ปรัชญา Minesweeper #2

คนเราเมื่อมาถึงจุดหนึ่งแล้ว สิ่งที่ดีที่สุดที่เราทำได้นั้นเป็นเพียงการคาดเดา

เราตระหนักดีว่าไม่ว่าเราจะพิจารณาไปอีกนานเท่าใด ข้อมูลทั้งหมดจะไม่ช่วยให้เราตัดสินใจดีขึ้น

แต่หลายๆ ครั้งเราก้ยังรอ เราจดจ้องเพราะการตัดสินใจครั้งนั้นช่างยิ่งใหญ่ งานทั้งหมดที่เราทำมาอาจจะขึ้นอยู่กับมัน

เรารอไปเรื่อยๆ โดยสูญเสียอะไรไปหลายๆ อย่าง ทั้งที่เรารู้อยู่แก่ใจว่าการรอนั้นไม่ทำให้อะไรดีขึ้นแม้แต่น้อย

 

ความฝัน

ว่ากันว่าคนเราดำเนินชีวิตอยู่ได้ ก็ด้วยว่ามีความฝัน เรามีจุดมุ่งหมายที่ยังไปไม่ถึงอยู่ตลอดเวลา ทำให้เราต้องดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตเพื่อสานความฝันเหล่านั้น

ครั้งหนึ่งผมเคยเขียนถึงความฝันด้านหนึ่งของผม มีคนถามผมว่าทำไมผมจึงเลือกเรียนและทำงานในสายงานนี้ ทั้งที่มันไม่สามารถส่งเสริมความฝันของผมได้แม้แต่น้อย

ผมไม่ได้ตอบคำถามนั้น  ในวันนั้น…

ความเป็นจริงคือ ความฝันในชีวิตของผม และน่าจะเป็นความฝันของคนจำนวนมาก ไม่ได้มีเพียงด้านใดด้านหนึ่ง คนจำนวนมากอาจจะฝันอยากเป็นดารา คนจำนวนมากกว่าอาจจะฝันอยากรวยพันล้าน คนจำนวนเพียงน้อยนิดอาจจะฝันอยากได้รับรางวัลโนเบล คนจำนวนไม่น้อยฝันทุกอย่าง

ข่าวร้ายคือ แทบไม่มีใครสานความฝันของตัวเองได้ครบถ้วน

เมื่อถึงจุดหนึ่งแล้ว เราต้องเลือกที่จะเสียโอกาสในการสร้างความฝันบางส่วนของตัวเอง เพื่อสร้างโอกาสในการสานความฝันด้านอื่นๆ เรื่องนี้เป็นความจริงของชีวิตที่ยากจะหลีกเลี่ยง

แต่สิ่งที่แย่คือวันหนึ่งที่เราเข้าใกล้ความฝันบางอย่าง แล้วลืมความฝันทั้งหมดที่เหลือ ที่มันประกอบเป็นตัวเราขึ้นมา จนวันหนึ่งความฝันอันยิ่งใหญ่นั้นก็สำเร็จลง

แล้วเราก็ยืนถามตัวเองว่าเราเป็นใครกัน ด้านที่เหลือของเราหายไปไหน…..

 

อดีต

ห้องรกๆ ของผมนั้น จะมีเก๊ะอยู่ช่องหนึ่งที่ผมมักจะ “โยน” เอาของที่ผมคิดว่ามันมีคุณค่าต่อความทรงจำผมเอาไว้ในนั้นอยู่เรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นรูปติดบัตรที่เหลือจากการใช้งาน บัตรนักเรียน ฯลฯ

วันหนึ่งที่ผมเปิดมันกลับออกมา อดีตที่เคยถูกฝังเอาไว้กลับกระโจนออกจากที่กุมขังของมันอย่างมากมายมหาศาล

การอยู่กับความทรงจำนั้นมักหอมหวานเสมอ ตรงข้ามกับปัจจุบันที่สร้างความปวดร้าวให้กับเราตลอดเวลา รูปเพื่อนที่เราเคยกินข้าวด้วยกันเสมอๆ เป็นเวลานานนับสิบปี แต่แล้ววันหนึ่งเราก็ต้องห่างกันไป

ผมตระหนักในนาทีนั้นว่าเวลาช่างโหดร้ายนัก ที่มันพัดพาเอาสิ่งต่างๆ ไปจากเราได้มากมายอย่างไม่น่าเชื่อ

แต่ความเป็นจริงคือเราไม่สามารถหนีจากปัจจุบันไปได้นานนัก และไม่ว่ามันจะดูทรมานเพียงไรกับการอยู่กับปัจจุบัน แต่ความจริงคือมันมักสร้างความทรงจำที่ดีให้กับเราในวันข้างหน้าได้เสมอๆ

ผมหยิบของสองสามชิ้น แล้วโยนมันลงไปในเก๊ะช่องเดิมนั้น แล้วปิดมันลง

บางที ผมอาจจะว่างมาเปิดมันขึ้นมาดูอีกครั้งในอนาคต