One Day More

ภายใต้การต่อสู้ ภายใต้ความคิดว่าฝ่ายหนึ่งถูกฝ่ายหนึ่งผิด มันมีอะไรอยู่ใต้สิ่งเหล่านั้นมากมาก

มันมีความเชื่อ มันมีแรงผลักดันจำนวนมาก มันมีความรัก มันมีความโหยหา มันมีหลักการที่ต่างฝ่ายต่างยึดมั่นเอาไว้

เราจะมองอย่างไร เราจะละทิ้งคุณค่าของอีกฝ่ายหนึ่งเพียงเพราะเขายึดมั่นคนละหลักกับเรา หรือเราจะมองอย่างเรียนรู้ และทำความเข้าใจ

แล้วสิ่งที่เราเลือก จะตราอยู่ในชีวิตเราไปตลอดกาล

 

โกงอีกแล้ว

เรื่องหนึ่งที่ผมไม่ชอบมากๆ ในสังคมไทยวันนี้ คือ การมองว่าปัญหาทุกอย่างมีรากเหง้ามาจากการโกง

การมองเช่นนี้เป็นการมองที่ตื้น และหลายครั้งปัญหาหลายปัญหาก็มีรากเหง้ามาจากความกลัวแบบนี้เอง

คนเรามีแนวโน้มคิดว่า “กันไว้ดีกว่าแก้” จะไม่ทำให้เกิดปัญหาอะไร ผลที่ได้คือกระบวนการมากมายจนการพัฒนาหลายอย่างทำไม่ได้ หรือทำได้แต่ช้า หรือไม่ก็มีต้นทุนสูงมาก

พอต้นทุนสูง คนที่สร้างปัญหาแบบนี้ก็จะมองว่าเป็นการโกง แล้วสร้างกระบวนการที่จะเพิ่มต้นทุนในการพัฒนาเข้าไปอีก เป็นวนเวียนไม่จบสิ้น

มันอาจจะได้เวลามองใหม่ แล้วตั้งคำถามดีๆ ว่า “ปัญหาคืออะไร”

 

ศีลธรรมทำให้ฆ่า

แม้จะพูดและแสดงออกหลายๆ ครั้งเป็นกลุ่มเสรีนิยม แต่การใช้ชีวิตส่วนตัวผมนั้นเป็นแนวอนุรักษ์นิยมค่อนข้างมาก  (ในโลกความเป็นจริงก็ไม่มีใครยืนข้างไหนสุดตัวอยู่แล้ว) เช่น การไม่เห็นด้วยกับการอวัยวะ, ไม่เห็นด้วยกับการทำแท้ง ฯลฯ

แต่เรื่องหนึ่งที่ผมไม่เห็นด้วยเสมอมา คือการเอา “ศีลธรรม” ส่วนตัวไปทำเป็นกฏหมาย ศีลธรรมควรมีสภาพบังคับจากการสอน โน้มน้าว และได้รับการยอมรับจากจิตใจ ไม่ใช่การเอาศีลธรรมไปสวมให้คนอื่นๆ ด้วยการบังคับ

กฏหมายที่บังคับแบบรวมกลุ่มนั้น ควรเป็นกฏเพื่อให้ทุกคนในที่นั้น “โดยปรกติ” สามารถอยู่ร่วมกันได้ (ถ้ามีฆาตกรโรคจิตคงบอกไม่ได้ว่าปรกติ) ไม่ใช่การวางจากรากฐานแห่งศีลธรรม ที่เอาเข้าจริงแต่ละคนก็ไม่ได้เหมือนกัน แต่มีคนกลุ่มเล็กๆ บางกลุ่มพยายามเอาไปวางฐานให้คนอื่นทำตาม

ไม่ใช่แค่ว่าศีลธรรมมัน “มาก” เกินไปสำหรับการอยู่ร่วมกัน แต่ศีลธรรมไม่ใช่กฏสำหรับการอยู่ร่วมกันแต่แรก ศีลธรรมในหลายศาสนาเน้นการให้อภัย เพียงการยอมรับ โดยตัวศีลธรรมก็ถือว่าหายกันไป และต้องให้อภัย “ทั้งหมด” เพื่อที่จะเริ่มกันใหม่ เราคงไม่สามารถวางกระบวนการยุติธรรมจากระบบนี้ได้ หากทุกครั้งที่มีคนรับสารภาพในศาลแล้วก็ถือว่าหายกันไป เริ่มกันใหม่

แต่น่าแปลก คนอันเปี่ยมไปด้วยศีลธรรมในสังคมตอนนี้ ในภาวะหนึ่งช่างผุดผ่อง เป็นคนดี

แต่เมื่อพบคนที่ทำผิดไปจากเส้นศีลธรรมของตัวเอง คนเหล่านี้ก็พร้อมจะลืมเส้นศีลธรรมไปพร้อมกัน แล้วร้องตะโกนว่า “ฆ่ามัน”

พวกเขาไม่สนใจถึงศีลธรรมแห่งการเมตตาหรือให้อภัย พวกเขาลืมไปแม้แต่หลักของความยุติธรรม พวกเขานึกไม่ออกว่ายังมีคนอีกมากมายที่มีหลักศีลธรรมต่างจากเขา และทุกคนต้องอยู่ร่วมกัน

พวกเขาปกป้องศีลธรรมด้วยการฆ่า

 

ATM

  • มึงจะเกาหลีไปไหนครับ นึกว่าดู My Sassy Girl ภาคสาม
  • ผลคือนางเอกแสดงขัดๆ ตลอดเวลา มันรู้สึกแปลกๆ ทั้งเรื่อง ดึงอารมณ์ออกจากเรื่อง
  • พระเอกเล่นดี ขำไม่หลอก
  • สปอนเซอร์มีชั้นเชิงกว่ากวน มึน โฮ เยอะ หวังว่าจะดีขึ้นกว่านี้ไปเรื่อยๆ เลิกๆ เสียทีไอ้ที่อยู่ดีๆ ยัดๆ โลโก้เข้ามาในเรือง (ส่วนนึงคงเป็นเพราะยอมเอาสปอนเซอร์ขึ้นต้นหนังไปแล้ว ก็ยังดีกว่าแทรกมาแบบไร้รสนิยมนะ)
  • เข้าใจว่าตั้งใจทำขายต่างประเทศมาก มุขเป็นภาษากายเยอะ ต้องรอดูว่าจะทำสำเร็จไหม