ผมไม่เจอคนขอเงินข้างทางนานมากแล้ว และวันนี้ผมก็พบอีกครั้ง กับเรื่องราวที่น่าเชื่อถือ จนผมลังเลใจว่านี่เป็นเรื่องจริงหรือไม่
ผมจำได้ว่านี่เป็นครั้งที่สองที่ผมไม่ได้เงินคนเหล่านี้ไป
นานมาแล้วผมเคยคิดว่า ให้ๆ ไปเถิด ใครจะรู้ว่าอาจจะมีสักคนที่เขาต้องการเงินนี้จริงๆ และเงินจำนวนนี้มันก็ไม่ได้เกินกำลังอะไรผมไป
ชายกลางคนๆ หนึ่ง เคยมาขอเงินกลับบ้านแถวหอสมัยผมเรียนปริญญาตรี นับเป็นครั้งแรกๆ ที่ผมพบกับคนเหล่านี้ในยามวิกาล (เกือบเที่ยงคืน)
ผมให้เงินเขาไปจนมากพอที่จะเดินทาง (แบบลำบากๆ หน่อย) ไปที่ไหนก็ได้ในกรุงเทพฯ
หลายเดือนผ่านไป ผมเห็นเขาที่เดิม ในเวลาวิกาลอีกครั้ง
อีกครั้งหนึ่งผมพบชายคนหนึ่งระบุตัวเองว่าเป็นทหารกำลังกลับภูมิลำเนา เป็นอีกครั้งที่ผมให้เงินเขา
และเป็นอีกครั้งที่ผมพบชายคนนั้นที่เดิมในเวลาต่อมา
บางทีคนเราก็อาจจะเรียนรู้ที่ต้องใจร้าย?
ผมไม่แน่ใจว่าผมทำถูกต้องหรือไม่ แต่ผมพบว่าการให้ของผมกำลังเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมที่เลวร้าย
คนเหล่านี้ขอเงินใครบ้าง อาจจะไม่ใช่ชายร่างค่อนข้างใหญ่อย่างผมเสมอไป
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าผู้ถูกขอเป็นผู้หญิง
จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนเหล่านั้นต้อง “ให้” ด้วยความกลัว
ผมอ้่าปากจะเสนอ “การสื่อสาร” (โทรศัพท์นั่นล่ะ) ให้กับผู้ขอวันนี้ อย่างน้อยถ้ามันเป็นเรื่องจริง การสื่อสารคงเป็นเรื่องสำคัญ
“เธอ” ปฎิเสธ…
ผมไม่แน่ใจว่าเรื่องของเธอเป็นเรื่องจริงหรือไม่
ผมไม่แน่ใจจริงๆ
แต่ผมแน่ใจว่าผมจะไม่เป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสังคมนี่น่ากลัวเช่นที่ผมมีส่วนมาอีกต่อไปแล้ว
ผมใจร้ายครับโดยเฉพาะกับขอทานเมืองไทย ซึ่งปกติจะไม่ทำอะไรเลย ขออย่างเดียว อย่างเช็ดกระจกรถตามสี่แยกนี่ผมก็ไม่ให้ เพราะทำแบบสั่วๆ ไม่ได้ตั้งใจทำจริง แถมผิดกฎหมายจราจรด้วย
ขอทานที่อเมริกาเท่าที่ผมเคยเห็นจะทำอะไรซักอย่างเพื่อแลกเงิน ไม่ได้ขอฟรีๆ อาจจะร้องเพลง เล่นดนตรี หรือไม่ก็มีป้าย Need food, Job wanted หรือไม่ก็ขอทำงานแลกเงินกลับบ้าน ในมุมมองผม แบบนี้ดูน่าสงสารกว่าครับ
เราควรจะทำรายชื่อพร้อมหน้าแจกจ่ายทางเนตดีหรือเปล่า
แถวบ้านผมเจออยู่คน
ในซอยเสนาผมเจออยู่สองคน