ให้

ญ – ฉันตัดสินใจเลือกคุณแล้ว

ช – ทำไมคุณถึงเลือกผม

ญ – มีแต่คุณที่ให้ฉันมากกว่าใคร

ช – ถ้าอย่างนั้น ผมคงต้องไปแล้ว

ญ – ทำไมล่ะ คุณรอวันนี้มาตลอดไม่ใช่หรือ

ช – รู้ไหม ทำไมผมถึงเลือกคุณ

ญ – ทำไม

ช – เพราะมีแต่คุณที่ผมพร้อมให้ได้ทุกอย่าง

 

เพื่ออะไร

เป็นเวลานานมาแล้ว ที่ผมมุ่งมั่นเพื่อจะได้ “สิ่งนั้น” มาให้ได้

เวลาอันยาวนานที่เจ็บปวด ผมยังคงมองไปที่ “สิ่งนั้น” โดยไม่สนใจไม่ว่าตัวเองจะเป็นอย่างไร

วันหนึ่ง ผมหยุดลง มองไปที่กระจก แล้วสงสัยว่าผมต้องการ “สิ่งนั้น” ถึงเพียงนี้เชียวหรือ

ผมจะทนไปเพื่ออะไรกัน ทำไมผมถึงต้องพยายามถึงเพียงนี้

ผมหยุด ทิ้งตัวลงนั่ง แล้วถามกับตัวเอง

 

Fact

ในบรรดา Quote จากหนังทั้งหมดเท่าที่ติดตามมา คงบอกได้ว่าคำหนึ่งที่สั้นและชอบมากๆ คือ

This is full of SHIT!!!….. Not enough fact.
The Sum of All Fear

แม้จะเป็นประโยคสั้นๆ จากหนัง แต่เวลาที่ต้องคิดอะไรในเรื่องที่ต้องการตรรกะสูงๆ แล้ว เป็นแนวคิดที่ผมนำมาใช้เสมอ คือการล้างเรื่องไร้สาระออกไปให้หมด แล้วคงไว้แต่ข้อเท็จจริง

ผมมองว่าหลายครั้งมันไร้สาระ และเลวร้ายในการที่เรานั่งทุ่มเถียงกันด้วยการคาดการณ์ ข่าวลือ และความเชื่อส่วนบุคคล

ที่น่ารังเกียจคือหลายๆ ครั้งแล้วเมื่อคนเราต้องการให้ความเชื่อของตนเองได้รับวามเห็นชอบ เราใส่ข่าวลือ และการคาดการณ์เข้าไปรวมๆ กับข้อเท็จจริง

ที่บ้านผมถามผมเรื่องความเห็นทางการเมืองหลายครั้ง แต่ผมปฎิเสธที่จะคุยเรื่องนี้เสมอ ในเมื่อข้อเท็จจริงคือผมไม่รู้จริง และการพูดคุยนั้นจะนำไปสู่การบาดหมางจริง ในชีวิตของผม แม้เรื่องที่ำมาคุยกันนั้นอาจจะเป็น SHIT ที่ออกมาจากสื่อต่างๆ ปนเปกันมั่วไปหมด

อารมณ์ ความเชื่อ และัจินตนาการจำเป็นต่อมนุษย์ และเป็นสิ่งที่แยกเราออกจากเครื่องจักร (และสัตว์?) แต่เรามีทางเลือกที่จะใช้มันเสมอ เราเองเ็ป็นผู้เลือกว่าอะไรมีความสำคัญ และอะไรไม่มี

เราเองเป็นคนตัดสินใจ

 

ตัวตน

ผมนั่งอยู่เมื่อเขาเดินเข้ามาหาผม

เขา – คุณเป็นอะไรถึงมานั่งอยู่ตรงนี้

ผม – ผมไม่อยากทำงานอีกต่อไปแล้ว

เขา – ทำไมล่ะ

ผม – มีคนบอกว่าผมไม่เหมาะกับงานนี้

เขา – แล้วคุณก็เชื่อ?

ผม – เขาพิสูจน์ได้ว่าผมทำงานอื่นได้ดีกว่า

เขา – ตอนที่คุณเลือกทำงานนี้ คุณพิสูจน์อะไรก่อนรึเปล่า

ผม – เปล่าเลย ผมแค่เชื่อว่ามันเหมาะกับผม

เขา – แล้วทำไมคุณจึงเอาข้อพิสูจน์มาทำลายความเชื่อของคุณล่ะ