เสียสละ

ลูก – ทำไมพ่อไม่อยู่กับเราล่ะครับ

แม่ – พ่อเค้าทำเพื่อชาติน่ะลูก

ลูก – ทำไมล่ะครับ

แม่ – มีคนไม่ดีทำผิด พ่อเค้าต้องให้คนพวกนั้นได้รับโทษ

ลูก – แล้วเราล่ะครับ….. เราทำผิดอะไร

 

ผิด

คุยกับรุ่นพี่คนหนึ่ง

ลิ่ว – พี่ครับ ผมจะเอา PageMaker กับ Word ออกแล้วนะครับ

พี่ – อ้่าว ทำไมล่ะ พี่ใช้อยู่นะ

ลิ่ว – มันผิดลิขสิทธิ์น่ะครับ

พี่ – ไม่เห็นเป็นไปเลย เค้าไม่มาจับหรอก

ลิ่ว – แต่มันผิดนะครับ

พี่ – เอาน่า พี่ใช้อยู่ ไม่เป็นไรหรอก

มันต่างอะไรกับการที่เราบอกว่าเราวิ่งราวมาเพราะเรา “ใช้” เงินอยู่ และตำรวจยังไม่มาจับเรา ทำไมความผิดต้องเป็นเรื่องของที่ว่าเราโดนจับรึเปล่า

ในความเป็นจริงแล้ว เราทุกคนรู้อยู่แก่ใจข้างในดีว่าอะไรผิดไม่ผิด เราแค่คิดง่ายๆ ว่าเรายังไมโดนจับ แล้วเราก็ยอมรับความผิดไปอย่างง่ายๆ

เรื่องของเรื่องมันคือความมักง่าย

มันเป็นเรื่องเดีัยวกับคนที่เอาหมากฝรั่งแปะบนกำแพงชาวบ้าน เรื่องเดียวกับคนทิ้งขยะข้างถนน และเรื่องเดียวกับคนทดเลขลงไปในหนังสือที่ยืมมาจากห้องสมุด

มันก็แค่นั้น

 

เอาเปรียบ

เมืองสารขันธ์ ก้อนหินรูปร่างประหลาด มันประหลาดมากจนบรรยายลักษณะไม่ถูก

ผู้คนพากันมาชมหินก้อนนี้ด้วยความที่ต้องการดูของแปลก แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไรนัก

เวลาผ่านไป กล้องถ่ายรูปถูกสร้างขึ้น มีคนนำกล้องถ่ายรูปไปถ่ายหินก้อนนั้น

เขานำภาพไปลงนิตยสาร ผู้คนได้เห็นภาพหินก้อนนั้น แล้วพากันหลั่งไหลเข้ามายังเมืองสารขันธ์

ชาวเมืองสารขันธ์รวยขึ้นถ้วนหน้าจากการจับจ่ายของทักท่องเที่ยว ชาวเมืองสารขันธ์ดีใจ

จนวันหนึ่ง ชาวสารขันธ์ผู้หนึ่งพบว่าคนที่ถ่ายภาพไปลงนิตยสารนั้น ได้เงินจากภาพนั้นจำนวนมาก

เขาำนำเรื่องนี้ไปเล่าให้กับชาวบ้านเมืองสารขันธ์ ชาวเมืองสารขันธ์ไม่พอใจ

พวกเขาต่างด่าทอช่างภาพที่เอาเปรียบพวกเขา

 

Represent

อาจารย์จุฬา ไม่ใช่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

อาจารย์เกษตร ไม่ใช่ มหาวิทยาลัยเกษตรศา่สตร์

ตัวแทนญาติวีรชน ไม่ใช่ ผู้เข้าร่วมชุมนุม

ขณะที่สังคมกำลังสร้างความหวังในตัวผู้นำ ไม่ว่าจะเป็นผู้ทำทางฝ่ายไหน ผมคิดว่าในสถานะการณ์อย่างนี้ สื่อบ้านเราสอบตกในการสรรหาข้อมูลเพื่อให้ประชาชนได้คิดตาม

พาดหัวหนังสือพิมพ์ฺไม่มีอะไรมากกว่า ความพยายามที่จะตีข่าวให้ใหญ่โต ครึกโครม เพื่อจะขายหนังสือพิมพ์

วันนี้ถ้าจะมีใครชวนผมไปเดินขบวน

ผมอยากไปเดินขบวนประท้วงสื่้อมวลชนไทย