หลังจากวางแผนมานาน วันนี้ก็ลง Kubuntu กันให้เรียบร้อยซักที หลังจากปล้ำมาถึงสี่ชั่วโมง ผมลงลินุกซ์เพื่อใช้งานบนเดสก์ทอปครั้งแรกสมัยเรียนปีสอง ตอนนั้นที่ดังที่สุดคือ Mandrake ที่หลังจากลงครั้งนั้นแล้วผมไม่ยอมใช้ลินุกซ์ในเครื่องประจำตัวอีกเลย (เคยตั้งเซิร์เวอร์ในแลปยังพอไหว) ไหนๆ ก่อนจะไปนอนก็เล่าความเป็นไปกันก่อนแล้วกัน
- เรื่องแรกเลยคือการใช้งานที่ดีขึ้นมากแล้ว สมัยผมลง Mandrake ถ้า HW มันไม่ชอบขึ้นมาที จะเอา X.Org ขึ้นทีก็แทบหมดแรง ตอนนี้นั่งเล่น MSN กับอ่าน Google Reader ระหว่างลงได้สบายใจ
- แต่เรื่องที่ไม่ประทับใจตอนลงคือ เมนูมันทำให้คนซึ่งต้องการ Dual Boot กับ Win XP อย่างผมสับสนพอดู หรืออาจจะเป็นที่ผมคนเดียวก็ได้
- บูตลงเสร็จบูตเข้ามาได้ เรื่องต่อมาที่เจอคือจอมันเป็น 1024×768 อยู่ แต่เครื่องมันเป็น 1280×800 หลังจากเลือกเมนูโน่นนี่ไปมาอยู่นาน จนไปเจอว่าเจ้าชิป Intel GMA 82855 ในเครื่องผมเนี่ยมันต้องการ xserver-xorg-video-intel ด้วยความมั่นใจเปิด Adept Manager ขึ้นมาหา อ่าวชิปเป๋งไม่มีซะงั้น สุดท้ายต้องไปเปิด repository ให้หมด เพราะอารมณ์ทำมานานเริ่มหงุดหงิดตัวเองแล้ว
- พอจอได้ เริ่มใจชื้นล่ะ แต่ปัญหาต่อมาคือคีย์บอร์ดภาษาไทย ตอนลงมันก็เล่นได้อยู่ เพราะนั่งคุย MSN กับเพื่อนไปด้วย แต่ปัญหาคือมันใช้ปุ่มอะไรเปลี่ยนภาษาล่ะทีนี้
- ที่น่าสนใจคือคนเจอปัญหาเดียวกันนี้เยอะเหมือนกัน หลังจากหาอยู่ค่อนชั่วโมง เลยไปเจอใน list ของ KDE บอกว่าการเปลี่ยนภาษาใน KDE มันจะแปลกๆ ถ้าอยากได้แบบใน Win XP ต้องลง KKBSwitch แทน ตอนลงไม่มีปัญหาอะไรเลย แต่กว่าจะรู้ว่าต้องลงตัวนี้แทบหมดแรง
- ส่วนต่อมา แน่นอนว่าต้องเป็น Beryl น่าแปลกที่เป็นส่วนที่ปัญหาน้อยมาก ลงตาม Tutorial ในเว็บแล้วผ่านฉลุยอย่างน่าประหลาด
- ตอนนี้ที่ยังต้องทำต่อคงเป็นเรื่องของภาษาไทยใน KDE เองเพราะตัว OO.o นั้นใช้งานได้อยู่แล้ว ไปเจอใน LTN บอกให้ลง libthai อันนี้ไม่ยาก แต่ต้อง recompile qt นี่ทำไม่เป็นแล้วแฮะ
กับการลงแบบ non-stop อยู่สี่ชั่วโมงตอนนี้ Kubuntu คงไม่ใช่อะไรที่น่าเผยแพร่ให้พ่อแม่ใช้เท่าใหร่ (แต่ Setup เสร็จแล้วรู้สึกว่า Usability มันดีกว่า Windows ชัดเหมือนกัน) แต่ก็นับว่าใช้งานจริงได้แล้ว
วันจันทร์นี้จะไปทำงานด้วย Kubuntu (จะรอดชีวิตมั๊ยเนี่ย ใช้อยู่คนเดียวทั้งบริษัท…)