ทำไมไม่มี

ขับรถมาสองอาทิตย์ รู้สึกรำคาญหลายๆ อย่างที่โรงงานไม่ยอมใส่มาในรถซักที แถวนี้ไม่รู้มีใครทำงานบริษัทรถบ้าง ช่วยเอาไอเดียไปบอกหัวหน้าที

  1. เซ็นเซอร์ด้านหน้า เซ็นเซอร์ถอยหลังเราก็มีกันมาเยอะแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมไม่ใส่เซ็นเซอร์ด้านหน้ากันซักที ราคาค่าเซ็นเซอร์ก็ไม่น่าจะแพงอะไรมากเทียบกับราคารถ ใส่ไปอีกสองตัวด้านหน้า เวลาต้องถอยออกจากซองแคบๆ มันช่วยได้เยอะ
  2. ปุ่ม mute ใครไม่เคยโทรศัพท์ในรถบ้าง? ผมเพิ่งรู้ว่าเวลาผมจะโทรศัพท์ในรถ (ใช้ Loud Speaker) ต้องปิดวิทยุก่อนทุกรอบ!!! ความจริงน่าจะใส่ปุ่ม mute อันโตๆ มาให้กดง่ายๆ เวลาจะรับโทรศัพท์กัน
  3. เซ็นเซอร์รถไหล ไม่รู้อุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ เกิดขึ้นเพราะรถไหลไปกี่รายแล้ว แต่ไม่น้อยแน่ๆ แค่ใส่เซ็นเซอร์ตรวจสอบว่ารถกำลังเคลื่อนที่โดยไม่ได้มาจากกำลังเครื่องยนต์ไม่น่าจะยากอะไร
  4. ทำไมรูกุญแจต้องเอาไปซ่อนหลังพวงมาลัย? กลัวใครจะเห็นหรือ? มันไขลำบากนะนั่น
  5. ไฟเดือนลืมเปิดไฟหน้า น่าจะเข้าท่าดี ถ้าหลังหกโมงแล้วไม่เปิดไฟหน้าจะมีไฟเตือนมาบอก บางทีถนนมันสว่างแล้วลืมตัวก็มีมาแล้ว
  6. เกนจ์น้ำมัน ใส่ตัวเลขทีได้ไหม ว่าตอนนี้มันเหลือประมาณกี่ลิตร ทำไมความเร็วรอบกับความเร็วรถก็ใส่เลขกันได้ พอมาถึงถังน้ำมันแล้วตัวเลขมันหาย
  7. เกนจ์แบตเตอรี่ น่าจะทำแบบโน้ตบุ๊กได้ มีบอกไปเลยว่าตอนนี้อยู่ที่กี่ % อาจจะแพงไปหน่อยแต่ถ้ารถรุ่นหรูๆ มีก็คงเท่ห์ดี

รวยเมื่อใหร่จะโมรถให้มันมีทุกอย่างเลย

 

lewcpe

CTO at MFEC PLC. Chief Editor at Blognone.com

 

15 thoughts on “ทำไมไม่มี

  1. เซนเซอร์ข้างหน้า มีแล้วนา.. มันอยู่ตรงมุมซ้ายกับขวาหน้ารถครับ
    ปุ่ม mute ก็มีแล้ว อยู่บนพวงมาลัย
    ส่วนข้ออื่นๆ ไม่รู้เหมือนกันครับ

    แต่ว่าอยากให้มีข้อ 6, 7 มากเลย

  2. ไม่เคยขับรถ แต่ได้สิทธิ์นั่งข้างคนขับ อืมมันก็จริง
    น่าจะมีเพิ่มอีกนิด ถ้าไม่คาดเข็มขัดสตาร์ืทเครื่องไม่ติด

  3. นั่นน่ะซีนะ
    แต่อย่างว่าแหล่ะ อะไรหลายๆ อย่างมันไม่เข้าที่เข้าทางมานานแล้วเฮีย :P

  4. พี่ก็เห็นด้วยกับเซ็นเซอร์ด้านหน้า ทีข้างหลังยังมีได้ทำไมทำด้านหน้าอีกจะไม่ได้
    *ปล. เพื่อนพึ่งชนมอเตอร์ไซด์เพราะมองไม่เห็น ถ้ามีเซ็นเซอร์ด้านหน้าก็ไม่ชนแล้ว

  5. แนวคิดน่าสนใจมากเลยครับ
    ทำเว็บเลยครับ
    เรียกคนมาลงชื๋อ ซักแสนคน เขาคงเริ่มฟังปล้วล่ะ

