2015 Resolutions

เพิ่งคิดถึงการตั้งเป้าหมายปีนี้

  • ฝึกเขียนภาษา Lua: ผมเขียนหลายภาษาอยู่เดิม แต่คิดว่าภาษา Lua น่าจะได้ใช้เข้าสักวัน
  • ส่งภาพเข้า Wiki Commons: ตั้งเป้าไว้ว่าปีนี้จะส่งภาพเข้าไปสัก 50 ภาพ
  • ควบคุมคุณภาพโค้ด: โค้ดในภาษาหลักๆ ที่โค้ดอย่าง Python ต้องผ่าน pylint, pep8 ทั้งหมด กำลังคิดถึง pep257 กับ coverage ด้วย แต่เป็น optional
 

ศาลเจ้ายาสุกุนิ

ได้ยินชื่อศาลเจ้ายาสุกุนิตามข่าวมานาน วันนี้เดินตามแหล่งแลนด์มาร์คไปเรื่อยๆ ก็ไปเจอแบบไม่ตั้งใจ (เจอในคำแนะนำว่าเป็นพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่สอง)

พอได้เดินครบก็ค่อนข้างเข้าใจว่าทำไมมันเป็นจุดขัดแย้งกับนานาชาติ บรรยากาศของศาลเจ้านอกจากให้ความเคารพกับนักรบที่เสียชีวิตในสงคราม โดยเฉพาะนักรบกลุ่มกามิกาเซ่ ยังค่อนข้างยืนยันว่า ชนวนสงคราม (ที่แปลในบอร์ดว่าเป็น Great Asia War) มาจากการป้องกันตัวเองของญี่ปุ่นในแมนจูเรีย และการแสดงก็เลือกเรื่องราวที่ญี่ปุ่นเข้าไปรักษาเมืองบางส่วนหลังจากยึดได้ สงครามกลายเป็นชนวนให้ชาติเอเชียจำนวนมากกลายเป็นเอกราช ขณะที่ข้ามเรื่องราวบางส่วนออกไป เช่น นานกิง

แต่อย่างไรก็ดีพิพิธภัณฑ์ทำออกมาได้ดีเยี่ยม ควรค่าที่คนสนใจเหตุการณ์สงครามโลกจะไปดูไม่ว่าจะมองว่าฝ่ายไหนเป็นอย่างไรก็ตาม เรื่องราวยังเล่าถึงประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นได้อย่างค่อนข้างละเอียด ผมอ่านเนื้อหาภาษาอังกฤษยังรู้สึกว่าเยอะ ภาษาญี่ปุ่นมีเยอะกว่าสี่ห้าเท่า แถมบางห้องไม่มีแปล

ภาพข้างบนเป็นส่วนนิทรรศการส่วนหน้าที่ให้ดูฟรี หัวรถจักรเป็นหัวรถจักรที่ใช้งานในเส้นทางรถไฟสายมรณะไทย-พม่า ที่ทางการไทยใช้งานต่อหลังสงครามและส่งกลับไปญี่ปุ่นในที่สุด (ภาพนี้ผมบริจาคเข้า Wiki Commons)

 

เพราะเป็นเด็กจึงเจ็บปวด

ตอนงานหนังสือเห็นหัวข้องานหนังสือปีนี้แล้วคิดว่าน่าสนใจ งานหนังสือเลือกเอาหัวข้อเฉพาะกลุ่มมาทำให้เป็นประเด็นสังคม เลยคิดว่าจะเขียนถึงหัวข้อนี้ตั้งแต่ช่วงงานแต่ก็ล่วงเลยมาจนตอนนี้

ผมเองเป็นคนหนึ่งที่ชีวิตเมื่อโตเป็นผู้ใหญ่แล้วมีความสุขกว่าตอนสมัยเด็กๆ มาก ความเป็นผู้ใหญ่ทำให้ผมต้องรับผิดชอบมากขึ้น มีความเครียดจากการต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเองบ้าง แต่ก็มาพร้อมกับอิสระที่เลือกได้เอง และคิดว่าเลือกได้ดีกว่าตอนที่ถูกเลือกให้หลายๆอย่าง

