับไวและความอิสระที่จะเขียนข่าวด้วยตัวเอง ไม่ต้องได้รับการควบคุมข่าวจาก บ.ก.
ผมคิดว่าสำนักข่าวหัวโบราณคงตายกันหมด และเหลือแต่เว็บข่าวแบบบล็อกนอนที่จะมีบางกลุ่มติดโฆษณา หาสปอนเซอร์ และทำข่าวกันแบบเป็นล่ำเป็นสัน
หรืออาจมีประธานบริษัทหัวก้าวหน้า ปรับระบบบริษัทเป็นการจ้างทีมทำข่าวให้ไปล่าข่าวมาขึ้นเว็บตัวเอง
อย่างต่ำก็คงต้องปรับให้การทำงานเป็นแบบสำนักข่าวฝรั่งได้แล้ว
อย่างน้อย การไปทำข่าวแบบต่อหน้าต่อตา เขียนและส่งข่าวเดี๋ยวนั้น ก็ไม่ต้องรอการเพรสและการแปลจากสำนักข่าวต่างประเทศ ปัญหาอยู่ที่ ผู้มีเงินแต่สมองเป็นรุ่นโบราณในบ้านเรามีปัญญารึเปล่า
ป.ล. ถ้าเลิกทำข่าวแบบเก่า เลิกใช้หนังสือพิมพ์ จะดีมาก ไม่ต้องใช้กระดาษ ทำลายทรัพยากร
ป.ล.2 ผมคิดถึงการ์ตูนเรื่องยุทธการใต้สมุทร ที่ช่วงท้ายเรื่อง มีแสดงความยิ่งใหญ่ของสื่ออินเตอร์เน็ท ที่ทำให้ประธานเคเบิลทีวีได้รู้สึกว่า ตัวเองกำลังล้าหลังชาวโลกในพริบตา
นักข่าวแบบเก่าควรทำอย่างไร -> ควรนั่งเทียนเขียนข่าวเอาเอง (อ้าว ทำอยู่แล้วเรอะ)