LINE Hidden Chat

LINE อัพเดต

  • ยัง verify key ได้อยู่
  • แต่ก็คุยบน Chrome App ได้เลย แค่ล็อกอิน (ไม่ใช่ QR login แบบ Signal/WhatsApp) แถมโทรศัพท์ offline ก็ยังส่งข้อความได้
  • แสดงว่า key ส่งผ่านเซิร์ฟเวอร์? กระบวนการดูประหลาด LINE ไม่เปิดเผยว่ากระบวนการเข้ารหัสเป็นยังไง กรณี Signal/Whats App ไม่เคยส่งกุญแจออกจากเครื่อง เลยใช้บนเดสก์ทอปไม่ได้เวลาโทรศัพท์ offline
  • ตั้งเวลาก็ไม่ได้
  • ดูอาการแล้ว LINE จะไม่สนใจการแชตอย่างเป็นความลับแล้ว แค่ใส่ end-to-end เอาไว้แบบแปลกๆ ให้ได้ชื่อว่าเข้ารหัส
  • เมลไปถามซัพพอร์ตแล้วตอบไม่รู้เรื่อง โยนหน้าวิธีการใช้มา
 

ความเป็นส่วนตัว

ช่วงนี้อ่านหนังสือเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวหลายเล่ม (สองเล่มหลักคือ Data and Goliah กับ The Smart Girl’s Guide to Privacy) คิดขึ้นมาได้ว่าทำไมความเป็นส่วนตัวในบ้านเราถึงไม่ค่อยดีนัก

คำอธิบายในหนังสือมักระบุว่าความเป็นส่วนตัวไม่ใช่ประเด็นของสิ่งที่เราต้องปกปิด แต่เป็นความสามารถในการควบคุมว่าเราจะนำเสนอด้านไหนของเราออกไป และนำเสนออย่างที่เราต้องการ ในช่วงเวลาที่เราต้องการ

ในแง่ของ mindset คนรอบๆ ตัว มักจะละเลยการมองว่าคนเราจริงๆ แล้วมีหลายด้าน และเรารู้จักเขาเท่าที่เขานำเสนอมา โดยไม่จำเป็นว่าการนำเสนอเช่นนั้นเป็นการหลอกลวงแต่อย่างใด แต่เพียงแค่ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับเขา ทำให้เขาแสดงตัวตนออกมาแบบหนึ่ง และเราแสดงตัวตนของเราออกไปอีกแบบหนึ่ง

เรานำเสนอตัวตนของเราในแบบหนึ่งในที่ทำงาน เรานำเสนออีกแบบหนึ่งกับครอบครัว และเราอาจจะนำเสนออีกแบบหนึ่งกับเพื่อน สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่การปลอมแต่อย่างใด เราอาจจะอยู่กับตัวตนหลายรูปแบบเหล่านี้ไปจนวันตาย

การตระหนักว่าแต่ละคนมีสิทธิ์นำเสนอตัวตนตามที่ตัวเองต้องการจึงเป็นแนวคิดสำคัญของความเป็นส่วนตัว ขณะที่ความคิดของคนจำนวนมากมักไม่ตระหนักว่าคนเราสามารถนำเสนอตัวตนได้หลายแบบ เรามักคิดว่าคนเรามีเปลือกนอก กับตัวตนที่แท้จริงเพียงเท่านั้น การที่คนๆ หนึ่งเสียความเป็นส่วนตัวไปจึงไม่ได้เสียอะไรมากไปกว่ามีคนที่รู้ตัวตนที่แท้จริง มองภาพแบบละคร ถ้าตัวตนที่แท้จริงของเราไม่ใช่ตัวร้าย เราก็ไม่ต้องกลัวอะไรที่มีคนรู้ตัวตนที่แท้จริง

ยกตัวอย่างการใส่ชุดว่ายน้ำ เราอาจจะใส่ชุดว่ายน้ำที่ค่อนข้างเปิดเผยเนื้อหนัง แต่เราเลือกที่จะใส่มันในเวลาที่เราต้องการ สถานที่ที่เราต้องการ (อาจจะชายทะเล) ขณะเดียวกันเราเลือกที่จะใส่ชุดทำงานเต็มรูปแบบเมื่อเราเข้าออฟฟิศ

