Emergency Couple

Emergency_Man_and_Woman-p02

ดูจาก iflix เหมือนเดิม พบว่าน่าสนใจกว่าเรื่องอื่นๆ ที่เคยดูหลายประเด็น

  • นำเสนอมุมมองสังคมต่อคนเคย “หย่า” แม้แต่ผู้ชายเองก็เป็นจุดด่างพร้อย
  • ผู้หญิงนี่ยิ่งหนัก โดนมองว่า สกปรก (ในเรื่องนี่ตอนนึงพูดถึงขนาดว่าเคยเป็นแฟนกับหลายๆ คนก็ถือว่าสกปรกแล้ว) ช่วงแรงๆ นี่มีมุมมองว่าผู้หญิงที่หย่ามาแล้วเป็นผู้หญิง “ง่าย” ไปเลย
  • มุมมองแบบนี้นำไปถึงคำถามว่าจะหย่าดีไหม ในเรื่องนำเสนอคู่ที่ “น่าจะ” หย่ากันไป แต่ก็ไม่หย่า
  • Ji Hyo เล่นด้วยบทบาทตัวเองใน Running Man ร้อง “ย่า!” มันทั้งเรื่อง คาแรกเตอร์ไม่เปลี่ยน อันนี้คงเอามาเป็นจุดขายนึง คนดูอาจจะจำภาพแบบนี้ไปแล้ว กลับไปเป็นสวยเย็นๆ แบบ Princess Hours ไม่ได้แล้ว
  • เล่นกับคำว่า Emergency ด้วยการที่ตัวหลักๆ เป็นหมอ ER กันหมด และพระเอกนางเอกแต่งงานกันแบบด่วนๆ
  • Deuter นี่ “เกือบ” จะเข้ากับเนื้อเรื่อง เป็น token of appreciation จากนางเอกให้หัวหน้า แต่ทั้งเรื่องไม่มีเดินป่า ไม่มีอะไรเลย อยู่ๆ ใส่แจ็คเก็ตกันลมเข้าผับมันก็เกินไปหน่อย แถมต้องให้คนอื่นมานั่งชมว่าดูดีอีก เลี่ยนเกิน
  • ตอนนางเอกเดินเข้าช็อปก็ตะลึงไปหน่อย พี่ตัดเข้าโฆษณาเลยก็ได้ครับฉากแบบนี้
  • แต่เอาล่ะ มันก็มีส่วนในเนื้อเรื่อง พอทนๆ อันนี้แป๊บซีใน กวน มึน โฮ บ้านเรายังทำดีกว่าอีก (ไม่นับชิ้นอื่นที่ใส่มาเลวๆ)
  • ฉากพระเอกร้องเพลง The Scent of Flower (ซึ่งน่าจะเป็นฉากสำคัญ) ตัดต่อแบบปากไม่ตรงเพลง น่ารำคาญพอดู
  • ฉากรักษาคนไข้โหดได้ใจ ดู House MD มันทำ LP มาแทบทุกตอนยังไม่ค่อยเห็นเข็ม อันนี้จิ้ม LP ให้ดูจะๆ เด็กเล็กอีกต่างหาก
  • จบแบบ essay แบบเดียวกับเรือง Flower Boys Next Door โดยรวมๆ ก็ชอบการจบแบบนี้ คือมันก็เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ไม่รู้ว่าอนาคตเป็นไงหรอก แต่ฉากนี้ของชีวิตมันผ่านไปได้แล้ว
  • คู่รอง Han A-Reum กับ Im Yong-Kyu ใช้โฆษณาหูฟัง Beats โดยเฉพาะ ตอนหลังให้น้ำหนักกับคู่นี้มาก ชนิดแล้วทั้งสองก็รักกันตลอดไปเพื่อจะใส่หูฟังฟังเพลงด้วยกัน เสียสมดุลเรื่องตอนท้ายไปเยอะ (คู่หัวหน้าที่สำคัญกับเนื้อเรื่องกว่ายังไม่เฉลยขนาดนี้)
  • เข้าใจว่าเรตติ้งคงดี เพราะเป็น 21 ตอน แต่ตอนท้ายๆ พี่ flashback ไปมาเรื่อยๆ แบบนี้มันก็แย่ไปนะ
 

Facebook

Screenshot_2016-06-04_00-48-51
สิ่งที่เกลียด Facebook มากคือมันพยายามทำทุกอย่างให้เรา “overshare” ตลอดเวลา การควบคุมว่าใครเห็นทำได้ยากมาก การตั้งว่า Friend เป็นการตั้งแบบเกือบจะ “โกหก” ผู้ใช้ เพราะค่ามาตรฐานคือเปิดให้ Friend ของคนที่เราแท็กเห็นด้วย
ในโลกที่คนเราห่างกันเพียง 5 degree การแชร์คนที่ห่างไป 2 degree โดยบอกว่าเรา “ควบคุมได้” เป็นเรื่องโกหก
 
