บิล เกตต์เคยเขียนในหนังสือของเขาว่าที่ไมโครซอฟท์ หลายครั้งมีการจ้างอดีตผู้บริหารจากบริษัทอื่นๆ ทั้งที่ผู้บริหารเหล่านั้นเคยทำผิดพลาดมาก่อนในบริษัทเดิม ด้วยแนวคิดที่น่าสนใจว่า ผู้บริหารเหล่านั้นน่าจะเรียนรู้จากความผิดพลาดของเขาและปรับปรุงการทำงานในอนาคตให้ดียิ่งๆ ขึ้น
แนวคิดประมาณนี้คือแนวคิดของการยอมรับว่าคนเราต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต ขณะที่เรามักจำแนกช่วงเวลาของชีวิตออกเป็นสองช่วงคือผู้ใหญ่กับเด็ก สิ่งหนึ่งที่มาพร้อมกับการจำแนกเช่นนี้คือการให้อภัยกับเด็กอย่างสุดโต่งจนไม่มีความผิดใดๆ ขณะที่หลายครั้งคนที่เราจำแนกว่่าเป็นผู้ใหญ่นั้นเรากลับปฎิเสธความต้องการที่จะเรียนรู้เรื่องต่างๆ ออกไป
หลายครั้งที่เราถามถึงจุดยืนของคนๆ หนึ่ง แล้วยึดเอาว่าคนๆ นั้นเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ โดยปฎิเสธความจริงที่ว่าเมื่อเวลาเปลี่ยนไปแล้ว การเรียนรู้ ประสบการณ์ที่เพิ่มขึ้นกับชีวิตคนเรา สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับคนเราได้อย่างไม่น่าเชื่อเสมอๆ
หนักกว่านั้นคือเมื่อมีใครสักคนเปลี่ยนแปลงความคิดของเขา สิ่งที่เรามักจะเจอกันเรื่อยๆ คือการประณามการเปลี่ยนแปลงนั้นว่าเป็นการกระทำของคนไร้หลักการ
การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้เสมอๆ สิ่งที่สำคัญต่อการเปลี่ยนแปลงคือเราสามารถอธิบายได้หรือไม่ว่าทำไมเราจึงควรเปลี่ยนแปลง และเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงแล้ว หากการกระทำก่อนการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ผิด ความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เคยผิดพลั้งไปนั้นดูเหมือนจะสำคัญเป็นที่สุด
การยอมรับผู้ที่ยอมเปลี่ยนแปลงนั้นเล่า มันคงดีกว่าการให้อภัยแต่คำพูดเป็นไหนๆ
Flexibility ถือเป็น Skill นึงที่ควรมีครับ
คล้ายคำพูดที่ว่า “ลูกผุ้ชาย ยืดได้ หดได้”
^^”