denied

นิสัยอย่างหนึ่งของคนไทย (ไม่เคยไปนอก ไม่รู้มีประเทศไหนเป็นมั่ง) คือการปฎิเสธก่อนที่จะตอบคำถามใดๆ เช่น “ไปไหนมา?” คำตอบในทันทีคือ “เปล่า” แล้วตามด้วยคำตอบที่แท้จริง

นิสัยแบบนี่โดยส่วนตัวแล้วผมเชื่อว่ามันเกิดจากความกลัวที่จะเผชิญหน้ากับสิ่งที่ผ่านเข้ามา แม้สิ่งนั้นจะเป็นแค่คำถามที่ดูไม่มีพิษมีภัย

เรากลัวทุกอย่าง… ที่เข้ามาใหม่ในชีวิตของเรา หลายครั้งเราปฎิเสธหลายๆ อย่างไว้ก่อน เพื่อจะได้มีเวลาพิจารณามันให้ดีขึ้นต่อไป

ที่น่าเสียดายคือหลายๆ สิ่งที่เราปฎิเสธไป ไม่ได้มาอยู่รอเราที่จะตัดสินใจใหม่อีกครั้ง


แท้จริงแล้วทุกอย่างก็ล้วนน่ากลัวทั้ง คล้ายในหนังสือการลงทุนหลายๆ เล่มว่าทุกอย่างมีความเสี่ยง แม้เราจะเก็บเงินไว้ในตุ่มหลังบ้านก็ยังคงมีความเสี่ยง

วันนี้ผมเองขับรถด้วยความเร็ว 80 อยู่ช่องทางกลางด้วยการขับมารยาทงามเป็นพิเศษเนื่องจากค่อนข้างเหนื่อยจากการเรียน

แต่แล้วรถคันข้างหน้าก็เสีย เจ้าของรถหยุดกระทันหันให้ผมที่ตามหลังไปไม่ถึงร้อยเมตรต้องตัดสินใจในช่วงเสี้ยววินาทีที่จะขอทางแล้วเปลี่ยนช่องทางนั้นเอง

จะ เกิดอะไรขึ้นถ้าวินาทีนั้นผมปฎิเสธที่จะตัดสินใจ…..


กับคำถามสั้นๆ เราคงไม่ต้องคิดอะไรมากมายเพื่อที่จะพิจารณาใหม่ แล้วตัดสินใจตอบอีกครั้ง
กับเรื่องอีกหลายๆ เรื่องที่จะมีผลกับชีวิตเราไปอีกนานกว่านั้นก็ดูเหมือนจะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ปล. ได้รับแรงบันดาลใจจากเหตุการณ์เฉียดตายประจำวัน

ปล2. ช่วงเดือนที่ผ่านมา ผมกับรถเจอเหตุการณ์บังเอิญแบบไม่น่าบังเอิญเยอะ ถ้าเหตุการณ์อย่างนี้จะบ่งบอกอะไร ก็คงบ่งบอกว่า “พระเจ้ามีจริง”

 

Privacy Issue

ประเด็นที่น่าสนใจในตอนนี้คือถ้าเราจะสร้าง Social 2.0 ที่เชื่อมต่อกันด้วย Interesting Domain เป็นหลัก คือเรื่องของความเป็นส่วนตัว

ขณะที่เราอาจจะยินดีให้นามบัตรกับใครซักคนที่เราเจอหน้าในงานสัมมนาซักงานได้ไม่ยากมากนัก แต่เราอาจจะต้องระวังมากกว่านั้น หากเป็นการพบกันในอินเทอร์เน็ต

เรื่องอย่างนี้ทำให้ Social 2.0 ถูกจำกัดอยู่ในกรอบของความร่วมมือที่ไม่ต้องการความร่วมมือทางกายภาพมากนัก เช่น โปรแกรมโอเพนซอร์สที่เราร่วมมือกันได้โดยผ่านทางเว็บอย่างเดียว หรือจะเป็นการเขียนบล็อก เว็บบอร์ด เพลง ฯลฯ

ประเด็น Virtual Address ยังเป็นเรื่องที่น่าสนใจอีกมาก เพราะบ้านเรายังขาดบริการประเภท mail forwarding อยู่ ทำให้ถ้าเราต้องการส่งผ่านอะไรบางอย่างแก่กันโดยไม่เปิดเผยตัวตน ยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างลำบาก

