โปรยาว

ผมเป็นคนหนึ่งที่รำคาญกับระบบโทรศัพท์มือถือบ้านเราที่เปลี่ยนโปรมันหกเดือนครั้ง

ถูกมั่ง แพงมั่ง วันมากบ้าง น้อยบ้าง เบอร์หายไปเลยบ้าง

แต่มันจะเปลี่ยนอะไรกันบ่อยนักหนา (ว่ะ)

ใครมีอำนาจในการสร้างโปรโมชั่นมือถือ ขอโปรนี้เลยครับ

โปรยาว

  • ไม่ต้องถูก ราคาโอเค เท่ากันทุกเบอร์ทั่วไป
  • รับประกันโปรเดียวห้าปีรวด ไร้โอเปอร์เรเตอร์มาถามว่าจะเปลี่ยนเบอร์ไหม
  • สมัครแม้วอะไรไม่ได้เลย ไม่ต้องมี รับสาย กับโทรออกได้ จบ
  • ปิดบริการ SMS, MMS, GPRS และบริการเสียตังค์ทุกอย่างได้ ผ่านทางการเดินเอกสาร

เชื่อเถอะว่าคนสูงอายุกำลังต้องการใช้เทคโนโลยี พวกเขาจำนวนมากไม่ใช้งานกระทั่ง phonebook หลายคนยังพอสมุดจดเบอร์โทรศัพท์

คุณอยากทำโปรพิศดาร 3000 รูปแบบก็ได้ ถ้ามันมีทางเลือกที่เข้าท่าให้กับคนกลุ่มนี้

 

เชื่อ

ตลอดชีวิตของผม ผมใช้โทรศัพท์มือถือมาแล้วประมาณครึ่งโหล สองเครื่องเป็น Nokia และอีกสองเครื่องเป็น Samsung

สองอันดับแรกของโทรศัพท์ที่ขายดีที่สุดในไทยตอนนี้…

เครื่องปัจจุบันผมใช้ Wellcom W3319 เป็นเครื่องหลักเครื่องเดียวมาหลายเดือนแล้ว นับแต่มันวางตลาดมา เห่อมาก ไปซื้อตั้งแต่มันออก

ผมใช้เครื่องนี้ทุกครั้งที่ขึ้นรถไฟฟ้า แม้รอบตัวผมจะเต็มไปด้วย BlackBerry จริงๆ แล้วผมพกเครื่องนี้ไปงานสัมมนา BlackBerry ด้วยซ้ำไป

มีคำถามมากมาย เมื่อผมใช้เครื่อง W3319 นี้ มันทนไหม? ศูนย์มันเป็นยังไง? เสียงดีไหม? ฯลฯ

มีข้อเสียมากมายที่ถามมาเมื่อใหร่ ผมก็ต้องบอกว่ามันห่วย หน้าจอที่ไม่ทนต่อแสงแดดแม้แต่น้อย ความเสถียรในระดับแย่ ผมเจอจอขาวเฉลี่ยสองวันรอบ

แต่ใครถามว่าผมชอบมันไหม ผมก็ตอบได้อย่าเต็มปากเป็นคำว่าชอบมันมาก ทำไมน่ะหรือ

– QWERTY
– jibjib 48 ชั่วโมงต่อเนื่องต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง
– 2,990 บาท เครื่องศูนย์

สามข้อนี้ไม่มีโทรศัพท์เครื่องอื่นให้ได้ และถ้าทั้งสามข้อนี้สำคัญสำหรับคุณ W3319 จะเป็นทางเลือกที่ดี

ที่ผมไม่ชอบคือผู้ผลิตที่ไม่เชื่อแม้แต่ของที่ตัวเองผลิต เราเห็น Nokig, Nokla, Nakia ก้นมากมาย ขณะที่พวกเขาพยายามพร่ำบอกข้อดีของสิ่งที่เขาขาย แต่เขากลับไม่ได้แสดงความเชื่อในสิ่งที่เขาขายว่ามันมีจุดขายอย่างที่พวกเขาบอก

ขณะที่พวกเขาบอกว่าสิ่งที่เขานำเสนอนั้นมีข้อดี แต่เขาก็ได้แค่แอบอิงข้อดีนั้นไว้ภายใต้ชื่ออื่นๆ

ถ้า W3319 ของผมเป็นยี่ห้ออื่นที่ทำอย่างเดียวกัน ผมคงไม่กล้าใช้แม้ความดีมันจะอยู่ครบ

ปล. บทความนี้ไม่ใช่บทความโทรศัพท์

 

ที่หนึ่ง

ไลนัสเคยพูดไว้ครั้งหนึ่งเมื่อเขาไปพูดที่กูเกิลว่า ผู้คนมักถามเขาว่าอนาคตของลินุกซ์จะเป็นอย่างไร

ความเชื่ออย่างหนึ่งของคนทั่วไปคือการที่บุคคลที่ทำอะไรที่ “remarkable” ได้นั้น “น่าเชื่อได้ว่า” พวกเขาเหล่านั้นมักจะมีความสามารถในการหยั่งรู้อนาคต แม้จะสักหน่อยหนึ่ง

กลับข้างกัน ความเป็นเหตุเป็นผลของความเชื่อนี้ มักจะกลายเป็นว่า “เพราะเขารู้อนาคต เขาจึงสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่”

แน่นอน ความสามารถในการมองแนวโน้ม การจับกระแสอย่างถูกทางเป็นเรื่องสำคัญ และมีผลเป็นอย่างมาก แต่ความเป็นจริงคือคนที่อยู่ที่หนึ่งได้นั้น มักจะไม่ได้มากจากการทำ “ถูกเสมอ”

