ถ้าเราเลือกได้

คนเรามีสิ่งที่เราเลือกไม่ได้มากมาย บางครั้งเราก็เป็นเพียงตัวแปรหนึ่งในตัวแปรนับในถ้วนแห่งจักรวาล

เราพร่ำบนถึงความไม่ยุติธรรมต่างๆ มากมายในชีวิต เรารู้สึกว่าเราถูกกำหนดอย่างไม่เป็นธรรม

 

แต่ถ้าเราเลือกได้ เราจะเลือกได้จริงหรือ

แต่ถ้าเราต้องเป็นคนเลือก เราจะแบกรับความผิดชอบจากการตัดสินใจที่เราเคยพร่ำบ่นได้จริงหรือ

 

และบางทีเมื่อเรามองเวลาผ่านไป

เรื่องราวที่เราไม่ได้ตัดสินใจ ไม่ได้เลือก มันคงไม่ยุติธรรมกับใครสักคนบนโลกนี้

 

แต่บางที ความยุติธรรมที่สุดคือเราไม่ต้องแบกรับเรื่องราวทั้งหมดไว้เอง

 

พี่มาก พระโขนง [SPOIL]

  • ข้ามกาลเวลา ข้ามวัฒนธรรม ไม่มีปีพ.ศ.
  • ความเห็นแก่ตัวคืออะไร การทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาเป็นการเห็นแก่ตัวไหม การยอมทนกับความลับที่ต้องเก็บไว้อยู่กับตัวเองเป็นความเสียสละไหม
  • ถ้ามองการยอมทนกับความลับเป็นความเสียสละ ในมุมนี้ “พี่มาก” ยิ่งใหญ่มาก อาจจะมากกว่านางนากเอง แว๊บเดียวที่รู้ก็ตัดสินใจได้ และเก็บทุกอย่างไว้กับตัวเอง
  • ฉากสวนสนุก เหมือนยกมาเรื่องเพื่อนสนิท เลยรู้สึกขัดใจทั้งฉาก
  • ผมอาจจะเส้นลึกไปหน่อย แต่มุกไม่ขำมีมาเรื่อยๆ แต่โดยรวมๆ ทั้งเรื่องลืนไหลดี
  • คนแปลกแยก เป็นแพะง่ายมาก ทั้งในหนังและโลกความเป็นจริง
 

ปริศนา

เพิ่งเคยดูละครของค่าย DreamBox เป็นครั้งแรกหลังจากดูของทางฝั่ง Scenario มาหลายรอบแล้ว

ปริศนาเป็นนิยายที่ดูเรื่องย่อแล้วก็นึกออกว่าสร้างละครเวทีได้ดีแน่ๆ เรื่องราวของหญิงสาวที่ล้ำยุคกับชายสูงศักดิ์หัวโบราณ สร้างความ contrast ให้กับเรื่องได้พร้อมๆ กับฉากแนวพีเรียดที่ชวนฝัน มันเป็นเรื่องของผู้หญิงที่บังเอิญได้ไปเรียนสหรัฐฯ ตั้งแต่เด็ก และกลับมาเมืองไทยเมื่อโตเป็นสาว ปริศนามีความหลังหลายด้าน ทั้งพ่อที่ตายก่อนเธอเกิด ชาติกำเนิดของเธอที่ไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นลูกของพ่อจริงๆ แม่ที่แยกตัวจากครอบครัวของพ่อออกมาแล้วเลี้ยงลูกทุกคนด้วยตัวเองจนมีฐานะเพียงชนชั้นกลาง-ล่าง

เรื่องราวที่ตรงไปตรงมา ปริศนาเจอคุณชายในภาพที่ไม่น่าประทับใจนัก แต่สุุดท้ายเธอและเขาก็รักกัน จากนั้นก็มีอุปสรรคเข้ามา

เรื่องราวน่าสนใจหลายอย่าง ไว้ไปงานหนังสือคงไปซื้อมาอ่านอีกที หน้าโรงละครมีขายแต่ไม่ลดเลย พร้อมกับช่วงนี้อ่านหนังสือพร้อมกันอยู่หลายเล่มจนล้น เลยคิดว่าไว้ก่อนดีกว่า

