My love from the star

เดือนที่แล้วกด iflix สองปีไปแล้ว มองๆ ว่าจะดูเรื่องอะไร ในรายการเรื่อง trending มีเรื่องนี้โผล่มา ได้ยินว่าเดือนเป็นติ่ง จัดไป

  • จวน จีฮุน (เขียนให้ถูกเขียนไงว่ะ) แก่ลงเยอะ ดูครั้งสุดท้ายคือ Il Mare สมัยเรียนปริญญาตรี ตอนแรกๆ ไม่แน่ใจนึกว่าคนละคน
  • ยังจำภาพนิ่งๆ ดุๆ ของจีฮุนสมัยโน้นอยู่ ซึ่งตอนแรกๆ ภาพดาราใหญ่ ก็เออ เข้า แต่พอเป็นฉากตลกแล้วมันขัดๆ
  • Yoo In-na (บทรอง) ดูเด็กโคตร นึกว่าห่างจากนางเอกสักสิบปี มาดูทีหลัง อ่าว อายุพอๆ กัน
  • บทดี ไม่พยายามลึกอะไรมาก ยังเป็นตัวร้ายตัวดีอยู่ แต่เนื้อเรื่องมีหลาย line (ความรัก, สมบัติ, พระเอกเป็นเอเลี่ยน) ให้เล่นไปเรื่อยๆ รวมๆ มันก็มีเนื้อเรื่องแน่นดี
  • Suzy โผล่มานี่กระโดดออกจากเรื่องรุนแรง เอาใจแฟนคลับคงเข้าใจได้ แต่ในความเป็นละครแล้วมันกระชากคนดูออกจากเรื่องไปเลย นึกว่าเป็นวาไรตี้มีดารามาเซอร์ไพรซ์ คือไม่ได้เข้ามาเนียนๆ ในเรื่องด้วย จงใจฉากสว่างมาเลย อะไรของเค้าว่ะ
  • Galaxy Gear เพื่ออะไร
  • ชอบตอนจบ คือละครรักเอเชียมันจบไม่แฮปปี้ไม่ได้ แต่บทจบเรื่องนี้หาทางลงได้ดี ไม่ใช่ว่าเออ แล้วทั้งสองก็รักกันตลอดไป
 

In Ear

น่าจะเป็น Shure SE535LTD เปลี่ยนสายเป็นสายขาว EAC64CL

หูฟังเปล่าๆ 15,900 บาท สีแดงเป็นรุ่น LTD ไม่เห็นในไทย เปลี่ยนสายอีกพันกว่าบาท

ลาก่อน

 

Endless Nights in Aurora

Endless Nights in Aurora เป็นหนังรักไต้หวัน (ถ้าไม่ได้บิน China Airlines คงไม่มีโอกาสได้ดู) เนื้อเรื่อเล่นกับโควทที่บอกว่า “รักแรกมีไว้เพื่อเจ็บปวด”

เนื้อเรื่องสลับแทรคไปมาระหว่างอดีตและปัจจุบัน ไปจนถึงคู่และเหตุผลที่แต่ละคนว่าทำไมถึงตัดสินใจตามในเรื่อง ทำให้ครึ่งเรื่องแรกจะงงมาก เพราะต่อกันไม่ติด แต่พอเริ่มจับเรื่องราวได้แล้วครึ่งเรื่องหลังก็ดูสนุกดี

ตัวบทเล่นกับอารมณ์ของเรื่องมากกว่าเหตุผลจากเนื้อเรื่อง เข้าใจว่าได้อิทธิพลมาจากบทละครที่ไปดัดแปลงมาเยอะพอสมควร แต่อารมณ์ของหนังก็ไม่ได้เน้นประเภทขับน้ำตาท่วมจออะไรขนาดนั้น

ชอบเป็นพิเศษในส่วนบทหนังที่แม้จะแปลกๆ แต่ก็ค่อนข้างไม่ซ้ำใคร

 

หน้าที่แห่งรัฐ

เคยคิดเรื่องนี้ไว้นาน ช่วงนี้มีประเด็นสังคมก็ได้เวลาเอามาเขียนสักที

ผมโตมากับความคิดด้านเศรษฐกิจแบบเสรีนิยมค่อนข้างมาก (ที่บ้านมีธุรกิจ, เล่นหุ้น ฯลฯ) โดยทั่วไปแล้วจึงไม่ค่อยเชื่อการแทรงแซงของรัฐนัก ทั้งค่าแรงขั้นต่ำ การแทรกแซงราคาสินค้า ฯลฯ

ผมเติบโตมาในโลกอินเทอร์เน็ต โลกที่การแข่งขันเสรีแบบสุดขั้วแทบจะเป็นอนาธิปไตย และเห็นการแข่งขันอย่างรุนแรงช่วยให้โลกโดยรวมเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยรวมแล้วคนมีอาชีพ, มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น

