the show must go on

ผมไม่ค่อยสนับสนุนให้ใคร “ทนๆ” กับเรื่องราวที่ผ่านเข้ามาเท่าใหร่นัก ก็ถ้าเราแก้ได้ เราอยากแก้ไข และเรามีความสามารถที่จะทำให้อะไรบางอย่างมันดีขึ้น ทำไมเราจะไม่ทำ

แต่หลายๆ ครั้งในชีวิต เรื่องที่เราอยากแก้ไขอย่างสุดหัวใจ เรื่องที่เราพร้อมจะทุ่มทั้งชีวิตเพื่อแก้ไข

…..ก็ไม่ใช่เรื่องที่เราจะแก้ไขได้

เรามองไปข้างหน้า มันมีความไม่ดีอยู่ตรงนั้น เราพิจารณาแล้วว่าเราไม่มีทางเลือกที่ดีกว่าการปล่อยให้มันผ่านไป

เราอาจจะอึดอัดที่เราต้องยอมแพ้ แต่ชีวิตเราก็ต้องเดินหน้าต่อไป เราต้องมีชีวิตต่อไป และยังมีอะไรๆ อีกมากมายที่เราสามารถทำให้ตัวเราเอง ทำให้คนอื่นๆ และทำให้สังคม ได้

เรามองไปอีกครั้ง สัญญากับตัวเองว่าวันใดที่เรามีกำลังมากพอ เราจะไม่ลืมมัน

แล้วชีวิตก็เดินต่อไป

 

คำแนะนำ?

เมื่อปีที่แล้วผมมีโอกาสไปท่องอีสานไปครึ่งภาค เรื่องหนึ่งที่น่าสนใจคือป้ายเลี้ยวซ้ายผ่านตลอดนั้นหายไป

เหลือแต่เลี้ยวซ้ายเมื่อปลอดภัย

คำถามคืออะไรคือปลอดภัย??????

ถ้าผมเลี้ยวอย่างระวัง แล้วมีมอเตอร์ไซต์ออกมาจากซอย พุ่งมาชนรถผม ผมจะผิดกฏจราจรรึเปล่า แต่ถ้าผมไม่มีเบรก แต่ปาดซ้ายเลี้ยวไปไม่มองใครแล้วไม่ชน อย่างนั้นเรียกว่าปลอดภัยไหม

ข้อเท็จจริงคือโลกนี้มีความเสี่ยง การกระทำที่ปลอดภัยที่สุดก็เกิดอุบัติเหตุได้ เช่นเดียวกับการฝากเงินที่ธนาคารที่ธนาคารก็เจ๊งได้เหมือนกัน

สิ่งที่เราทำได้ไม่ใช่คาดหวังว่าจะทำทุกอย่างให้ปลอดภัย แล้วบอกกับท้องฟ้าว่ามันต้องปลอดภัยเพราะเราทำอย่างปลอดภัย หรือไปด่าว่าคนอื่นว่าประมาทเพราะเขาพลาดพลั้ง ทั้งที่เขาอาจจะทำอย่างปลอดภัยที่สุดแล้ว

สิ่งที่เราทำคือประเมินอย่างระมัดระวัง เตรียมการถึงสิ่งที่อาจเกิดขึ้นได้ แล้วรับผลของการตัดสินใจอย่างเต็มภาคภูมิ

 

รู้ใจ

เวลาอ่านนิยายรัก คงเป็นเรื่องปรกติที่คู่แท้ในเรื่องจะสามารถสื่อใจถึงกันได้อย่างน่าอัศจรรย์

เธออาจจะมองท้องฟ้าเมื่อคิดถึงเขา และในเสี้ยววินาทีนั้นเอง เขาก็อาจจะมองไปที่เมฆก้อนเดียวกัน ความรักและความรู้สึกที่ดีของเขาและเธอเหมือนไม่มีอะไรมากั้นกลางได้

โลกความเป็นจริงไม่สวยงามเช่นนั้น ในความเป็นจริงแล้วขณะที่เธอกำลังมองท้องฟ้า เขาอาจจะกำลังทำงานหามรุ่งหามค่ำหรืออาจจะดูหนังสักเรื่อง ความโรแมนติคในหนังนั้นน่าซึ้งใจเพราะในโลกความเป็นจริงแล้ว เราคงอยากได้สัมผัสกับความรู้สึกเช่นนั้นนักครั้ง

แต่กลับมาในโลกความเป็นจริง มันจะเป็นเรื่องดีจริงๆ หรือหากหัวใจของเราโหยหาใครสักคน

เรามองท้องฟ้า แล้วถามฟ้าว่าอีกคนที่เราคิดถึงนั้นเป็นอย่างไรบ้าง ใครคนนั้นจะคิดถึงเราเหมือนกันบ้างไหม

เรื่องน่าเศร้าคือ ไม่ว่าอีกคนนั้นจะมองไปที่เมฆก้อนเดียวกับเราหรือไม่

ฟ้าก็ไม่เคยบอกเราแม้แต่ครั้งเดียว….

 

คิดถึง

เคยคุยกับเพื่อนคนหนึ่งมานานแล้วว่า วันหนึ่งที่เราลืมช่วงเวลาที่ต้องอยู่คนเดียวไปแล้ว จะเป็นช่วงเวลาที่อยู่คนเดียวได้ยากที่สุดเวลาหนึ่ง

น่าแปลก ในเวลาที่เรามีคนล้อมรอบมากมาย มีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราอยากจะทำ มีอะไรจำนวนมากที่เราบอกกับตัวเองไว้ว่าเมื่อมีโอกาสแล้วเราจะลงมือ

แต่เมื่อถึงเวลานั้นแล้ว เรากลับมองหาคนรอบข้าง

เราถามตัวเองว่ามันจะเป็นไปได้ไหม ที่เราจะมีใครอีกสักคนมาทำสิ่งเหล่านั้นกับเรา

จะเป็นไปได้ไหมที่จะมีคนมายืนเคียงข้างเรา