เทคโนโลยีเครื่องพิมพ์สามมิติออกมาในช่วงหลัง เรื่องนึงที่คนทั่วไปสงสัยกันคือ “มันจะเอามาทำอะไรวะ?” เพราะโลกเราจริงๆ ไม่ได้ต้องการถ้วยทรงประหลาด ป้ายชื่อ ฯลฯ บ่อยกันขนาดนั้น
แต่ผมมองว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องของ 3D Printing เทคโนโลยีการพิมพ์สามมิติที่จริงแล้วเป็นเทคโนโลยี “การผลิตอย่างอัตโนมัติ” ที่เข้าถึงได้ง่าย ราคาถูก โอเพนซอร์ส ปรับแต่งได้ง่าย
จากเครื่องพิมพ์สามมิติ ที่ใช้งานกันจริงๆ คงมีเฉพาะวงการออกแบบ กับอุตสาหรรม ที่ต้องการชิ้นงานตัวอย่างหรือชิ้นอะไหล่ที่เฉพาะทาง กระบวนการสั่งชิ้นงานเฉพาะทางมีราคาแพง เครื่องกัด CNC ในสมัยก่อนเป็นเครื่องจักรเฉพาะทาง เครื่องใช้เรียนเองก็มีราคาหลายแสนบาท ระบบควบคุมมีบริษัททำได้ไม่กี่บริษัท
เทคโนโลยีสามมิติทุกวันนี้คือคความพร้อมถึงขีดสุดของเทคโนโลยีพื้นฐาน เราสามารถใช้ชิป AVR ราคาถูกๆ สร้างเครื่องจักรด้วยซอฟต์แวร์ที่โอเพนซอร์สทั้งหมด เชื่อมต่อกับระบบควบคุมได้ โดยทั้งหมดมีบล็อกพื้นฐานมาพร้อม
Mass Customization เป็นหัวข้อเรียนใน IT Management ที่มีมายาวนาน ในยุค dot com ยุคแรกเคสคลาสสิคคือ Levis ทำเว็บรับสั่งตัดกางเกงแบบเข้ารูปกับลูกค้าทุกคนที่เรียกว่า Original Spin แต่สุดท้ายก็ปิดบริการไป
ในยุคก่อนการทำสินค้าให้ตรงตามความต้องการทุกคนเป๊ะๆ แบบนี้โดยที่จะมีต้นทุนที่สูงมาก เราต้องใช้เครื่องจักรราคาแพง ซอฟต์แวร์พัฒนาเฉพาะทาง และความชำนาญเฉพาะ
เทคโนโลยีเครื่องพิมพ์สามมิติเป็นจุดเริ่มต้นว่าเทคโนโลยีการผลิตที่เคยอยู่กับบริษัทใหญ่ๆ เหล่านี้กำลังกลายเป็นของที่หาได้ทั่วไป การดัดแปลงเทคโนโลยีเพื่อให้เข้ากับูการผลิตอย่างอื่นๆ จะค่อยๆ มีการต่อยอดไปเรื่อยๆ ในอนาคต
เทคโนโลยีอันใกล้ ในอนาคตฟิล์มกันรอยอาจจะส่งมาจากโรงงานเป็นขนาดไม่กี่ขนาด ร้านค้าสต็อกฟิล์มเพียง 4 นิ้ว, 7 นิ้ว, และ 10 นิ้ว เมื่อลูกค้านำโทรศัพท์เข้าไปติดฟิล์ม เพียงบอกรุ่น เครื่องตัดก็จะตัดและเจาะรูให้ตรงกับความต้องการได้พอดี ตัวร้านเองแทยที่จะต้องรับความเสี่ยงสต็อกฟิล์มสำหรับรุ่นที่ขายยาก ก็ไปสต็อกเนื้อฟิล์มแปลกๆ เพิ่มเติม
เคสโทรศัพท์อาจจะขึ้นรูปจากเครื่องพิมพ์สามมิติในแบบเดียวกัน
ไปเรื่อยๆ ถึงจุดหนึ่งเราอาจจะสามารถสั่งกาแฟได้อย่างละเอียดอย่างมาก เราอาจจะกำหนดความดัน ความร้อนของน้ำร้อน ส่วนผสมเม็ดกาแฟ ระยะเวลาคั่ว ความละเอียดของการบด เราสั่งกาแฟหนึ่งแก้วผ่านแอพโดยเลือกตัวเลือกทั้งหมด เดินห้างรอกาแฟสิบนาที เครื่องอัตโนมัติจะผสมเม็ดกาแฟ คั่วตามเวลาที่เรากำหนดแล้วบดทันที ต้มน้ำร้อนแล้วชงกาแฟ พร้อมวาดลาเต้อาร์ตจากรูปโปรไฟล์เฟซบุ๊กเราให้เอง
เรื่องแบบนี้ทุกวันนี้เราอาจจะทำได้อยู่แล้วโดยอาศัยคน แต่เมื่อเทคโนโลยีการผลิตแบบอัตโนมัติพร้อม มีราคาถูก และคนทั่วไปเข้าถึงได้ เทคโนโลยีเหล่านี้อาจจะกลายเป็นสิ่งที่เราเห็นตามร้านกาแฟหัวมุมถนนในสักวันหนึ่ง
ตัวร้านเองแทยที่ > แทนที่
พอมันมาตลาด Consumer เราก็มองว่าเราจะต้องการมันเหรอ แต่จริงๆ มันน่าจะไปตลาด SME มากกว่า หน่วยธุรกิจก็น่าจะเล็กลง แต่ทำงานได้มีประสิทธภาพมากขึ้นอีกมากจากอุปกรณ์เหล่านี้ รวมถึงโมเดลธุรกิจใหม่ๆ อีกเยอะเลยนะครับ ;)