ส่วน production

  1. โรง M Theater เป็นโรงละคนอเนกประสงค์ที่ดูจะไม่ได้สร้างสำหรับละครเวทีเป็นการเฉพาะนัก slope ค่อนข้างน้อย ทำให้หัวบังกัน
  2. การสลับฉากของ DreamBox ยังไม่มืออาชีพเท่า Scenario แสงตอนเปลี่ยนฉากไม่มืดสนิท การจัดฉากหลายครั้งมีเสียงแปลกๆ ออกมาเยอะ และการจัดฉากไม่ทันบ่อยมาก แม้จะเนียนๆ ว่าเป็นคนใช้จัดโต๊ะก็ตามที
  3. ที่น่าทึ่งคือตัวแสดง เลือกมาค่อนข้างดีมาก ตรงบท และร้องเพลงได้ดี
  4. ตัวเพลงออกมาดีทั้งเรื่อง ไม่ค่อยมีหลุดในระดับที่กระชากอารมณ์ออกจากเรื่อง อาจจะเป็นเพราะเพลงนั้นไม่ยากมากในการไล่เสียงสูงต่ำมากๆ แต่ผมพบว่าการใส่เพลงโชว์พลังโดยที่บางทีนักแสดงไปไม่ไหว (อาจจะไหวตอนซ้อม แต่ตอนแสดงทำไม่ได้) ยิ่งทำให้เรื่องมันแย่ การเลือกใช้เพลงในระดับที่นักแสดงไปได้แน่ๆ นั้นดีกว่ามาก
  5. ห้องน้ำในโรงละครเป็นปัญหาเหมือนกันทั้งกรุงเทพฯ มันจะทำให้พอสำหรับคนทั้งโรงเข้าห้องน้ำเวลาพัก 15 นาทีกันไม่ได้เลยหรือไง
  6. ตัวบทตัดเหลือเวลาเส้นพล็อตหลัง และวางพล็อตรองไว้บ้างได้ดีมาก ทำให้บางพล็อตแทบจะหายไปเลยจากเรื่อง เช่น น้องสาวของคุณชายที่เป็นนักเรียน ผมยังไม่ได้อ่านเลยไม่แน่ใจว่ามีอะไรโดนตัดไปอีกบ้าง แต่เท่าที่ดูบทดีมาก ให้เวลาบทหลักเพียงพอ
  7. ผมไปดูรอบสุดท้ายพอดี คิดว่าเรื่องนี้คงเป็นเรื่องที่ประสบความสำเร็จมากอีกเรื่องหนึ่งของ DreamBox จนต้องเปิดการแสดงใหม่หลังเดือนพฤษภาคม คาดว่าเป็นปัญหาเดียวกับ Screnario คือคณะละครไม่มีโรงละครของตัวเองแล้ว ไม่สามารถเปิดแสดงยืดหยุ่นได้ตามความสำเร็จของเรื่อง ก็ขอให้รวยๆ จนมีโรงละครของตัวเองเร็วๆ
  8. คือถือช่อดอกไม้เยอะมาก เค้าไปให้นักแสดงกันตอนไหน????
 

We Met

แค่คิดถึงความเป็นไปได้แบบหนึ่งขึ้นมาในโลก Social Network คือการ “เจอ” กันของคนกลุ่มต่างๆ แล้ว add social network เข้าหากัน

ปัญหาคือพอเราเจอหน้ากัน คุยกันครั้งเดียวถูกคอ อาจจะอยากกด add โดยง่าย แต่พอตามกันไป เรื่องราวไม่ตรงกัน กลายเป็น list ที่ leak ไม่อยากให้คนเหล่านี้มาเห็นข้อมูลของเรามากเกินไป

มันน่าจะมี API อะไรบางอย่างที่บอกได้ว่าเรา Add ใครใน Social Network เพราะเหตุการณ์แบบนี้ และเมือมันเป็นเหตุการณ์แบบนี้ โปรแกรมที่ิติดตามจะดูว่าเรามีปฏิสัมพันธ์กับคนนั้นจริงหรือไม่ ถ้าไม่มีให้ถอดออกเมื่อเลยเวลาที่กำหนด

แล้วเราก็จากกันไป