Samba

ช่วงนี้ต้องทำ Samba ให้หลายๆ ที่ ประเด็นที่เพิ่มขึ้นมาเลยกลายเป็นเรื่องของการเปลี่ยนรหัสผ่าน ที่ปรกติแล้วรหัสผ่านของ Samba กับตัวลินุกซ์เองจะเป็นคนละชุดกัน

เรื่องนี้คล้ายๆ จะมีทางออกที่ง่ายๆ เพราะตัว Samba นั้นรองรับการซิงค์รหัสผ่านกลับไปยังลินุกซ์อยู่แล้ว แค่ปรับคอนฟิกใหม่แค่สองบรรทัดเท่านั้น

แต่ปัญหาก็ยังไม่หมด เมื่อรหัสผ่านจะถูกซิงค์แค่ทางเดียวคือ Samba -> ลินุกซ์ เท่านั้น ส่วนถ้าใครใช้คำสั่ง passwd ในเทอร์มินอลก็เป็นอันว่ารหัสผ่านทั้งสองระบบจะเริ่มไม่ตรงกัน

เรื่องนี้ผมหาทางมานานพอดู คำตอบที่ได้ก่อนหน้านี้คือการแนะนำให้ตั้ง LDAP แล้วตรวจสอบสิทธิจาก LDAP เอา ซึ่งยิ่งใหญ่เกินไป

วันนี้กลับไปหาอีกทีก็พบทางสว่าง เมื่อมีบล็อกเขียนถึงเรื่องนี้เอาไว้แล้ว โดยหลักๆ แล้วทางออกที่ดีสำหรับเรื่องนี้คือการใช้ libpam-smbpass ที่มีไลบราลี pam_smbpass.so ที่สามารถเอาไปดักรหัสผ่านตอนเปลี่ยนรหัส และสร้าง Samba Account ให้หากไม่มีอยู่ก่อนหน้าได้ทันที

ในบล็อกที่พูดถึงเค้าเขียนถึง Debian Etch แต่ใน Gutsy ก็ใช้งานได้ไม่ต่างกันมาก

งานต่อไปจะหาทางแก้ MySQL ให้ทำได้เหมือนกัน

 

OSX

วันนี้นั่งอ่าน Dive into Mark (ไม่ใช่มาร์ค Blognone) ที่เขียนตอบอีกบล็อกหนึ่ง แล้วนั่งขำ เลยมานึกดูว่ามันก็เป็นเรื่องแปลกดีเหมือนกันที่ OSX นั้น ถ้าคุณไม่ชอบมัน คุณจะเกลียดมัน

ผมเองเคยจับ OSX ตัวแรกๆ อยู่แค่สัปดาห์เดียวเมื่อต้องทำงานกับมันบางอย่าง ข้อดีอย่างหนึ่งในการทำงานครั้งนั้นคือการที่เลิกอิจฉาคนใช้แมคไปอีกพักใหญ่ๆ เพราะรู้ว่ายังไงแล้วก็ไม่คิดจะไปซื้อใช้เองแน่ๆ

พอดีวันนี้มีเรื่องใน Blognone เข้ามา เลยยิ่งงงว่าแอปเปิลกำลังทำอะไรอยู่กันแน่ สำหรับวินโดวส์นั้นไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่อย่างไร ก็ต้องยอมรับว่าวินโดวส์เป็นระบบปฏิบัติการที่รองรับภาษาไทยได้ดีมาก ข้อนี้ต้องขอชมไมโครซอฟท์ที่ลงทุนลงแรงกันมาเป็นเวลานาน

แต่สำหรับแอปเปิลนั้น ก่อนหน้านี้ผมลองไปใช้งานดูในงานคอมแล้วก็พบว่า น่าประทับใจดีพอสมควร แต่การที่แอปเปิลเริ่มใส่ใจกับภาษาไทยน้อยลงเรื่อยๆ ในช่วงหลังทำให้ชวนคิดว่าแอปเปิลกำลังทำอะไรกันแน่

หรือแอปเปิลจะลอยลำภาษาที่ยอดขายไม่สูงพอแล้วปล่อยให้ซอฟต์แวร์เฮาส์ในบ้านเราไปแฮกกันเองต่อไป….

 

Android ก้าวที่ยิ่งใหญ่?

การเปิดตัวแพลตฟอร์มใหม่ของกูเกิลในนาม Android ที่หวังจะเป็นมาตรฐานใหม่ของโทรศัพท์มือถือนี้นับว่าเป็นความท้าทายล่าสุดที่ทางกูเกิลปล่อยออกมาให้เราได้ชม

ขณะที่ SDK ที่ออกมานั้นนับว่าน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ด้วยความสามารถที่หลากหลาย และ SDK ที่ดูดีมาก จนตอนนี้ดูเหมือนว่าจะบดบังรัสมีของต้นตำรับ “กระแส” มือถือโอเพนซอร์สอย่าง OpenMoko ลงในพริบตา

การเปิดตัวนาทีแรกของกูเกิลในครั้งนี้นับว่า …จุดติด… เลยทีเดียว

แต่คำถามที่ผมสงสัยคือ มีเหตุอะไรจึงไม่มีโทรศัพท์ที่แม้จะไม่ใช่การผลิตในชื่อกูเกิลเอง ออกมาวางขาย หรือกระทั่งออกกำหนดการวางขายหลังการเปิดตัวระบบปฏิบัติการและ SDK ในครั้งนี้

