มหาวิทยาลัยจะมีเสรีภาพทางวิชาการได้อย่างไรถ้าปล่อยให้ปัจเจกชนต้องก้มหน้าติดพื้น
ไม่สามารถพูด แสดงความคิดเห็น หรือถกเถียงได้อย่างอิสระเพราะอีกฝ่ายเกิดมาก่อนหนึ่งปี
ศานติ
5 thoughts on “อย่างไร?”
Comments are closed.
มหาวิทยาลัยจะมีเสรีภาพทางวิชาการได้อย่างไรถ้าปล่อยให้ปัจเจกชนต้องก้มหน้าติดพื้น
ไม่สามารถพูด แสดงความคิดเห็น หรือถกเถียงได้อย่างอิสระเพราะอีกฝ่ายเกิดมาก่อนหนึ่งปี
ศานติ
Comments are closed.
บริษัทจะมีเสรีภาพทางการจัดการได้อย่างไรถ้าปล่อยให้ปัจเจกชนต้องก้มหน้าติดพื้น ไม่สามารถพูด แสดงความคิดเห็น หรือถกเถียงได้อย่างอิสระเพราะอีกฝ่ายเข้ามาทำงานก่อนแค่หนึ่งปี (แถมมันยังอาจจะอายุน้อยกว่าเราตั้งหลายปีด้วยซ้ำ แต่ว่ามันเป็นเด็กเส้นใหญ่)
รับน้องมันก็แค่จำลองชีวิตจริง ที่เราอาจต้องพบเจอในชีวิตก้าวต่อไปค่ะ
Aoyoyo – ผมทำงานมาสองปี ผมก็ยังเห็นว่าที่บอกว่ารับน้องมันเป็นการจำลองชีวิตนี่มันไม่ใช่อะไรสำหรับทุกคน
คำสำคัญมากๆ ที่คุณพูดคือ “อาจ” คำว่าอาจจะนี่กว้างมาก ไม่เคยมีใครอธิบายได้ว่าไอ้อาจจะนี่มันเท่าใหร่
เคยมีเรื่องการซื้อขายบริษัท Ziff-Davis คนซื้อนั้นต้องไปอ้อนวอนคนขายขนาดที่ว่าไปนั่งบอลลูนเพื่อขอซื้อบริษัท
จากเรื่องอย่างนี้ผมบอกได้ทันทีว่าชีวิตเรา “อาจจะ” ต้องนั่งบอลลูนเพื่อประสบความสำเร็จ
คำถามคือผมควรบรรจุวิชาการนั่งบอลลูนไปส่วนหนึ่งของการเรียนไหม เพราะนักเรียน “อาจจะ” ต้องการมันในวันหนึ่ง
ถ้าใช้คำว่า “อาจ” นี่คงจะทำอะไรก็ได้ล่ะครับ
แต่ผมถามกลับว่ามันเป็นไปได้ไหม นี่น้องคนหนึ่งที่รับไม่ได้กับการรับน้องแล้วต้องออกไปจากมหาวิทยาลัย
เขาหรือเธอ “อาจ” จะประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างมาก หากเขาหรือเธอเรียนจบโดยไม่ต้องเจอระบบเช่นนี้
รุ่นพี่เป็นใคร พระเจ้าหรือไง ถึงมีสิทธิมาตัดสิน
ถึงใครๆจะบอกว่า ระบบว๊ากทำให้สามัคคีกัน
ปัจจุบันผมก็ระแวงพี่ทุกคนที่เคยว๊ากผมอยู่ดี :(
เขาอาจมีเหตุผลแต่ผมไม่ค่อยชอบนะ ระบบว๊ากเนี่ย 55
คือยังไงการทำให้น้องๆสามัคคีมันน่ามีแนวทางอื่น ที่อยากให้พวกรุ่นพี่รวมหัวกันคิด
หรือพวกอาจารย์รวมตัวกันคิด
ระบบว๊ากมันเหมือนการบังคับความคิดให้หันไปทางที่เขาต้องการ
การไ่ม่ทำเสมือนการต่อต้านระบบนั้นยังไง ยังงั้นเลย
เกิดก่อนเพียงหนึ่งปีอาจไม่ใช่ได้ในสมัยนี้
อาจต้องบอกมาก่อนหนึ่งปี เพราะบางคนเีรียนปี 3 ปี 4 ซิ่วมาเรียนปี 1 -_-”
แต่ก็ต้องโดนเรียกว่ารุ่นน้อง
ผมว่าพี่ลิ่วน่าเคยได้ยินนะ
มาก่อนเป็นพี่ มาหลังเป็นน้อง มาพร้อมเป็นเพื่อน
ก่อนอื่น จะนอกเรื่องก่อน
ส่วนตัวไม่รู้จริงๆ ว่า มหาวิทยลัย บ้านเราถึงจุดที่ต้องการเสรีภาพทางวิชาการแล้วหรือยัง
เหมือนกับเวลาที่เราหลงทางในป่า คิดว่าสิ่งที่เราต้องการจริงๆ คือ ทางออก มากกว่า เสรีภาพ
เคยได้คุยกับเพื่อนบ่อยๆ เรื่องเด็กจบ ป.ตรี บ้านเราส่วนนึง(ซึ่งอาจจะไม่ใช่ส่วนน้อย) ประสิทธิภาพในการทำงานจริงค่อนข้างห่างจากที่ควรจะเป็น
เหมือนจะทำอะไรกันไม่ค่อยเป็น คิดก็ไม่ค่อยได้ ทุกๆ อย่างแทบจะต้องมาสอนกันใหม่ด้วยระบบงานทั้งหมดเลย
แต่แทบจะทุกคนเหมือนจะมีมติรุ่นให้เรียกเงินเดือนเริ่มต้น 15K … งง
กลับเข้าเรื่อง…
เชื่อเอาเองว่า ระบบ รับ/ว๊าก น้อง
ถูกจัดขึ้นมาเพื่อเป็นการละเล่น มากกว่าจะหวังผลในเชิงแอบแฝง
ซึ่งก็เคยได้ไปดูไปชมการละเล่นที่ว่านี้อยู่บ้างนิดหน่อย
ไอ้ตัวที่เล่นเป็นพี่ด่าตัวที่เล่นเป็นน้องว่า
“พวกคุณโดนแค่นี้ยังทนไม่ได้ จะไปทำอะไรกิน!!”
ฟังแล้วยิ้ม นึกในใจ “แล้วไอ้ตัวคนพูด รู้แล้วหรือยังว่าจะไปทำอะไรกิน??”
หุหุ