ผู้ยิ่งใหญ่

ว่ากันว่า ความยิ่งใหญ่มักทำให้คนเราต้องโดดเดี่ยว บุคคลสำคัญทั่วโลกที่สร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่มักประสบความล้มเหลวในชีวิตครอบครัว จะเนื่องจากไม่มีเวลาให้แก่กันหรือความเครียดจากการงานก็แล้วแต่

ความต้องการที่จะสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่กลายเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ใจของคนเราต้องห่างกันออกไป

แต่หากคิดในอีกมุมหนึ่ง มันเป็นไปได้ไหม ที่คนเรานั้นไม่เคยหนีพ้นจากความโดดเดี่ยว

แม้พวกเขาอาจจะมีครอบครัว มีคนที่รัก แต่ภายในใจจริงๆ แล้วพวกเขาก็ยังขาดอะไรบางอย่างไป

และพวกเขาเลือกที่จะเติมเต็มมันด้วยการสร้างสรรสิ่งที่ยิ่งใหญ่เหล่านั้น พวกเขาสร้างสรรมันตลอดทั้งชีิวิต

เพราะสิ่งที่ยิ่งใหญ่นั้นไม่เคยเติมเต็มความโดดเดี่ยวของพวกเขาได้สำเร็จ

 

Best

ญ – ฉันตัดสินใจแล้วว่าจะไม่เลือกคุณ

ช – (ยิ้ม) ขอบคุณมาก

ญ – คุณขอบคุณฉันทำไม

ช – เพราะอย่างน้อยคุณก็ตัดสินใจ

ญ – คุณไม่เสียใจหรือ

ช – เสียใจสิ แต่ถ้าเราได้สิ ่งที่ดีที่สุด แม้มันจะแย่ แต่เราก็ยังควรดีใจที่มันดีที่สุดไม่ใช่หรือ

ปล. เพิ่งนึกได้ว่าตัวละครสองตัวนี้ไม่โผล่ในบล็อกนี้มานานแล้ว

 

denied

นิสัยอย่างหนึ่งของคนไทย (ไม่เคยไปนอก ไม่รู้มีประเทศไหนเป็นมั่ง) คือการปฎิเสธก่อนที่จะตอบคำถามใดๆ เช่น “ไปไหนมา?” คำตอบในทันทีคือ “เปล่า” แล้วตามด้วยคำตอบที่แท้จริง

นิสัยแบบนี่โดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่ามันเกิดจากความกลัวที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งที่ผ่านเข้ามา แม้สิ่งนั้นจะเป็นแค่คำถามที่ดูไม่มีพิษมีภัย

เรากลัวทุกอย่าง… ที่เข้ามาใหม่ในชีวิตของเรา หลายครั้งเราปฎิเสธหลายๆ อย่างไว้ก่อน เพื่อจะได้มีเวลาพิจารณามันให้ดีขึ้นต่อไป

ที่น่าเสียดายคือหลายๆ สิ่งที่เราปฎิเสธไป ไม่ได้มาอยู่รอเราที่จะตัดสินใจใหม่อีกครั้ง


แท้จริงแล้วทุกอย่างก็ล้วนน่ากลัวทั้ง คล้ายในหนังสือการลงทุนหลายๆ เล่มว่าทุกอย่างมีความเสี่ยง แม้เราจะเก็บเงินไว้ในตุ่มหลังบ้านก็ยังคงมีความเสี่ยง

วันนี้ผมเองขับรถด้วยความเร็ว 80 อยู่ช่องทางกลางด้วยการขับมารยาทงามเป็นพิเศษเนื่องจากค่อนข้างเหนื่อยจากการเรียน

แต่แล้วรถคันข้างหน้าก็เสีย เจ้าของรถหยุดกระทันหันให้ผมที่ตามหลังไปไม่ถึงร้อยเมตรต้องตัดสินใจในช่วงเสี้ยววินาทีที่จะขอทางแล้วเปลี่ยนช่องทางนั้นเอง

จะ เกิดอะไรขึ้นถ้าวินาทีนั้นผมปฎิเสธที่จะตัดสินใจ…..


กับคำถามสั้นๆ เราคงไม่ต้องคิดอะไรมากมายเพื่อที่จะพิจารณาใหม่ แล้วตัดสินใจตอบอีกครั้ง
กับเรื่องอีกหลายๆ เรื่องที่จะมีผลกับชีวิตเราไปอีกนานกว่านั้นก็ดูเหมือนจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ปล. ได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์เฉียดตายประจำวัน

ปล2. ช่วงเดือนที่ผ่านมา ผมกับรถเจอเหตุการณ์บังเอิญแบบไม่น่าบังเอิญเยอะ ถ้าเหตุการณ์อย่างนี้จะบ่งบอกอะไร ก็คงบ่งบอกว่า “พระเจ้ามีจริง”

 

ส่วนหนึ่ง

กับรูปแบบของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ค่านิยมในวันนี้คงเป็นเรื่องของความเก่งกาจของตัวบุคคล ที่แต่ละคนมุ่งหน้าที่จะแสดงตัวว่าสามารถดำเนินชีวิตได้โดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นๆ แต่อย่างใด

เราพยายามพึ่งพาตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ เรา “ไหว้วาน” คนอื่นน้อยลง แต่ในเวลาเดียวกันนั้น แรงปรารถนาภายในของเราก็เรียกร้องตลอดเวลาว่าเราอยากวางภาระและความกังวลใจบางส่วนไว้กับใครอีกคน

ความขัดแย้งเช่นนี้ยังคงดูไม่มีวันจบสิ้นกับสังคมที่ดูซับซ้อนขึ้นอย่างไม่มีขีดจำกัด เรายังคงยอมรับความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ ต่อเมื่อเราได้ตอบแทนความช่วยเหลือบางอย่างที่ดูเท่าเทียมกัน

แต่ในใจเราก็ตั้งคำถามต่อไป ว่าจะมีใครไหมที่ยอมทำบางอย่างให้เราโดยไม่ได้ต้องการอะไร