un-conference

อสัมมานาในความคิดของผม มันคือ “ไม่” สัมมนา มันต้องไม่ใช่สัมมนา “ทางเลือก” ไม่ใช่แค่ว่าหัวข้อพวกนี้มันหาที่พูดไม่ได้ หรือหาที่ฟังไม่ได้

การแสดงดนตรีที่ไม่ใช่คอนเสิร์ต ไม่ใช่คอนเสิร์ตเพลงอินดี้

ผมร่วมงานสัมมนาอยู่เป็นประจำ การฟัง/ดู Google TechTalk เป็นงานประจำรายสัปดาห์ของผม

งานสัมมนาทางเลือกไม่ใช่เรื่องผิด แต่มันแค่ไม่ใช่สิ่งที่ผมปรารถนา ผมไม่ได้ปรารถนาการที่ไป “รับ” หรือ “แจกจ่าย” หัวข้อน่าสนใจ ผมปรารถนาการแลกเปลี่ยน ผมปรารถนาการพูดคุย ผมปรารถนาชุมชนแบบ interest-domain ที่พบหน้าตากันในโลกความเป็นจริง

ผมฝันถึงงาน “ไม่สัมมนา” มันจะ…

  1. มีเป้าหมายคือทุกคนมาแลกเปลี่ยนกัน ดังนั้นทุกคนต้องมีโอกาส สถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกตามสมควร เพื่อจะแลกเปลี่ยนกัน
  2. บังคับให้ทุกคนมีหัวข้อก่อนลงทะเบียนเสมอ ทุกคนต้องมีเรื่องราวในใจอยากบอกใครสักคน
  3. หัวข้อเฉพาะ มันคือการสร้างสังคมแบบ interest-domain
  4. การลงทะเบียนคือการเสนอหัวข้อ บัตรเข้างานจะได้ต่อเมื่อคุณมี material ของสิ่งที่จะนำเสนอ ถ้าจะพรีเซนต์จงอัพโหลดสไลด์, ถ้าจะแสดงท่าทางจงอัพโหลดวีดีโอ, คุณต้องเตรียม คุณต้องมีเครื่องยืนยัน
  5. เครื่องยืนยันเหล่านั้นจะถูกปล่อยสู่โลกอินเทอร์เน็ตหลังจบงาน สร้างเงื่อนไขให้คนไปงาน เพราะเราอยากสร้างชุมชนแบบเจอหน้าตา พร้อมกับเปิดโอกาสให้คนภายนอกได้รับรู้ ว่ามันมีโอกาสที่คุณจะพบกับกลุ่มที่สนใจเรื่องเดียวกับ แบบตัวเป็นๆ ได้
  6. ป้ายเข้างาน คือป้ายหัวข้อของเรื่องที่คุณจะนำเสนอ คุณเป็นใครไม่สำคัญ คุณสนใจอะไรสิสำคัญ มันจะใหญ่ “บักเอ๊ก” และบังคับแปะ
  7. ถ้าคนสนใจหัวข้อของคุณเยอะเรามีห้องให้ ถ้ามีไม่กี่คนเรามีโปรเจคเตอร์ให้ ถ้ามีคนเดียวหรือสองคนเรามีโต๊ะกลม มีปลั๊ก มีอินเทอร์เน็ต ให้ไปนั่งแลกเปลี่ยนกัน

งานจะใหญ่จะเล็กผมไม่สนใจ ถ้าทุกคนมีโดเมนที่ใกล้เคียงพอสมควร และพร้อมจะแลกเปลี่ยน  แต่ถ้ามันจะทำให้ผมมีโอกาสแลกอีเมลกับคนสักสองสามคน หรือสร้างกลุ่มความสนใจสักสี่ห้าคนขึ้นมาได้ และมีโอกาสที่จะทำอะไรเจ๋งๆ สักอย่าง

มันน่าสนุกกว่า

 

lewcpe

CTO at MFEC PLC. Chief Editor at Blognone.com

 

2 thoughts on “un-conference

Comments are closed.