    ผมลงชื๋อคนนึงอ่ะ ^^

  6. ข้อ 1-2 แก้ปัญหาได้โดยการหาตุ๊กตาหน้ารถติดตัวไว้ตลอดเวลา

  7. ข้อ 1-2, 5 มันมีอยู่แล้ว ในรถบางรุ่น (ข้อ 5 บางรุ่นลืมปิดไฟ มันก็ปิดให้เอง)
    ข้อ 3 ถ้าไม่อยากให้ไหลก็มีเบรกมืออยู่แล้วไง แล้วเกิดจอดรถบังที่จอดคนอื่น (เช่น ในห้าง) เวลาเลื่อนจะทำไง
    ข้อ 4 ก็ทำเพื่อล็อกพวงมาลัย สะดวกไง
    ข้อ 6 เปลี่ยนเป็นว่ายังขับได้อีกกี่ กม. จะดีกว่ามั้ง
    ข้อ 7 เปลี่ยนเป็นว่าจะใช้ได้อีกนาน กี่ ชม. จะดีกว่านะ ^^

  8. ของผมขอเป็น
    ทำไมยังไม่มีรถขับดีกว่า คุณสมบัติอะไรก็ได้
    ขอให้วิ่งได้ ฝนตกไม่เปี๊ยก แดดออกไม่ร้อน สาวๆนั้งสบายก็พอแล้วครับ

  9. ปุ่ม mute ก็ปุ่ม att(enuation) ไง แต่ปุ่มมันเล็กแถมอยู่ไกล ต้องแก้โดยการมีตุ๊กตาหน้ารถนั่งไปด้วย จะได้คอยกดให้ (หรือให้รับโทรศัพท์แทน :P)

    ใส่ตัวเลขให้เกจ์น้ำมันนี่เห็นด้วย เอาไว้คำนวณว่าต้องเติมเท่าไหร่ กี่บาท

  10. ทำงาน บ. รถ แต่ไม่ได้อยู่แผนก R&D อะนะ ทำ marketing อย่างเดียว

    ขอแจง

    1. มันเป็นฟังก์ชันเสริมหรูไง เหตุผลทางการตลาดอย่างเดียว (แนวเดียวกับ กระจกไฟฟ้า เซ็นทรัลล็อค เมื่อก่อนแหล่ะ) คาดว่าอีกไม่เกินห้าปีคงเป็นฟังก์ชันพื้นฐาน
    2. mute – อันนี้เครื่องเสียงบางรุ่นก็จะมีมาให้เป็น att(ention) ตาม dr ว่า
    3. เซ็นเซอร์รถไหล อันนี้ไม่รู้รถหรูๆ แพงๆ จะมีหรือเปล่า แต่คาดว่าคงไม่น่าเป็นที่ดึงดูดในการใส่มามากนักนะ :P ขอไม่ตอบ
    4. เหตุผลทางด้านการออกแบบตั้งแต่สมัยละโว้ (หรือก่อนนั้น) เพราะระบบไฟฟ้ามันจะได้มามัดๆ รวมกันจุดเดียวน่ะ แต่รุ่นใหม่ๆ ที่เป็น smart entry หรือ immobilizer แบบไม่ต้องเสียบก็จะเอามาไว้ข้างๆ หรือตรงคอนโซลแทนแล้วนะ
    5. อันนี้เห็นใส่มาตั้งนานแล้วนะ แต่เป็นเป็นว่า ถ้าดับเครื่องแล้วไม่ปิดไฟหน้ามันจะร้องน่ะ คงแก้ขัดกันได้
    6. เกจน์น้ำมัน – นาฬิกาแบบเข็ม ย่อมดีกว่านาฬิกาแบบดิจิทัล :P (ไปเรื่อย) อันนี้ก็เห็นด้วย คำนวนยากฉิบ ถึงแม้จะมีไฟเหลืองๆ ขึ้นเตือนก็เหอะ ขอเพิ่มอีกอย่าง ในเกจน์นั้นช่วยบอกหน่อยเถอะว่า ช่องเติมน้ำมันอยู่ตรงไหน
    7. เกจน์แบตเตอรี่ – เมื่อก่อนจะมีเป็นแบบ analog แล้วก็หายไป เนื่องจากว่า “ไม่มีความจำเป็น” น่ะ เพราะ ไดนาโม มันปั่นไปให้ตลอดนิ ฟังก์ชันนี้ควรย้ายไปเป็น indicator บนตัวแบตมากกว่า ว่าแบตเสื่อมหรือยัง

    :P

  11. ถ้าใส่อะไรเข้าไปเยอะ ก็จะทำให้ต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเหมือนกัน ต้องเตรียมตังค์ไว้สำหรับคุณลักษณะใหม่ๆ พวกนี้

  12. เรื่องรูกุญแจผมว่าตำแหน่งนั้นเหมาะกับลักษณะของการบิดข้อมือครับ ไว้ที่อื่นอาจจะไม่มีแรงบิดได้ แล้วก็ทำให้เราไปโดนเวลาขับรถด้วยมั๊งครับ

    ในอเมริการถใหม่ๆ(น่าจะเป็นรุ่นใหญ่ๆด้วยมั๊งครับ)เค้ามีบอกว่าระดับน้ำมันที่เหลือตอนนี้ถ้าวิ่งด้วยความเร็วขณะนี้จะวิ่งไปได้อีกกี่ไมล์

Comments are closed.