Fact

ในบรรดา Quote จากหนังทั้งหมดเท่าที่ติดตามมา คงบอกได้ว่าคำหนึ่งที่สั้นและชอบมากๆ คือ

This is full of SHIT!!!….. Not enough fact.
The Sum of All Fear

แม้จะเป็นประโยคสั้นๆ จากหนัง แต่เวลาที่ต้องคิดอะไรในเรื่องที่ต้องการตรรกะสูงๆ แล้ว เป็นแนวคิดที่ผมนำมาใช้เสมอ คือการล้างเรื่องไร้สาระออกไปให้หมด แล้วคงไว้แต่ข้อเท็จจริง

ผมมองว่าหลายครั้งมันไร้สาระ และเลวร้ายในการที่เรานั่งทุ่มเถียงกันด้วยการคาดการณ์ ข่าวลือ และความเชื่อส่วนบุคคล

ที่น่ารังเกียจคือหลายๆ ครั้งแล้วเมื่อคนเราต้องการให้ความเชื่อของตนเองได้รับวามเห็นชอบ เราใส่ข่าวลือ และการคาดการณ์เข้าไปรวมๆ กับข้อเท็จจริง

ที่บ้านผมถามผมเรื่องความเห็นทางการเมืองหลายครั้ง แต่ผมปฎิเสธที่จะคุยเรื่องนี้เสมอ ในเมื่อข้อเท็จจริงคือผมไม่รู้จริง และการพูดคุยนั้นจะนำไปสู่การบาดหมางจริง ในชีวิตของผม แม้เรื่องที่ำมาคุยกันนั้นอาจจะเป็น SHIT ที่ออกมาจากสื่อต่างๆ ปนเปกันมั่วไปหมด

อารมณ์ ความเชื่อ และัจินตนาการจำเป็นต่อมนุษย์ และเป็นสิ่งที่แยกเราออกจากเครื่องจักร (และสัตว์?) แต่เรามีทางเลือกที่จะใช้มันเสมอ เราเองเ็ป็นผู้เลือกว่าอะไรมีความสำคัญ และอะไรไม่มี

เราเองเป็นคนตัดสินใจ

 

เด็ก

ปรกติเป็นคนทนทานกับเด็กๆ มาก จะดื้อจะซนแค่ไหนก็ทนพูดดีๆ ด้วยได้ ถือว่าเราต้องเป็นแบบอย่าง

แต่ให้ตายเถอะ….

 

ผิด

เคยไหมที่จะทำอะไรดีๆ กับคนๆ หนึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่เราชอบหรืออะไรหรอก อาจจะเป็นแ่ค่เพื่อน คนรู้จัก คนรอบๆ ตัวเรา เราอาจจะอยากไปทักทาย อาจจะอยากเข้าไปทำความรู้จัก หรือซื้อของกินไปเผื่อเล็กๆ น้อยๆ อยากจะเข้าไปเล่าเรื่องตลก กันฮาๆ บ้าง

แต่บ่อยๆ ที่เรื่องที่เราจะทำดีๆ นั้นมันกลายเป็นเรื่องแย่ๆ อีกเรื่องนึงไป เราอาจจะไปพูดแทงใจดำเขาเข้า หรือไม่ก็ไปชวนคุยจนเขารำคาญ

เรื่องมันจบลงที่เรามานั่งเสียใจที่ทำอะไรอย่างนั้นไป

เรื่องมันแ่ย่กว่านั้น เมื่อเรามักจะทำให้เขาโกรธ เมื่อเราพยายามเข้าไปขอโทษ หรือเข้าไปแก้ไขเรื่องที่เราทำผิดไป

แต่ทั้งหมดที่เราทำได้

อาจจะเป็นแค่นั่งเงียบๆ แล้วเสียใจกับสิ่งที่เราทำลงไป