Brave New World

51V2uq+f5FL._SL300_

ผ่านปีนี้ไปสามไตรมาสพบว่าอ่านหนังสือไปได้เยอะขึ้นมาก เพราะนับ audiobook ที่ฟังตอนขับรถทุกวัน เหมือนได้เวลากลับมาฟรีๆ วันละชั่วโมง

การฟัง audiobook ยากกว่าดูหนังแบบไม่มี subtitle มากเพราะไม่มีภาพให้เราเดาได้ว่าคำที่เสียงออกมานี้เป็นคำอะไร แต่ถ้าดูหนังแบบไม่มี subtitle ได้ทนๆ ฟังไปสักหน่อยก็น่าจะเริ่มเข้าใจได้

ปรากฎว่าเจอ Brave New World นี่ไม่ไหว เนื้อเรื่องมันเป็น 3 บริบทสลับไปมา พอฟังหลุดตรงไหนแล้วมันหลุดยาว

คงเป็น audiobook เล่มแรกที่ซื้อมาแล้วจะต้องทิ้งไม่ได้กลับมาฟังอีก แต่ก็โอเคเพราะซื้อมาตอนลดกลางปี แถมมีหนังสือในชั้นอยู่ก่อนแล้ว

 

Dell Venue 8

10389255_10152793585363996_1482658615289105808_n

เพิ่งซื้อ Dell Venue 8 (2013) ให้ที่บ้านไปแทนที่ iPad เดิม มันทำงานได้ดีทุกอย่าง แถมราคาถูก (ได้มาจาก Cdiscount สี่พันกว่าบาท)

รุ่นใหม่ปี 2014 มาแก้ไขปัญหาของเดิมไปหลายอย่าง จากโทรไม่ได้ (ซึ่งเลวมาก ไม่ใช่แค่โทรไม่ได้ รับ SMS ยังไม่ได้เลย) รุ่นใหม่โทรได้แล้ว แถมจอ 1080p เลยสนใจว่าจะซื้อมาใช้เอง

ปรากฎว่ามันลดแรมจาก 2GB ในปีที่แล้วเหลือ 1GB

ข้ามไป รอแบรนด์อื่น

 

Fury

10501791_285235271659266_2865517243514964245_n

ไม่ได้ดูหนังอารมณ์แบบนี้มาตั้งแต่ Saving Private Ryan โทนหนังแนวๆ เดียวกัน

โม้นิดหน่อยตอนต้นเรื่องว่ารถถังเยอรมันเยอะกว่า สร้างภาพว่าพระเอกลำบาก แต่จริงๆ แล้วปริมาณรถถังนี่ฝ่ายสัมพันธมิตรเยอะกว่าแบบเทียบไม่ติด

มีฉากสู้กับรถถัง Tiger I คันเดียวสอย Sherman ได้สามคัน อ่านดูก็ประมาณนั้นจริงๆ Tiger I เกราะหนามาก แถมหนัก 80 ตัน ถ้า Sherman ไม่ยิงจ่อๆ จะยิงไม่เข้า

แต่ Tiger I ก็ข้อเสียเยอะ ค่าผลิตแพงมาก ใช้เวลาผลิตนาน รถหนักจัดทำให้วิ่งบนสะพานไม่ได้ (ตอนขนส่งในหนังก็ลำบาก ต้องสร้างถนนให้มันเฉพาะ)

หนังไปถ่ายในอังกฤษเพราะรถถังส่วนใหญ่อยู่ในยุโรป อเมริกาไปรบแล้วทิ้งไว้เลย ไม่เอากลับ

กลับบ้านมานั่งอ่านประวัติศาสตร์ช่วงสงครามจบ จากที่เคยอ่านแต่ช่วงที่แยกเบอร์ลินแล้ว

 

สภาพอุดมคติ

เวลาพูดคุยกันโดยเฉพาะเรื่องการเมืองกับใครสักคนในช่วงปีที่ผ่านมา เรื่องน่าเบื่ออย่างหนึ่งคือการยกสภาพความจริง ว่าสภาพอุดมคตินั้นไม่มีจริง

สักพักข้อโต้แย้งว่าสภาพอุดมคติไม่มีจริงก็กลายเป็นข้อสนับสนุนจากสภาพห่างไกล จากความเป็นอุดมคติไปได้อย่างน่ามหัศจรรย์

ข้อเท็จจริง (ซึ่งเป็นได้เพียงเท็จหรือจริง) ว่าสภาพอุดมคติไม่มีจริง มักเป็นการโต้เถียงที่ไม่ก่อให้เกิดปัญญาและความคิดใดๆ และสวนทางกับข้อเท็จจริง (อีกเช่นกัน) ว่าความรู้จำนวนมากที่เราใช้ในชีวิตจริงทุกวันนี้ มาจากการเรียนสภาพอุดมคติของสิ่งรอบตัวเราจำนวนมาก

เราคงไม่บอกว่ากฎของนิวตันไม่เป็นจริง แม้จะเล็กน้อยแค่ไหน แล้วก็เลิกเรียนมันไปเสียเฉยๆ

การไม่อยู่ ไม่เคยอยู่ หรือไม่มีใครเคยอยู่ ในสภาพอุดมคติ ไม่ได้บอกว่าเราไม่สามารถเข้าใกล้ หรือไม่สามารถเข้าใกล้ สภาพอุดมคติไปได้อีกขั้น ปัญหาหลายอย่างที่เกิดจากสภาพนอกเหนือสภาวะอุดมคติสามารถจัดการได้หากเราเข้าใกล้สภาวะมากพอ แบบเดียวกับที่สูตรฟิสิกส์หลายตัวสามารถทำให้ง่ายลงด้วยคำว่า “น้อยมากตัดทิ้ง”

การหาเส้นทาง การรู้ทิศทางที่จะเดิน ยังไงคงดีซะกว่าเดินเปะปะไปมา