ค่ามาตรฐานเวลาแชร์อะไรบน Facebook ตอนนี้ เลยต้องตั้งไว้แบบนี้ตลอดเวลา และตั้งให้ “เพื่อน” ที่เราไม่ค่อยได้คุยแล้วไปอยู่ในฐาน Acquaintances เรื่อยๆ ซึ่งจริงๆ แล้วมันควรจะมีฟีเจอร์ตั้งเวลาว่าหากไม่ได้มี ปฎิสัมพันธ์ระหว่างกันแล้วนานพอก็ควรจะปรับเองด้วยซ้ำ
 

Fair Use vs. Copyright Free

จากข่าว  Oracle v. Google คิดว่าการที่กูเกิลชนะท่า Fair Use ไม่ใช่ท่าที่ดีนัก มีประเด็นที่ควรจดไว้ถามผู้รู้ (ด้านกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาสหรัฐฯ)

  • การเป็น fair use มีข้อจำกัดกว่าการไร้การคุ้มครองไปเลยหลายอย่าง
  • สิ่งสำคัญในการอ้าง fair use คือ งานต้องไม่มากเกินไป (เมื่อเทียบกับเนื้องานทั้งหมด) เช่น หนังสือ 100 หน้าก็อปได้ 1 หน้า กรณี API เป็น fair use ยังไม่มีบรรทัดฐานเสียที่เดียวว่าแค่ไหน ถ้า API บางอย่างมันเยอะเข้าจะใช้งานได้ต่อไปไหม เช่นพวก util lib ทั้งหลาย โค้ดจริงอาจจะยาวกว่า API ไม่ถึงสิบเท่าตัว ต่อให้เขียนใหม่ตัวประกาศ API ก็อาจจะเกิน 10%
  • กรณีแอนดรอยด์ การแพ็กรวมแอนดรอยด์ทั้งหมด (ไม่ใช่แค่จาวาในแอนดรอยด์) ทำให้โค้ด Java ที่ถูกสำเนามาใช้งานมีระดับต่ำ กรณีที่ทำ lib ประเภท drop-in replacement ก็จะมีคำถามหนัก อย่างกรณีจาวา ถ้าคนทำออราเคิลหันไปฟ้อง  Apache Harmony จะรอดไหม และหลับไปคำถามข้อที่แล้วคือ งานใหม่ที่เทียบกับ API ที่สำเนามาก็จะน้อยลง จะรอดไหม?
  • โดยส่วนตัวสนับสนุน copyright reform ให้ถอดการคุ้มครองส่วนนี้ทิ้งไปเสียเลย การประกาศส่วนเชื่อมต่อซอฟต์แวร์เข้ากับซอฟต์แวร์รายอื่น (public API) ให้ไม่มีลิขสิทธิ์ ฮาร์ดแวร์ประกาศแบบเดียวกันได้ไหม? ระบบบัสเช่น SPI, I2C จะไม่มีลิขสิทธิ์ได้ไหม อันนี้่น่าสนใจต้องหาข้อมูลต่อ ส่วน lib ที่ใช้ภายในไม่ได้ยกเว้นไปด้วย (กลับไปแบบ Alsup ว่า แต่อาศัยกระบวนการแก้กฎหมายแทน)
 

1984

เมื่อกระบวนการพัฒนาถึงขีดสุด การควบคุมจะสมบูรณ์แบบ ไม่มีรายการอิสระที่ขวางหูหวางตาอีกต่อไป มีเพียงรายการที่ “เป็นจริง” เท่านั้นที่จะได้ออกอากาศ

เมื่อถึงจุดนั้น เราจะ “ดูแล” กันและกันเป็นอย่างดี ไม่มีใครที่ถูกปล่อยประละเลยไป

เราทุกคนจะร่วมกัน “รายงาน” เมื่อมีผู้หลงผิด พวกเขาจะได้รับการ “อบรม” เพื่อให้กลับมายังหนทางที่ถูกต้อง การออกนอกลู่นอกทางนั้นมีเพียงเล็กน้อยเพราะ “ทุกคน” ช่วยกัน ความเป็นพ่อแม่ลูก ความเป็นคู่ชีวิต ล้วนไม่เป็นอุปสรรคต่อการ “ดูแล” กันและกันนี้

ไม่มีคำถาม มีเพียงความเชื่อใจใน “ความดี”