แนวคิด

อ่านเรื่อง ZWSP ในเว็บดู เริ่มมีคนสนใจเยอะขึ้นเรื่อยๆ แต่ส่วนใหญ่แล้วมองประโยชน์ในเรื่องของการค้นหาที่แม่นยำกันได้มากกว่า

ผมเริ่มคิดเรื่องของ ZWSP ตั้งแต่ปีก่อน โดยมีแนวคิดหลักคือการใช้งานเอกสาร โดยไม่ได้มองเรื่องของกูเกิลเป็นหลัก

แนวคิดคือข้อมูลที่เราสร้างขึ้นควรถูกระบุอย่างแม่นยำ และนำไปใช้ได้ทุกที่ แนวคิดเช่นนี้มันเป็นอะไรที่มากกว่าการที่ให้กูเกิลเข้ามาทำดัชนีเว็บเราได้ถูกต้อง

่แน่นอนกูเกิลจะเป็น Killer-App ที่ทำให้แนวคิด ZWSP นี้เกิดขึ้นมาในโลก แต่ถ้าใครอ่านในเอกสารจะเห็นว่าผมพูดถึงเรื่องของการแสดงผลอย่างแม่นยำ ระดับที่ผู้ใช้ 99.9% สามารถชมเว็บได้อย่างไม่มีปัญหา

99.9% นั้นหมายรวมถึงคนพิการทางสายตาจะสามารถใช้โปรแกรมอ่านเว็บ อ่านออกมาได้อย่างแม่นยำ มันหมายถึงถ้าผมต้องการดึงเว็บออกไปเป็นหน้ากระดาษ เพื่อให้ความรู้นั้นไปถึงคนที่เข้าไม่ถึงพีซีจะสามารถอ่านหนังสือที่ืจัดหน้าไดู้ถูกต้อง

ผมเขียนบล็อกมาเกือบๆ เจ็ดร้อยบทความในระยะเวลาสองปี ในอนาคตหากผมใช้ ZWSP ผมอาจจะลงปลั๊กอินให้ WordPress แล้วสร้างเอกสารเป็น PDF รวมเป็นหนังสือออกมาได้ โดยไม่ต้องจัดหน้า นั่นคือความฝันสูงสุด

ต่อข้อสงสัยที่หลายคนถามถึงว่ามันจะใช้งานจริงได้หรือ เพราะการตัดคำด้วยมือ โดยเฉพาะกับโค้ดที่ผมนำไปแสดงในงาน BTD 2006 Summer นั้นค่อนข้างจะวุ่นวาย คำตอบง่ายๆ คือ ไม่เวิร์คครับ มันเป็นเหตุผลที่ผมเองก็ไม่ใช้ ZWSP ในเว็บนี้อย่างเต็มที่ ผมกำลังหาทางอยู่ ในตอนนี้กำลังทดลองอะไรหลายๆ อย่าง ถ้าผมขยันพอ คงมีเริ่มมีคนได้ทำเว็บด้วย ZWSP นี้จริงกันหลังงาน BTD 2006 Winter โน่น

…ก็ต้องรอผสมกับลุ้นให้ผมขยันแล้วกัน….

จุดเริ่มต้นของแนวคิดนี้ ตอนแรกๆ อยู่ที่ exteen.com ครับ ตอนที่ 1, ตอนที่ 2, ส่วนอันนี้มาร์คมาคอมเมนต์ไว้หลังจากคุยกันนอกรอบ

 

ปัจจุบัน

ผมยืนอยู่ที่ป้ายรถเมล สายที่จะพาผมกลับบ้านวิ่งผ่านไป

ผมยืนอยู่ตรงนั้น กำลังคิดว่าผมจะเดินไปหามันดีหรือไม่

…รถเมลผ่านไป… ผมมองตามมันไป จนสุดสายตา

ผมหันหลังกลับ แล้วออกเดิน ในใจเฝ้าถามตัวเอง

ผมกำลังเดินไปไหนกัน…. ไม่มีคำตอบจากใจของผม ผมรู้เพียงว่าผมต้องออกเดินไปข้างหน้า ไปยังที่ที่ผมกำลังค้นหา

ผมกำลังค้นหาอะไร… ผมมีเงิน มีงาน มีชีวิตที่ดีในสายตาหลายๆ คน แล้วผมกำลังหาอะไรกัน