มันไม่มีความจริงหรือความเท็จ การปกปิดหรือการเปิดเผย เราไม่สะดวกใจหากต้องใส่ชุดว่ายน้ำเข้าออฟฟิศไปทำงาน นายจ้างไม่ควรสิทธิ์บังคับลูกจ้างให้แต่งตัวเปิดเผยเช่นนั้นโดยอ้างว่าเวลาไปทะเลก็ใส่กันได้ เช่นเดียวกับข้อมูลอื่นๆ ที่เราคุยกับใคร นัดใครไปกินข้าวที่ไหน เราจะบอกอะไรใคร มันก็ไม่ควรมีใครบังคับให้เราทำ โดยอ้างว่าทีกับคนอื่นทำได้เช่นกัน

 

Good Doctor

Good_Doctor-p1

เจอมาจาก iflix กดดูเพราะคิดว่าละครหมอๆ ของเกาหลีทำดี เจอว่าเรื่องนี้น่าสนใจเป็นพิเศษ เพราะเป็นเรื่องของคนเป็น autistic แต่มีความสามารถพิเศษแล้วจะมาเป็นหมอ ปีที่ผ่านมาอ่านหนังสือเกี่ยวกับ autistic ไปสองเล่ม (The Reason I Jump กับ The Curious Incident of the Dog in the Night-Time) สมัยเด็กๆ เองก็มี Rain man เป็นหนังในตำนาน

  • เปิดเรื่องดี สองตอนแรกนี่เออ เดินเรื่องโอเคเลย น่าสนใจตามต่อ แต่รวมๆ เรื่องทั้งหมดก็เดาได้ และตัวบทเองก็ไม่กล้าฉีกอะไรมากมาย
  • หนังแนวนี้น่าจะมีประเด็นหลักๆ คือการก้าวข้ามตัวโรคเพื่อทำงาน กับการก้าวข้ามเพื่อมีความสัมพันธ์ส่วนตัว (อยู่ในโปสเตอร์ชัดเจน)
  • แต่น้ำหนักจริงๆ กลับอยู่กับประเด็นแรกเกือบทั้งหมด ประเด็นหลังนี่บีบๆ อยู่ในตอนสองตอนหลังแล้วผ่านไปง่ายๆ เลย คนเขียนบทคงกลัวเรื่องมันจะดาร์กไป
  • พี่สาวคนไข้สวยกว่านางเอก
  • นางเอกคนเดียวกับเรื่อง Love Forecast ที่เคยดูบนเครื่องบิน ตอนแรกจำไม่ได้ว่าคนเดียวกัน แต่ใน Love Forecast ดูสวยกว่าในเรื่องนี้
  • โฆษณามีเลวๆ หลายจุด ช็อตพวกเครื่องดื่มอะไรนี่ไม่ว่ากัน แต่ช็อตไปกินแซนวิช Subway นี่เลวจนกระทั่งรู้สึกว่าไม่ทำลายเรื่องแล้ว คือมันกระโดดออกจากเรื่องจนเหมือนไม่ได้ tie-in แค่เป็นช่วงโฆษณาที่หลุดเข้ามาใน streaming ฉากรองลงมาคือนางเอกไปเดินป่าเจอหมอดู
 

LUKS

เมื่อวานลง Ubuntu ใหม่ แล้วหา USB มาทำ installer กวาดๆ ดูในเก๊ะได้อันที่น่าจะไม่ได้ใช้นานแล้วมาหนึ่งอัน

เสียบเครื่องไป LUKS เด้งขึ้นมา ลองรหัสผ่านอยู่สี่ห้าอัน ผิดหมด เดาๆ ตัวเองว่าน่าจะเป็นตัวที่ทำไว้สมัยหัด LUKS ใหม่ๆ รหัสน่าจะมั่วๆ เลยจับ format ทิ้งเลย เอามาใช้งาน

ความคิดแว๊บขึ้นมาในหัวว่าถ้าวันนึงโดนค้นบ้านแล้วเจอไอ้แบบนี้ จะต้องเข้าคุกโดยไม่เจออะไร แต่ไม่มีปัญญานึกรหัสไปบอกเขาไหม