ผมตื่นขึ้นมา อากาศสดใสกว่าวันก่อนๆ แดดส่องยามเช้ากับดวงอาทิตย์ที่ขึ้นมาจากขอบฟ้า ช่างเป็นภาพที่ชวนให้หลงใหล
อาหารเช้าถูกนำมาเสิร์ฟตรงหน้าผม ต่างไปจากทุกวัน มันถูกจัดเตรียมขึ้นเป็นพิเศษ บริกรยิ้มให้ผมเล็กๆ แล้วถามว่าต้องการอะไรอีกไหม
ผมตอบว่าไม่ หลังผมทานอาหารแล้วผมอยากยืดเส้นยืดสายสักหน่อย คืนเวลาให้กับร่างกายที่เหนื่อยล้ามาเป็นเวลานาน
เพลงดังขึ้น เหมือนรู้ใจ ผมออกกำลังกายตามจังหวะเพลงที่คลอไปเบาๆ
พนักงานคนหนึ่งเดินเข้ามา พร้อมกับโทรศัพท์ เพื่อนผมของผมที่ไม่ได้เจอกันนานถือสายอยู่อีกฝั่ง
ผมคุยกับเพื่อนนานพอควร เราสนิทกันมาก แต่เรื่องยุ่งๆ ในระยะหลังทำให้เราไม่ได้คุยกันเลย การที่มันโทรมาวันนี้คงเป้นโอกาสที่ดีที่จะคุยเรื่องเก่าๆ กัน
บทสนทนาจบลง ผมวางโทรศัพท์ไร้สายเครื่องนั้น แล้วหยิบสมุดขึ้นมาเล่มหนึ่ง แล้วเริ่มเขียนถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ผ่านมาเพราะตลอดเวลา ผมมัวแต่ทำเรื่องต่างๆ มากมาย จนลืมที่จะทำเรื่องที่ชอบทำอย่างการเล่าประสบการณ์ให้คนอื่นๆ ฟัง
ต้องขอบคุณเพื่อนของผมที่โทรมา ผมจำเรื่องราวเพิ่มขึ้นได้มากมาย แล้วเติมเรื่องราวต่างๆ ลงสมุดเล่มนั้นราวกับอยากจะชดเชยที่ไม่ได้ให้เวลากับมันเต็มที่ ในช่วงเวลาที่ผ่านๆ มา
บรรทัดสุดท้ายของความทรงจำที่ผมคิดว่าควรค่าแ่ก่การสืบทอดต่อไปก็จบลง ผมปิดสมุด พนักงานคนหนึ่งถามผมว่าจะให้เก็บไปเลยไหม ผมตอบว่าใช่
สมุดเล่มนั้นถูกนำออกไปจากห้อง ผมลุกขึ้นยืน คนกลุ่มหนึ่งมองมาที่ผม
หนึ่งในนั้นถามผมขึ้นว่า “พร้อมรึยัง..”
“อืม พร้อมแล้ว” ผมตอบ
ประตูถูกเปิดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน….
คือจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้วใช่ไหม ?