ประเด็นสำคัญอยู่ที่ความทนทานต่อความผิดพลาดต่างหากเล่า

File-KL_Intel_Pentium_A80501 (1)

จำบั๊กในชิปเพนเทียมกันได้ไหม ครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว Andrew Grove เคยถูกโทรศัพท์ปลุกขึ้นมาจากการตัดสินใจผิดพลาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนชิปเพนเทียมที่มีปัญหา ความเสียหายมูลค่ามหาศาล ทั้งในแง่ของการจัดการเปลี่ยนชิป “ทีละตัว” ให้กับผู้ใช้ทุกคน ทั้งในแง่ของชื่อเสียงและภาพพจน์ที่ป่นปี้ไปในชั่วเวลาไม่กี่วัน

ไมโครซอฟท์นั้นจัดได้ว่า “วืด” ยุคอินเทอร์เน็ตไปแล้วครั้งหนึ่ง Windows 3.1 นั้นไม่มีกระทั่ง IP-stack ในตัว (จำ trumpet winsock กันได้ไหม?) ไม่ต้องพูดถึงบราวเซอร์ที่ Netscape นั้นครองตลาดไปอย่างเบ็ดเสร็จ

โซนี่ทำแบตเตอรี่เสี่ยงต่อการระเบิดทีเป็นแสนชุด MemoryStick ที่บอกได้ว่า “ไม่รอด” โตชิบานั้นทำใจกับ HD-DVD ไปแล้ว

ความหายนะเกิดขึ้นเสมอ เมื่อคุณทำอะไรบางอย่าง จุดสำคัญที่สุดอาจจะไม่ใช่ว่าทำอย่างไรจึงจะถูกต้องเสมอ แต่เป็นการแก้ไขได้อย่างถูกต้องเมื่อคุณทำผิดต่างหาก

แม้ว่าจะมีลูกตุกติกอยู่บ้าง (ผิดถูกก็ว่ากันไป) แต่ต้องยอมรับว่าไมโครซอฟท์ทำเกมกับอินเทอร์เน็ตได้ตรงประเด็น จากการทิ้ง MSN ที่มัวแต่หลงทางไปแข่งกับ AOL มาพัฒนาบราวเซอร์, ซื้อ Hotmail, พัฒนา MSN Messenger

ผมไม่เชื่อนักว่า IE ครองตลาดเพราะลูกตุกติกเพียงอย่างเดียว ในสมัยหนึ่งแล้ว IE เป็นบราวเซอร์ที่ทันสมัย เด็มไปด้วยฟีเจอร์ “วื๊บว๊าบ” เพราะยุคนั้นมันแข่งกันอย่างนั้น ไม่ต้องถามหามาตรฐานกัน แถม Frontpage ก็ช่วยสอนเด็กๆ สร้างเว็บมานักต่อนัก

ภูเขาลูกนั้นไมโครซอฟท์ข้ามมาได้ และไมโครซอฟท์ก็ได้ “อิทธิพล” ในตลาดอินเทอร์เน็ตมาจนทุกวันนี้ ภูเขาลูกหน้าคือ Mobile Internet นั้นไมโครซอฟท์ก็ทำท่าจะวืดไปแล้วอีกครั้ง W3C ที่กลับมามีอิทธิพลอีกครั้งก็ดูจะอยู่นอกเรดาร์ของไมโครซอฟท์นานเกินไป

กลับมาดูปาล์มที่วืดไปจากตลาด Smartphone รอบแรกทั้งที่อยู่ในตำแหน่งที่ดีมาก จากการครองตลาด PDA แบบเบ็ดเสร็จ ผมเองเขียนข่าวไอทีในบล็อกตัวเองครั้งแรกๆ ก็เพราะอ่านข่าวปาล์มจำนวนมาก เพื่อจะหาข้อมูลซื้อใช้เองด้วยซ้ำไป และสุดท้ายก็ได้ Zire 72 มาใช้งาน จนทุกวันนี้ก็ยังใช้งานอยู่ แต่ปาล์มเองกลับไม่สามารถออกโทรศัพท์ได้ จนกระทั่งมีบริษัทอื่นมาซื้อ OS ไปทำโทรศัพท์

แต่การแก้ปัญหาของ Palm กลับไม่ได้ดึงปาล์มกลับมาได้ดีพอ การเข้าซื้อ Handspring ช่วยซื้อเวลาให้ปาล์มอยู่ไม่นานนัก สัดส่วนตลาดลดลงราวกับเลือดที่ถูกสูบออก การกลับตัวไม่ทันส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่จนกระทั่งการวางตลาด Palm Pre ที่ดูจะ ช้าเกินไป น้อยเกินไป และอิทธิพลของปาล์มนั้นไม่พอที่จะดึงตลาดได้อีกต่อไป

ความผิดพลาดในวันนั้นเป็นแผลที่ปาล์มไม่มีวันลืม

ว่ากันว่าอุปสรรคช่วยให้เราแข็งแกร่ง บริษัทจำนวนมากที่อยู่เป็นอันดับหนึ่งหลายครั้งสร้างแผนกที่ซ้ำซ้อนเพื่อแข่งกันเอง บริษัทรถใหญ่ๆ มักแบ่งทีมออกแบบเป็นหลายชุดเพื่อสร้างการแข่งขัน ฝ่ายไอทีหลายๆ ที่สร้าง “ฝ่ายแฮกเกอร์” ขึ้นมาเป็นศัตรูกัน

การทำถูกเสมอ ไม่ใช่เรื่องน่าดีใจนัก ผู้บริหารที่ดีมักตั้งคำถามว่า “แล้วถ้ามันผิด” จะเกิดอะไรขึ้นกัน ครึ่งหนึ่งที่เราผิดพลา มันจะพาให้เราล่มจไปกับมันเลยไหม?