ผมอาจจะไม่ได้หาอะไรเลย ผมแค่กำลังหนี หนีจากอะไรบางอย่าง

ขาผมก้าวเดินออกไปเรื่อยๆ ผมสงสัยตัวเองว่าผมกำลังหนีอะไรกัน และผมต้องหนีไปอีกนานแค่ไหน

ผมยังคงก้าวต่อไป พร้อมกับคำถามที่ยังคงอยู่ตรงนั้น

 

ECOSYSTEM

จุดด้อยของโอเพนซอร์สถ้าจะบอกว่าเรื่องเอกสารอย่างเดียวคงไม่ถูกนัก จุดตายที่ทำให้โอเพนซอร์สไม่ลืมตาอ้าปากทุกวันนี้คือ Ecosystem มันยังไม่แข็งแกร่ง

ถ้างงว่า Ecosystem คืออะไร ลองยกตัวอย่างดีวีดีเถื่อนหนึ่งแผ่น ว่ากว่าจะมาถึงมือเราได้ มันต้องผ่านใครมาบ้าง

หน่วยต้นน้ำ เช่น โรงงานผลิตแผ่นไรต์ หรือโรงงานปั๊มแผ่น คนนำเข้าแผ่นต้นฉบับจากต่างประเทศ

หน่วยกลางน้ำ เช่น คนออกแบบกล่อง, รับพิมพ์แผ่น, รับสกรีนปก, ทำ Box-Set, คนแปล Subtitle ฯลฯ

หน่วยปลายน้ำ เช่น คนขายแผ่น ไปรษณีย์ส่งแผ่น ฯลฯ

แผ่นผีหนึ่งแผ่นจะมาถึงคนซื้อได้ ต้องผ่านมือคนนับสิบ โดยทุกคนมีรายได้จากมัน มีการหมุนเวียนเม็ดเงิน และแรงงานไปมา เกิดการพึ่งพา และการแข่งขันอย่างหนัก

โลกของซอฟท์แวร์ปิดทุกวันนี้มีอะไรอย่างนี้อยู่เหมือนกัน

คุณอาจจะหาบริษัทที่เชี่ยวชาญ Oracle ได้ในไทย แต่ถ้าเป็น MySQL คงต้องหากันเหนื่อยหน่อย

ช่วงหลังนี้ทางฝั่ง Linux เริ่มๆ ดูดีขึ้น เราเริ่มมีบริษัทรับสอน RHCE เริ่มมีแอดมินมืออาชีพ ฯลฯ แต่กับซอฟต์แวร์อื่นๆ นั้นยังห่างไกล ไม่ต้องพูดถึง OpenOffice, Firefox, ฯลฯ

ผู้จัดการ IT ในไทยคงมีไม่กี่คนที่รู้จัก W3C แต่ทุกคนคงรู้จักไมโครซอฟท์ และ Internet Explorer

ผมอยู่ในโลกซอฟต์แวร์มานานพอที่จะเห็นว่ามันมีคนจ่ายเงินมหาศาล เพื่อซื้อซอฟต์แวร์ห่วยๆ บางตัว โดยแนวคิดแค่ว่าบริษัทที่ขายมันน่าเชื่อถือดี

อาจจะถึงเวลาที่เราต้องมีบริษัทรับซัพพอร์ต GCC โดยเชี่ยวชาญพอที่จะขอแก้ไขได้เมื่อมีปัญหา (แม้มันจะเกิดขึ้นสิบปีครั้งก็ตามที) แล้วเอา GCC ไปขายกันดื้อๆ อย่างนั้นแหละ รวมถึง MySQL, OpenOffice.org, etc.

ให้โลกธุรกิจมารับช่วง มีการตั้งบูตโปรโมท มีพริตตี้ ฯลฯ แม้มันไร้สาระแต่ในโลกธุรกิจจริงๆ เรื่องพวกนี้ก็คงขาดไม่ได้

กลับมาอ่านแล้วมันดูเพ้อๆ แฮะ

 

IE Just got better.

I just try IE7 Build 5358 today. It’s still buggy with keyboard switching issue but others seems to be better. Firefox just achived one of it’s goal: to push standard compliance Internet.

The greatest thing in IE7 is UI. I just love for every tab has it’s own close button. Every new tab which opened from link in a tab will become a new tab next to it’s parent tab not the last one. The new tab button does make sense for me.

The memory usage just got better than IE6 may be it even with Firefox, but that’s far more than k-meleon which I’m using.

I don’t sure that I may switch to Ubuntu in less than a year. But if I still using Windows when this thing come out and I have a lot of RAM to give to it. I may be switch back to this ten-year-ago-friend.