ผมคิดว่าเด็กๆ ควรถูกฝึกให้พร้อมรับความรับผิดชอบแบบนี้ไปพร้อมๆ กับการปล่อยให้มีอิสระที่จะเลือกได้มากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน แต่กับพ่อแม่จำนวนมากลูกก็ไม่ต่างจากตุ๊กตาที่มีไว้ให้กำหนดท่าทางไปจนชั่วชีิวิต

เด็กๆ เองควรถูกฝึกและเน้นว่าวันหนึ่ง เขาต้องรับผิดชอบตัวเอง อย่างน้อยที่สุดคือด้านการเงิน ผู้ใหญ่เองคงไม่สามารถเข้าใจถึงความฝันของเด็กยุคใหม่ๆ ได้ ยุคที่ผมโตขึ้นมาตอนเด็กๆ เรายังมีละครหลังข่าวแสดงความน่าอดสูของอาชีพเต้นกินรำกินกันอยู่ แต่ยุคนี้บอกว่าจะฝึกร้องเพลงไปแข่งเดอะว๊อยส์คงไม่ใช่เรื่องที่เข้าใจยากสำหรับคนทั่วไปกันอีกต่อไปแล้ว แต่ช่องว่างของยุคยังคงมีอยู่และน่าจะมีอยู่ตลอดไป ผู้ใหญ่หัวสมัยใหม่ยุคนี้เองเจอเด็กบอกว่าผมจะทำอาชีพแคสเกมก็คงงงอีกอยู่ดี คราวนี้ไม่เต้น ไม่รำ มันนั่งเล่นเกมแล้วจะหาเงินยังไง เด็กสายคอมบอกพ่อแม่ว่าอยากเป็นแฮกเกอร์พ่อแม่อาจจะตกใจว่าลูกจะไปเป็นโจร

แต่ทั้งหมดคือในฐานะเด็กก็ควรอธิบายได้ว่าจะสามารถดูแลตัวเองในทางการเงินได้ คุณอาจจะอยู่กับพ่อแม่ แต่สามารถสร้างรายได้ของคุณพอที่จะไปเช่าหออยู่เองได้ เรื่องที่เข้าใจยากก็จะกลายเป็นเข้าใจได้ง่ายขึ้น

ตลอดชีวิตเด็กของผมเจอผู้ใหญ่พร่ำบอกตลอดเวลาว่าความเป็นเด็กนั้นดีเพียงใด สมัยมัธยมก็โดนบอกว่าเข้ามหาวิทยาลัยแล้วจะเหนื่อยยากโน่นนี่ พอจะจบก็โดนพร่ำบอกว่าชีวิตทำงานมันโหดร้ายสารพัด อันนี้ถ้ามีน้องๆ ยังไม่จบมาอ่านก็อยากบอกว่ามันไม่ได้เป็นสัจธรรมขนาดนั้น ชีวิตทำงานปกติมีทางเลือกเยอะพอสมควร เราเลือกทำงานที่ดีๆ ได้อยู่เรื่อยๆ ชีวิตมหาวิทยาลัยที่ผมเลือกเองทำให้ผมไม่ต้องทนทุกข์กับการคัดไทยที่ทำไม่เคยได้ดีตลอดชีวิต ผมเลือกเรียนวิชาที่ผมอยากเรียนแม้จะแปลกประหลาดเพราะเรียนวิชาภาคตัวเองเป็นวิชาเลือกเสรีเพราะผมมีความสุขแบบนั้น การที่เราหารายได้เองได้ทำให้เรามีทางเลือกของเราเอง เราเลือกจะไปเที่ยวเมื่อเราอยากไป และไปที่ที่เราอยากไป เราจะเห็นโลกกว้างขึ้น เราเลือกทำงานที่ค่อนข้างครงกับความสนใจของเราได้ และหลายคนพบว่าความลำบากที่เคยโดนขู่สารพัดเป็นคำจากคนที่มีความทุกข์กับช่วงชีวิตของเขาไม่กี่คน

