ประมาณสิบกว่าปีก่อน ผมเคยทะเลาะกับเพื่อนคนหนึ่งอย่างรุนแรงมาก มากจนผมจำได้มาจนทุกวันนี้
เราทะเลาะกันเรื่องเค้กก้อนละห้าบาทหนึ่งก้อน…..
เรื่องราวไม่ซับซ้อน ตามตรรกะทางความคิดในสมัยนั้น เนื่องจากว่าเราไม่มีเงินพอที่จะซื้อเค้กก้อนนั้นมาได้ เราจึงรวมเงินกันสามคนที่จะซื้อเค้กมาได้หนึ่งก่อน โดยผมเป็นคนออกเงินมากที่สุด (สามบาท)
ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อเราซื้อเค้กก้อนนั้นมา แล้วผมยืนยันว่าเราไม่ควรแบ่งเค้กให้เท่าๆ กันเพราะผมเป็นคนออกเงินมากที่สุด
ผมนึกถึงปัญหาในครั้งนั้นด้วยรอยยิ้มกับประสบการณ์ที่ผ่านมาในวัยเด็ก แต่วันหนึ่งแล้ว ผมก็ฉุกคิดอะไรบางอย่างขึ้นมา
ผมลืมอะไรบางอย่าง….
ผมลืมไปแล้วว่าปัญหานี้มันยิ่งใหญ่เพียงใดกับผมในเวลานั้น…
ผมไม่สามารถเข้าใจได้อีกต่อไป ว่าเงินสามบาทที่ผมนำไปทะเลาะกับเพื่อนนั้นมีความหมายต่อผมเพียงใด
ในกระบวนการช่วยเหลือผู้อื่นนั้น มุมมองอย่างหนึ่งที่สำคัญคือการเข้าใจให้ได้ว่าความคิดเช่นใดจึงสร้างปัญหานี้ขึ้นมา
ผมมองตัวเอง แล้วพบว่าน่าเศร้า เมื่อปัญหาหลายๆ อย่างที่ผมเคยประสบกับตัวเองโดยตรง แต่กลับไม่สามารถให้คำแนะนำใครได้อีกต่อไป เพราะไม่สามารถเข้าใจได้อีกต่อไปแล้วว่าทำไมในตอนนั้นจึงมีปัญหา
เช่นเดียวกับที่ผมไม่เข้าใจว่าทำไมผมจึงยินดีทะเลาะกับเพื่อนด้วยเงินสามบาท ผมไม่เข้าใจว่าทำไมการอ่านหนังสือหลายๆ ชั่วโมงเพื่อเตรียมตัวสอบเข้ามหาวิทยาลัยจึงยากนัก
คงดีไม่น้อยหากโลกเราจะมีวิธีบันทึกความรู้สึกและความนึกคิดเอาไว้ ให้เราได้เรียนรู้ และทำความเข้าใจกับประสบการณ์ของเราเอง ที่เราจะสามารถเข้าใจผู้อื่นที่มีประสบการณ์เดียวกับเราได้อย่างแท้จริง
Twitter โลด