เห็น mk มาบอกว่าช่วงนี้ผมต่อมการเมืองแตก มันแตกตอน “ขอความร่วมมือ” เนี่ยแหละ แต่อาจจะต้องลดๆ มั่งแล้ว
ว่ากันต่อกับหัวข้อเว็บ คนไม่น้อยคงเห็นเว็บ Digg กันแล้ว ด้วยการเป็น Social Network แบบง่ายๆ คือใครเขียนเรื่องอะไรก็เอาเข้ามาโพส ถ้ามีคนอื่นมาเห็นแล้วชอบ ก็โหวตกันไป พอโหวตถึงค่าหนึ่งก็จะได้ขึ้นหน้าแรกที่คนสนใจจำนวนมาก
แนวคิดอย่างนี้ได้รับความนิยมมาก คนหลายๆ คนเอาไปใช้กันอย่างกว้างขวาง (ลอกนั่นแหละ) แต่ที่น่าสนใจที่สุดคือเดลล์ ที่สร้างเว็บ IdeaStorm โดยลอกหลักการจาก Digg มาตรงๆ จนรับรู้ว่าลูกค้านับแสนรายอยากได้ลินุกซ์ในเครื่องของเดลล์ มากกว่าคนที่อยากได้เว็บแคมเกือบสิบเท่า
มันจะเป็นไปได้ไหม ถ้าเราจะพัฒนาระบบการมีส่วนร่วมเช่นนี้ในสังคม อาจจะต้องมีการยืนยันตัวจากบัตรประชาชนบ้าง แล้วให้ทุกอำเภอมีตู้ Kiosk เอาไว้ให้ประชาชนเลือกเสนอแนวทางที่น่าสนใจเข้าไปได้ หรือจะเข้าไปโหวตอย่างเดียวก็ไม่ว่ากัน เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง สัปดาห์ละ 7 วัน ไม่มีวันหยุด แต่ละคนให้โหวตเรื่องที่สนใจได้เรื่องละหนึ่งครั้ง แต่จะโหวตกี่เรื่องก็ได้
เมื่อโหวตแล้วรัฐบาลอาจจะไม่ทำทุกอัน แต่อย่างน้อยข้อเสนอที่ได้รับความสนใจสูงๆ แล้วทำไม่ได้จริง อย่างส่งเด็กทุกคนเรียน ดร. ที่ MIT อะไรงี้ ก็ออกมาพบสื่อธิบายกันเป็นครั้งๆ ไป
แนวคิดอย่างนี้อาจจะสร้างสังคมประชาธิปไตยที่เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วมตลอดเวลา ไม่ใช่แค่สี่ปีครั้งอย่างทุกวันนี้ ไม่ใช่การทำประชาพิจารณ์ที่เข้าถึงได้ลำบาก บันทึกที่ไม่กระจายตัวพออย่างทุกวันนี้
แต่ผมว่ามันมีรัฐบาลสักประเทศคิดจะทำอะไรอย่างนี้อยู่แล้วนะ
แบบนี้ต้องเรียกว่า ประชานิยมพลวัต เอ๊ะจะว่าไปมันคือประชาพิจารณ์นี่หว่า รอสมาร์ทการ์ดก่อน ทำตอนนี้ต้องมีคนป่วนแน่
ปัญหาคือ ข้อมูลเหล่านี้น่าเชื่อถือได้แค่ไหนครับ ขนาดการเลือกตั้ง หรือโพล ก็ยัง manipulate ข้อมูลกันมันมือ เพื่อให้ผลเป็นไปตามความต้องการของตัวเองและพวกพ้อง
หากพลเมืองยังไม่เข้าใจสิทธิตัวเอง คนบริหารประเทศยังเลิกเห็นแก่ตัวไม่เป็น ระบบ check and balance ยังไม่เกิด ผมว่าไม่ว่าเราจะใช้เทคนิคการแก้ปัญหาดียังไงก็แก้ไม่ได้ครับ รธน. 40 เป็นตัวอย่างที่ดี
bow_der_kleine – ประเด็นคือมันไม่ต้องน่าเชื่อถือครับ อย่างที่ sugree บอกว่ามันคือประชาพิจารณ์ก็ใช่ แต่การทำประชาพิจารณ์มีค่าใช้จ่ายสูงมาก ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในการจัด หรือจะเป็นค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วม อย่างผมจะลางานไปคงลำบาก
แม้จะไม่น่าเชื่อถือมากนัก แต่ถ้าคะแนนมันสูงขึ้นมามากๆ แล้วนักการเมืองให้ความสนใจ (ยังไม่ต้องพูดถึงว่าจะเอาไปทำไหม) เช่นว่าออกมาให้ทุนก้อนเล็กศึกษาความเป็นไปได้อะไรอย่างนั้น
ไอเดียต่างๆ พวกนี้ทุกวันนี้ต้องรอคนที่มีช่องทางจะส่งไอเดียเข้าไปได้ ผมแค่คิดว่ามันคงจะดีถ้าประชาชนคนทั่วไปสามารถส่งไอเดียเข้าไปได้โดยตรง