คนจำนวนมากมีความสุขกับชีิวิตผู้ใหญ่ คนจำนวนมากมองว่าคำขู่ที่เขาได้รับมานั้นมันใช้ได้กับคนไม่กี่คน

ระหว่างที่เป็นเด็กก็คงที่ตัดสินใจชีวิตตัวเองได้น้อย คำแนะนำคงมีแค่ว่าหาทางที่ตัวเองอยากไป หาทางรับผิดชอบตัวเองให้ได้ แล้วเลือกไปทางที่ตัวเองอยากไป แล้วหวังว่าวันหนึ่งจะได้เป็นผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบชีวิตตัวเองได้ พร้อมกับได้เลือกในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

 

Fairtrade

453px-FairTrade-Logo.svg

ผมเป็นคนเชื่อเรื่องการแข่งขันแบบทุนนิยมพอสมควร และไม่ค่อยเห็นด้วยกับการที่รัฐบาลไปอุ้มอาชีพใดๆ เช่น การเกษตร ในรูปแบบต่อเนื่องยาวนานนับสิบปีโดยที่มองไม่เห็นวันที่อาชีพเหล่านั้นจะยืนหยัดในตลาดโลกได้

แต่คนจำนวนมากไม่ได้เชื่อเหมือนผม ขณะเดียวกันหลายประเทศไม่ได้มีกลไกที่จะเข้าไปอุ้มชูอาชีพที่มีคนจำนวนหนึ่งอยากให้มีต่อไป แม้จะแข่งขันได้ลำบากแล้วก็ตาม ความเชื่อเหล่านี้เป็นกลุ่มใหญ่ที่เชื่อว่าเกษตรกรควรได้รับค่าสินค้าของเขาสูงกว่าราคาที่แข่งขันอย่างหนักในตลาดโลก

กลุ่ม Fairtrade จึงตั้งขึ้นมาเป็นตัวแทนของการรับรองว่าแบรนด์ต่างๆ ได้จ่ายให้กับเกษตรกรอย่างเพียงพอ ทางกลุ่มจะมีราคามาตรฐานสำหรับสินค้าเกษตรแต่ละอย่างเอาไว้ให้กับเกษตรกรแต่ละประเทศ อย่างเช่น ข้าวไทย ก็มีราคาตั้งแต่ตันละ 9399 บาทไปจนถึง 15665 บาท

แนวคิดอย่างนี้ไม่ได้เป็นเรื่องแปลกประหลาด ไม่ใช่การบิดตลาด ตรงข้าม เป็นการสร้างคุณค่าให้กับผู้ซื้อกลุ่มที่เชื่อว่าเกษตรกรต้องมีรายได้ดีกว่าตอนนี้ ว่าเขาสามารถเลือกซื้อสินค้าบางยี่ห้อได้ และตอบสนองต่อความเชื่อทางสังคมของเขา แบบเดียวกับที่เรารู้สึกว่าข้าวบางสายพันธุ์บางกระบวนการผลิตน่าจะดีต่อสุขภาพมากกว่าปกติ หรือบางสายพันธุ์ถูกปากเรากว่าพันธุ์อื่นๆ

บ้านเราผมไม่เคยเห็นข้าวที่มีตรา Fairtrade จริงๆ แต่เห็นกาแฟเป็นส่วนมาก มีชาบ้างประปราย แต่กลุ่ม Fairtrade เองก็มีปัญหาในตัวเพราะคิดค่าใช้โลโก้ ค่อนข้างแพง บางกรณีเกือบ 10% ของราคาสินค้า ถ้าเราจะตั้งกลุ่มรับรองว่าชาวนาจะได้ค่าข้าวเท่าไหร่จึงน่าพอใจก็คงทำได้