ผมไม่ได้สนใจเท่าใหร่ที่ว่าใครจะอยากให้ใครมาเป็นผู้นำบ้านเมืองในตอนนี้ หลายครั้งแล้วผมนึกถึงคำพูดในหนังสือบางเล่มที่ว่า ประชาธิปไตยมันจะเดินหน้าไปของมันเอง โดยไม่มีใครมากหยุดมันได้
แต่ผมอยากจะบอกว่า การที่เราไปดูถูกเสียงของคนอื่นๆ โดยการไปบอกว่าเขา จน, โง่ ฯลฯ นั้น ล้วนเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจเป็นอย่างยิ่ง
ขณะที่คนแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่ละคนล้วนมีข้อดีและข้อเสียของตัวเองเป็นเอกลักษณ์ การที่เราจะก้าวเข้าสู่ประชาธิปไตยและความปรองดองกันได้ เราต้องยอมรับถึงความแตกต่างกันให้ได้เสียก่อน และต้องยอมรับว่าเราเองทุกคนก็ไม่ได้สมบูรณ์แบบอะไร และต้องยอมรับว่าพวกเขาเหล่านั้นก็มีสิทธิที่จะเรียกร้องได้เท่าๆ กับเรา
การนำเอาตัวเลขการแข่งขันของประเทศที่เมื่อได้มาแล้วผลประโยชน์จะตกกับคนกลุ่มจำกัด โดยไม่ใส่ใจว่าชนชั้นล่างต้องการอะไรนั้น ไม่ต่างอะไรจากการไปปล้นเอาทรัพย์สินของชนชั้นล่างมาเป็นของคนส่วนน้อยแม้แต่น้อย
ขออ้างคำพูดของอาจารย์ ป๋วย อึ้งภากรณ์ ที่สลักไว้ข้างๆ อนุสาวรีย์ของท่าน ที่ธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิตเอาไว้ดังนี้
ผมมีความเชื่อมั่นอย่างแน่นแฟ้นในระบอบประชาธิปไตย และในศักดิ์ศรีของมนุษย์ทุกคน… ผมเชื่อในเสรีภาพและสิทธิมนุษยชนตามที่บัญญัติไว้ในปฏิญญาสากลของสหประชาชาติ ผมเชื่อในสิทธิของชายและหญิงทุกคน ที่จะมีส่วนร่วมในการกำหนดชะตากรรมสังคมที่เราอาศัยอยู่ การปฏิเสธไม่ให้สิทธินั้นแก่เขาเพราะเขายากจนหรือเพราะเขาขาดการศึกษา ผมถือว่าเป็นความร้ายกาจอย่างหนึ่ง ผมเกลียดชังเผด็จการไม่ว่าจะมีรูปแบบสีสันอย่างใดก็ตาม ผมมีความเชื่อว่าระบอบประชาธิปไตยควรได้มาอย่างสันติวิธีเพราะผมต้องการหลีกเลี่ยงการใช้กำลังอาวุธในการรักษาอำนาจของรัฐบาล
เราจะเรียนรู้จากอาจารย์ป๋วยกันได้บ้างไหม
สังคมไทยจะเรียนรู้ที่จะเคารพกันและกันอย่างเท่าเทียมโดยไม่ลืมตัวและยกตัวเองเป็นอภิชนได้หรือไม่
การกระทำของเราเองนั่นแหละ ที่บอกได้