ขณะที่ทาง HTC ออกมาให้ข่าวค่อนข้างชัดเจนว่า บริษัทกำลังจะผลิตมือถือที่ใช้ Android ถึงแปดรุ่นในปีหน้า แต่การออกข่าวแบบไม่มีกำหนดนี้ค่อนข้างน่ากลัวเมื่อเทียบกับวิมานในอากาศที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายๆ ครั้ง

โครงการ OLPC เป็นโครงการหนึ่งที่ค่อนข้างเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีให้กับการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ ในระดับที่เทียบเท่ากับสิ่งที่กูเกิลหวังใน Android เป็น ด้วยการออกข่าวอย่างหนัก แต่ไม่สามารถแสดงผลสำเร็จได้ในเวลาที่เร็วพอ กระแสหลังจากที่เครื่อง OLPC XO ออกวางจำหน่ายจริงจึงต่ำอย่างน่าใจหาย เมื่อเทียบกับ Asus Eee PC ที่วางจำหน่ายจริงในเวลาเพียงหนึ่งไตรมาสหลังการประกาศข่าว นับว่าเป็นการจุดกระแสล่วงหน้าก่อนการเปิดตัวได้อย่างค่อนข้างดี เช่นเดียวกับ OpenMoko ที่พัฒนาช้าและมีราคาแพงขึ้นเรื่อยๆ เสียจนไม่น่าสนใจในช่วงหลัง

นาทีนี้ความอยู่รอดของ Android จึงไม่น่าใช่เรื่องของความสามารถของตัวระบบปฏิบัติการที่ทรงพลัง แต่หากเป็นตัวโทรศัพท์ที่จับต้องได้ต่างหากว่าจะเข้าสู่ตลาดเร็วแค่ไหน

ที่สำคัญกว่านั้นคือจะออกมาในรูปแบบไหนกัน?

ขณะที่แอปเปิลนั้นได้รับความนิยมในระดับที่ยินดีเป็นสาวกกันเป็นจำนวนมาก ผมยังไม่เคยเห็นใครเรียกใครว่าเป็นสาวกกูเกิลมาก่อน นับว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก เพราะคนจำนวนมากใช้งาน Gmail เพราะมันเร็ว, ความจุสูง และใช้งานง่าย มากกว่าเพราะว่ามันเป็นของกูเกิล

ดังนั้นการออกมือถือเครื่องละสองหมื่นแล้วหวังว่าจะขายได้นับล้านเครื่องแบบแอปเปิล ไม่น่าจะเป็นการคาดหวังที่ดีนัก

ขณะที่การตัดสินใจทำระบบเปิดของ Android ช่วยให้ความกังวลในเรื่องของจำนวนแอพลิเคชั่นลดลงไปได้มาก เราน่าจะได้เห็นโปรแกรมเจ๋งๆ จำนวนมากเข้าไปอยู่ใน Google Code  กันในเร็ววันนี้ แต่ความคาดหวังในตัวโทรศัพท์เป็นสิ่งที่กูเกิลและ Android ต้องแบกรับไว้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แน่นอนโทรศัพท์มือถือที่ใช้ Android คงไม่สามารถแบกรับความต้องการไว้ทั้งหมดได้ แต่กูเกิลจะแบกรับมันได้มากพอหรือไม่  นั่นเป็นคำถามที่น่าจะชี้ความเป็นความตายให้กับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ลองนึกความคาดหวังเหล่านั้นว่ามีอะไรบ้าง

  • ราคา ขณะที่โทรศัพท์รุ่นที่โชว์อยู่ในตอนนี้น่าจะมีราคาแพง (จอใหญ่ ความเร็วสูง) โทรศัพท์ที่ใช้งาน Android จำเป็นต้องมีหลากหลายเพื่อกินตลาดให้ครบช่วง แม้อาจจะเป็นไปไม่ได้ที่ Android จะลงไปทำงานในมือถือเครื่องละพัน แต่อย่างน้อย Smartphone รุ่นต่ำๆ ที่อยู่ในช่วง 8000 บาทขึ้นไปก็น่าจะทำงานได้ เพื่อให้ฐานตลาดกว้างขึ้น
  • ความเข้ากันได้ ความได้เปรียบตลอดกาลของแอปเปิลคือการควบคุมฮาร์ดแวร์ด้วยตัวเองทั้งหมด ขณะที่ Android เป็นพันธมิตรจำนวนมาก การใช้ยี่ห้อร่วมกันจะสร้างความคาดหวังในความเข้ากันได้ที่ค่อนข้างสูง เราจะรู้ได้อย่างไรว่าโปรแกรมตัวไหนจะสามารถรันบนโทรศัพท์รุ่นใดบ้างนอกจากการนั่งหาตามเว็บบอร์ด
  • อุปกรณ์เสริม ขณะที่ตลาดอุปกรณ์เสริมเป็นตลาดที่ทำกำไรได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ แต่ในทางกลับกันการที่ตลาดอุปกรณ์เสริมใหญ่ก็มีส่วนช่วยในการตัดสินใจซื้อตัวโทรศัพท์มากขึ้นด้วย ขณะนี้โลกโทรศัพท์มือถือกำลังเริ่มยอมแพ้ต่อการพยายามใช้พอร์ตที่ไม่มาตรฐาน และพันกลับมาใช้ USB กันเรื่อยๆ หาก Android สามารถสร้างตัวเองเป็นมาตรฐานกลางให้กับอุปกรณ์เสริมที่จะสามารถใช้งานข้ามยี่ห้อกันได้อย่างไม่จำกัด ก็น่าจะเป็นจุดแข็งที่น่ากลัวสำหรับคู่แข่งทุกค่ายไป

ต่อตอนหน้า….