แต่ในโลกความเป็นจริงมีคนไม่สามารถปรับตัวได้เสมอ มีคนที่เราอาจจะมองว่าเขาไร้ความสามารถหรืออะไรก็ได้ เขาอาจจะไม่ต่างจากเราแต่พลาดพลั้งไปบางครั้งและไม่สามารถกลับมาแข่งขันในโลกธุรกิจหรือการทำอาชีพได้อีก

สังคมที่ดีในความคิดของผม รัฐจึงมีหน้าที่แค่สองอย่าง สนับสนุนการแข่งขัน และดูแลความเป็นอยู่ขั้นต่ำ

เราแต่ละคนอาจจะพ่ายแพ้ได้ในบางระดับ แม้แต่คนชั้นกลางเองทุกวันนี้อยู่ดีๆ มีปัญหาสุขภาพไม่หนักหนามากก็อาจจะกลายเป็นผู้พ่ายแพ้ไปได้ง่ายๆ คนจบใหม่ๆ เกิดมีเหตุต้องผ่าตัดสักครั้งก็ไม่สามารถดูแลตัวเองในระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมเต็มรูปแบบได้แล้ว พวกเขาอาจจะกลายเป็นคนล้มละลายได้ง่ายๆ หากไม่มีครอบครัวหนุนหลัง หรือสวัสดิการสังคม

รัฐจึงควรมอบความเป็นอยู่ขั้นพื้นฐานให้กับทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อให้พวกเขาลุกขึ้นสู้กับระบบเศรษฐกิจทุนนิยมต่อไปได้

ระบบประกันขั้นต่ำที่สุดที่เราเห็นในไทยคือระบบประกันสุขภาพ ที่ทุกคนเข้าถึงได้ แม้จะมีเสียงบ่นว่าบริการต้องรอนาน แพทย์มีเวลาให้กับคนไข้แต่ละคนจำกัด ฯลฯ แต่บริการขั้นพื้นฐานก็ทำหน้าที่ได้ดี

ความเป็นอยู่ขั้นต่ำไม่ควรจำกัดอยู่เฉพาะเวลาป่วย ในความเชื่อของผมปัจจัยสี่ทั้งหมดต้องมีบริการขั้นต่ำไว้ทั้งหมด คนเราที่ผิดพลาดอะไรไป สังคมควรอุ้มชูให้เขาได้เริ่มต้นจากจุดที่ไม่ต่ำเกินไป ความเป็นอยู่พื้นฐานอย่างเครื่องนุ่งห่ม, อาหาร/น้ำดื่ม, ที่อยู่อาศัย เราควรบอกได้ว่าสังคมเรามาไกลในระดับที่ดูแลเรื่องเหล่านี้ให้กับทุกคนในสังคมได้

วันหนึ่งถ้าคุณล้มละลาย บ้านถูกยึด ทรัพย์สินหมดตัว รัฐควรมีที่ทางกับคุณที่จะพอมีอาหาร, น้ำดื่ม, และที่อยู่อาศัย ที่อยู่อาศัยเหล่านี้อาจจะไม่สะดวกสบาย หอนอนสำหรับคนไร้บ้านอาจจะไม่มีความเป็นส่วนตัวนักหรือไม่มีความสะดวกสบาย แต่ก็มอบความปลอดภัยในชีวิต มีสุขอนามัยที่ดี อาหารที่รัฐมอบให้อาจจะไม่ได้อร่อยอะไรแต่ก็สะอาดและปลอดภัย

ทุกคนควรมีจุดเริ่มต้นที่ไม่แย่เกินไป คนที่มาจากครอบครัวที่จนที่สุดจะสามารถเก็บหอมรอมริบจากการอาศัยในที่อยู่อาศัยที่รัฐจัดให้ได้ วันหนึ่งเมื่อฐานะของเขาดีขึ้นพวกเขาก็คงจะแสวงหาความสะดวกสบายที่ดีกว่าเดิม พวกเขากลับออกไปจ่ายภาษี ไม่ได้ใช้ที่อยู่หรืออาหารที่รัฐมอบให้อีกต่อไป เช่นเดียวกับทุกวันนี้คนคนชั้นกลางขึ้นมาสักหน่อยก็อาจจะไม่ได้เข้าโรงพยาบาลรัฐ ขณะเดียวกันเมื่อวันหนึ่งที่พวกเขาพลาดพลั้ง ก็ไม่มีใครต้องคุ้นขยะกิน หรืออาบน้ำในคลอง ทุกวันนี้คนชั้นกลางเองที่ป่วยหนักขึ้นมาจนฐานะไม่สามารถรองรับไหวก็ยังสามารถเข้ารักษาในสถานพยาบาลของรัฐ ได้โดยไม่ต้องล้มละลายกันไป

เมื่อพร้อมอีกครั้งก็เข้าไปแข่งขันกันใหม่