บริการตู้ ปณ. น่าจะช่วยแก้ปัญหาพวกนี้ได้ แต่เนื่องจากความนิยมที่ไม่มากนัก เนื่องจากใช้งานลำบาก ที่จะต้องเดินไปตรวจตู้อยู่เรื่อยๆ ที่ให้บริการนี้อาจจะไม่เวิร์คในที่สุด

ประเด็นแบบนี้น่าจะสร้าง Business Model แบบใหม่ๆ ได้จำนวนมหาศาลเลยทีเดียว

 

ส่วนหนึ่ง

กับรูปแบบของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไป ค่านิยมในวันนี้คงเป็นเรื่องของความเก่งกาจของตัวบุคคล ที่แต่ละคนมุ่งหน้าที่จะแสดงตัวว่าสามารถดำเนินชีวิตได้โดยไม่ต้องพึ่งพาคนอื่นๆ แต่อย่างใด

เราพยายามพึ่งพาตนเองมากขึ้นเรื่อยๆ เรา “ไหว้วาน” คนอื่นน้อยลง แต่ในเวลาเดียวกันนั้น แรงปรารถนาภายในของเราก็เรียกร้องตลอดเวลาว่าเราอยากวางภาระและความกังวลใจบางส่วนไว้กับใครอีกคน

ความขัดแย้งเช่นนี้ยังคงดูไม่มีวันจบสิ้นกับสังคมที่ดูซับซ้อนขึ้นอย่างไม่มีขีดจำกัด เรายังคงยอมรับความช่วยเหลือจากคนอื่นๆ ต่อเมื่อเราได้ตอบแทนความช่วยเหลือบางอย่างที่ดูเท่าเทียมกัน

แต่ในใจเราก็ตั้งคำถามต่อไป ว่าจะมีใครไหมที่ยอมทำบางอย่างให้เราโดยไม่ได้ต้องการอะไร

 

my RFC

เนื่องจากช่วงนี้ต้องนั่งอ่าน RFC เลยนึกขึ้นได้ว่า RFC นี่เลขมันเยอะพอๆ กับปีเกิดเราหลายๆ คน มานั่งดูเล่นๆ ว่า RFC ของปีไหนเป็นเรื่องอะไรคงฮาๆ ดี

อย่างของผมปี 2525 กลายเป็นเรื่อง Known TCP Implementation Problem

ตอนนี้ยังไม่มันเท่าใหร่เพราะมันมีแค่สี่หลัก อีกหน่อยมีซักหกหลักแล้วเอาเดือนมาต่อกับปีได้คงสนุกกว่านี้

ต่ออีกหน่อย ไหนๆ ก็เล่ามาแล้ว RFC เป็นเอกสารที่ใช้ในการขอความเห็นกับมาตรฐานต่างๆ ที่จะประกาศเป็นมาตรฐานอินเทอร์เน็ต ตามชื่อของมันคือ Request for Comments โดยทั่วไปแล้ว RFC จะเป็นที่ รวมของเอกสารด้านเทคนิคที่คนทั่วไปอ่านไม่ออกกันเท่าใหร่ไว้เป็นจำนวนมาก

แต่ด้วยอารมณ์ขันแบบ nerd ๆ ก็จะมี RFC จำนวนมากที่โคตรฮา โดยเฉพาะ RFC ประจำวัน April’s Fools ถ้าเผื่อใครอยากอ่านเล่นๆ (จะขำมากสำหรับคอเน็ตเวิร์ค) ทีี่ Wikipedia ก็มีรวมไว้ให้แล้วตามฟอร์ม

อันที่ผมเคยเรียนมาคือ IP over Avian Carriers ที่มีพูดถึงในหนังสือเรียนแถมยังมีการนำไปสร้างของจริงแล้วที่อิสราเอล วัดความเร็วได้ถึง 2.27 Mbps (เร็วว่า ADSL บ้านผมหลายเท่า) แถมยังมีการปรับปรุงให้รองรับ QoS อีกด้วย

แถมทท้ายสุดอีกอย่างที่เด็กคอมคงชอบกัน คือ ประวัติศาสตร์แห่ง “foo”