เรื่องหนึ่งที่ผมรำคาญในสังคมไทย คือการที่เรามักจัดการปัญหาต่างๆ โดยอาศัยการคาดเดาว่าช่องโหว่ของกฏต่างๆ จะไม่มีใครไปใช้มัน
เรามองอะไรง่ายๆ เช่นว่าคงไม่มีใครซื้อขายหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์กันทีละเจ็ดหมื่นล้าน
พี่ว๊ากคงเป็นคนดี ที่ไม่ทำใครตาย
บริษัทเหล้าคงไม่มีวันเติบใหญ่ถึงขั้นจะเข้าตลาดหุ้น
เราเอาภาพโดยทั่วๆ ไปมาเหมาเอาว่า เหตุการที่เราไม่อยากให้มันเกิด มันจะไม่เกิด และนั่นยังไม่แย่เท่ากับการที่เราจัดการกับสิ่งเหล่านี้เมื่อมันเกิดขึ้น
สิ่งที่เราทำคือเรามานั่งแช่งคนทำ
ผมไม่สนหรอกว่าเรื่องที่ผมพูดมาข้างบนมันผิดหรือมันถูก ผมไม่ใช่คนที่มีหน้าที่ตัดสิน แต่ผมมองสังคมเราแล้วสังเวทกับการแก้ปัญหา
ถ้าผมคิดว่าการซื้อขายหุ้นเพื่อทำกำไรมากๆ โดยไม่เสียภาษี ซึ่งเป็นเรื่องที่ตั้งกฏไว้มานานมากๆ แล้ว มันเป็นเรื่องไม่ดี
เราก็ควรมาถกกันไม่ใช่หรือว่ากฏนี้ัยังควรมีอยู่รึเปล่า…. อาจจะถึงเวลาที่เราต้องมาเข้าชื่อกันเพื่อยกเลิกหรือปรับปรุงสิทธิของคนซื้อขายผ่านตลาดหุ้นตรงนี้
ผมนึกถึงเรื่องของโรงงานเย็บผ้าในอเมริกาสมัยหนึ่งแล้วสวัสดิการแย่อย่างไม่น่าเชื่อ พนักงานถูกขังไว้ในโรงงานเพื่อไม่ให้อู้งาน กุญแจถูกล็อกจากด้านนอก โดยมีทางเข้าออกเพีัยงทางเดียว
วันหนึ่งโรงงานนั้นไฟไหม้ เรื่องเศร้าคือคนงานทั้งหมดเสียชีวิต
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นคือกฏหมายคุ้มครองสวัสดิภาพพนักงาน กฏหมายความปลอดภัยของอาคาร ฯลฯ
มันไม่ใช่เรื่องคอขาดบาดตายที่เราจะพลาด หรือสิ่งที่เราเคยทำมันมีช่องโหว่
ปัญหาคือเราจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นอย่างไรต่างหาก จะเกิดอะไรขึ้นถ้าคนอเมริกันพากันสาปแช่งเจ้าของโรงงานนั้น โดยไม่เรียกร้องความคุ้มครองในอนาคต
เรื่องน่าเศร้าก็คงยังเกิดขึ้นเรื่อยไป….