นิสัยถาวร

__คำเตือน:__ บทความนี้แรงมาก แม้จะใช้ภาษาสุภาพ ถ้าไม่อยากเครียดควรหลีกเลี่ยง

วันนี้เป็นหนึ่งวันประวัติศาสตร์ของไทยที่ต้องถูกจารึกไว้ ถ้าผมจำไม่ผิด นี่เป็นครั้งที่สองที่พรรคที่มาจากการเลือกตั้งถูกยุบลงด้วยรัฐธรรนูญที่มาจากทหาร

ชัยชนะที่ได้รับการประกาศในครั้งนี้ เป็นชัยชนะแห่งชนชั้นสูงของเมืองไทย ประเทศที่ไม่เคย “หน้าบาง” พอที่จะบอกว่าตัวเองมีการแบ่งชนชั้นวรรณะอยู่ในประเทศ ไม่เคยยอมรับว่ามีปัญหาด้านศาสนา และไม่เคยยอมรับอีกหลายๆ อย่าง

การดูถูกนโยบายประชานิยมของพรรคประชาธิปัตย์น่าจะเป็นเสียงสะท้อน “นิสัยถาวร” ของคนมีการศึกษาผู้มีอันจะกินเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี

คนเหล่านี้แหละ ที่กู้เงินต่างชาติอย่างหน้ามืดตามัว คนเหล่านี้ล่ะที่ปั่นราคาที่ดิน เล่นหุ้น ฯลฯ อย่างฟองสบู่ แล้วนั่งฝันถึงเสือตัวที่ห้าแห่งเอเชีย

คนกลุ่มนี้น่าสนใจว่าเป็นคนกลุ่มเดียวกับที่ไปลงทุนต่างชาติ (ลาว, ฮ่องกง ฯลฯ) จนหมดตัว และเป็นคนกลุ่มเดียวกันกับที่บริหารบริษัทจนไปแทบไม่รอดต้องขายหุ้นให้บริษัทต่างชาติผ่านนอมินีไปก่อนหน้านี้หลายปี

__ไม่เกี่ยวกับบทความ__ นี่คือโลโก้[บริษัท Telenor](http://en.wikipedia.org/wiki/Telenor) เครือบริษัทโทรคมข้ามชาติจากยุโรป จุดเริ่มต้นของบริษัทมาจากนอร์เวย์ **โลโก้ของบริษัท Telenor เป็นเครื่องหมายการค้าของบริษัท**

และคนพวกนี้คือคนกลุ่มเดียวกันที่เที่ยวบอกคนโน้นคนนี้ว่าอย่าทำโน่นนี่ คนจนอย่าใช้เงินเกินตัว “เดี่ยวชาติพัง”???

คนกลุ่มนี้นี่แหละที่กล้าบอกชาวโลกว่าพวกเขาคือกลุ่มคนที่ควรมีสิทธิมีเสียงในการดูและประเทศนี้มากกว่าคนอื่น?

ผมไม่แปลกใจที่จะมีใครคิดอย่างนี้ ทุกคนอยากเป็นคนสำคัญ ทุกคนอยากมีสิทธิพิเศษ แต่สงสัยอย่างเดียว __ไม่อายมั่งเหรอ?__

เขียนเพราะไปอ่านบล็อกคนอื่น ([eigx](http://eigx.wordpress.com/2008/12/02/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%94%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%87/), [wonam](http://wonam.exteen.com/20081203/entry))

 

จอใหม่

คุณคิดว่าถ้าคนอย่างลิ่วเพิ่งได้จอ 21.5 นิ้วที่ความละเอียด full HD มาใช้ที่บ้านแล้วมันจะทำอะไรเป็นอย่างแรก? ดูหนัง? เขียนโปรแกรม?

[คำตอบคือ….](http://picasaweb.google.com/lewcpe/Blognone#5270429107744213794)

ภาพชัด สีสดใส คุ้มเงินเป็นที่สุด

 

Traditional Media is outdated

ผมเข้าไปอยู่วงการสื่อบ้านเราเยอะขึ้นเรื่อยๆ จากการที่ Blognone เป็นที่รู้จักมากขึ้น เริ่มเข้าใจมากขึ้นว่าทำไม Blognone มันถึงเกิด

กระบวนการทำข่าว “ไอที” ในบ้านเรา

– บริษัทเตรียมการเปิดตัวสินค้า ไปจ้างเอเจนซี่มาจัดงานอีเวนต์
– เอเจนซี่ส่งข่าว (โทรศัพท์, SMS, อีเมล ฯลฯ) ไปตามนักข่าว
– บก. ข่าวได้หัวข้อข่าวคร่าวๆ แล้วตัดสินใจว่าจะส่งนักข่าวไปงานไหนดี
– วันรุ่งขึ้นนักข่าวไปงาน กลับสำนักงานมาเขียนข่าว
– ทีม บก. นั่งแก้ไขข่าวกันไป
– ดีพิมพ์ในวันรุ่งขึ้น

ส่วนของ Blognone

– ข่าวต่างประเทศออก
– เขียนลง Blognone

กระบวนการเช่นนี้สร้างความต่างในแง่ของเวลาประมาณ 50-100 ชั่วโมง เพราะช่วงเตรียมงานนั้นส่วนมากในต่างประเทศก็ยังไม่มีข่าวถ้าไม่โดนมือดีฉกข่าวหลุดออกมาซะก่อน แต่ในโลกอินเทอร์เน็ต แค่ 24 ชั่วโมงทุกอย่างก็หมดความหมายไปแล้ว ทำไมผมถึงอยากอ่านข่าวของเมื่อวานนี้กันเล่า?

เรื่องที่น่าสนใจเรื่องต่อไปคือ เอเจนซี่, กับนักข่าวเองควรทำตัวอย่างไรในยุคที่หนึ่งวันในโลกไซเบอร์นั้นเหลือแค่ไม่ถึงสิบชั่วโมงอย่างทุกวันนี้

ไว้คิดออกแล้วมาเขียนต่อ